โลกขยี้สแกมเมอร์! ไทยต้องเร่งเครื่องปราบจริงจัง
เหตุการณ์ที่สาวไทย วัย 26 ปี ถูกพบว่าเสียชีวิตหลัง “พลัดตกอาคาร” ในเมืองปอยเปต ประเทศจักรกัมพูชา ซึ่งมีข้อสงสัยว่าเกี่ยวโยงกับแก๊งสแกมเมอร์ โดยพบว่าอาคารดังกล่าวอยู่ห่างจากด่านพรมแดนประมาณ 500-600 เมตร และเคยถูกชี้ว่าเป็นฐานที่ใช้ในการหลอกลวงคนไทยเข้าไปทำงานในลักษณะถูกกักขังหรือกดดันให้ทำงาน
ทั้งนี้ ท่าทีของเจ้าหน้าที่ของฝ่ายไทย ที่แสดงออกต่อสแกมเมอร์ในกัมพูชานั้น หากถูกนำไปเปรียบเทียบกับ เกาหลีใต้ พบว่า ระดับความเข้มข้นในมาตรการ ยังแตกต่างกัน โดยทางการไทย ร่วมกับกัมพูชาในการลงนามแผนร่วมปราบปรามแก๊งคอลเซนเตอร์/สแกมเมอร์
โดยไทยส่งข้อมูลจุดฐานที่สงสัยให้กัมพูชา และกัมพูชาสัญญาจะดำเนินการด้านการจับกุม แต่เมื่อเทียบกับท่าทีของประเทศเกาหลีใต้ ที่มีการประกาศห้ามเดินทางไปยังบางพื้นที่ในกัมพูชา (“โค้ดแบล็ก”) และตั้งคณะทำงานฉุกเฉินช่วยเหยื่อที่ถูกหลอกไปทำงานสแกมอย่างจริงจัง จึงอาจกล่าวได้ว่า ไทยมีการ “ดำเนินการแล้ว” แต่ยังไม่ถึงระดับ “เข้มข้น” เทียบกับเกาหลีใต้ในแง่ของมาตรการฉุกเฉินประชาชน/ห้ามเดินทาง/บทลงโทษอาญาระดับสูง/การแทรกแซงกองทัพหรือหน่วยงานพิเศษทำนองเดียวกัน
นายจารุวัฒน์ จิณห์มรรคา รองประธานมูลนิธิ IMF บอกว่า จากการตรวจสอบข้อมูล ของตึกที่หญิงไทยพลัดตกลงมานั้น เป็นฐานของสแกมเมอร์ มีนายทุนชาวจีนเป็นผู้ควบคุม และยังทราบว่ามีคนที่ถูกหลอกไปทำงาน หลายสัญชาติ ถูกกักขังไว้ภายในตึกหลักร้อยคน น้องใบหม่อนคือหนึ่งในนั้น
ซึ่งการถูกหลอกลวงไปทำงาน และกักขังบริเวณ เข้าองค์ประกอบความผิดฐานค้ามนุษย์ชัดเจน ที่ผ่านมาทางด้านมูลนิธิฯ ต่าง ๆ เเละเจ้าหน้าที่ทางการไทย ได้มีการประสานไปยังกัมพูชา เพื่อให้ข้อมูลเเละขอความร่วมมือ ให้ปราบปรามอย่างจริงจัง แต่กัมพูชากลับเพิกเฉย
นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน กล่าวถึงกรณีปราบปรามสแกมเมอร์ว่า รัฐบาลและนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ต้องจริงจังกับการจัดการเครือข่ายสแกมเมอร์ เพราะเรื่องนี้เป็นวาระของโลกที่ต้องการการทำลายล้างให้สิ้นซาก
อีกทั้ง ขณะนี้สหรัฐอยู่ระหว่างต่อรองใช้สนามบินอู่ตะเภาเป็นศูนย์ปราบปรามสแกมเมอร์ นอกจากนี้ยังมีข่าวไม่ยืนยันว่า คนไทย 11 คน ถูกขึ้นบัญชีดำห้ามเข้าสหรัฐ และยังมีบัญชีเฝ้าระวังอีก 12 คน ซึ่งเรื่องเป็นจริงหรือเท็จประการใด สถานทูตสหรัฐประจำประเทศไทยควรชี้แจงให้กระจ่าง
พร้อมเน้นย้ำว่า ขณะนี้การปราบสแกมเมอร์เป็นวาระของโลกแล้ว ดังนั้น นายอนุทิน จึงต้องมีหน้าที่ปราบปรามให้เด็ดขาด โดยจะทำอย่างอื่นคงไม่ได้ ทั้งนี้ประเทศเมียนม่า มีกวาดล้างใหญ่ ทิ้งบอมบ์ทำลายแหล่งสแกมเมอร์ทุกจุด ซึ่งสะท้อนถึงการเอาจริงและจัดการเด็ดขาด
อย่างไรก็ตาม แม้จะยังไม่มีตัวเลขชัดเจนของคนไทยที่เสียชีวิตจากการตกเป็นเหยื่อสแกมเมอร์ที่ปอยเปต แต่เหตุการณ์ล่าสุดถือเป็นสัญญาณเตือนภัยสำคัญ เจ้าหน้าที่ไทย ควรมีการออกมาตรการร่วมกับกัมพูชา อย่างจริงจังมากขึ้น แม้จะยังไม่เข้มข้นเท่าประเทศอย่างเกาหลีใต้
แต่สิ่งที่จำเป็นในขณะนี้ คือ เร่งสร้างระบบป้องกัน ดึงตัวเหยื่อกลับมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และปราบปรามผู้กระทำผิดอย่างจริงจัง หากไม่ดำเนินการอย่างเข้มข้น ไทยอาจตกเป็นพื้นที่ “หลบซ่อน” ของเครือข่ายสแกมเมอร์ในภูมิภาคได้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





