“แพทองธาร”รอดฝ่าฝืนจริยธรรม แต่ป.ป.ช.รับไต่สวน “ครม.เศรษฐา”ปมโยกงบ
ป.ป.ช.ไม่รับคำร้อง! “แพทองธาร” พ้นข้อกล่าวหาฝ่าฝืนจริยธรรม ปมตั้ง “พิชิต ชื่นบาน” นั่งตำแหน่งการเมือง ขณะ รับไต่สวน “ครม.เศรษฐา”ปมโยกงบ 3.5 หมื่นล้านทำดิจิทัลวอลเล็ต เข้าข่ายผิด ม.157
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยผลการพิจารณาคำร้องกรณี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง จากการคัดเลือก นายพิชิต ชื่นบาน เข้าดำรงตำแหน่งทางการเมือง ขณะดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย โดยนายสุรพงษ์ อินทรถาวร รองเลขาธิการ ป.ป.ช. รักษาราชการแทนเลขาธิการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกฯ แถลงว่า จากการตรวจสอบข้อเท็จจริง คณะกรรมการ ป.ป.ช. เห็นว่า พฤติการณ์ที่ถูกร้องนั้นเกิดขึ้น ในช่วงที่นางสาวแพทองธารยังไม่ได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี จึงไม่เข้าข่ายการกระทำของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตามกฎหมาย
ที่ประชุม ป.ป.ช. จึงมีมติ ไม่รับคำกล่าวหาไว้พิจารณา ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 28 (1) โดยระบุว่า การกระทำที่เข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงนั้น จะต้องเกิดขึ้นในระหว่างการดำรงตำแหน่งทางการเมืองเท่านั้น ทั้งนี้ คำร้องดังกล่าวมาจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ส่งเรื่องให้ ป.ป.ช. พิจารณาดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจ ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณาแล้วเสร็จและมีมติเป็นเอกฉันท์ไม่รับไว้ตรวจสอบต่อไป
ขณะเดียวกัน ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติ รับเรื่องไว้ไต่สวน กรณี นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดเดิม ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนร่วมในการ โยกงบประมาณ 35,000 ล้านบาท จากสถาบันการเงินของรัฐ 5 แห่ง ไปใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ซึ่งเข้าข่ายเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามมาตรา 157
โดยนายสุรพงษ์ ในฐานะโฆษกฯ ระบุว่า การพิจารณาพบว่า รัฐบาลเศรษฐาได้มีมติให้สำนักงบประมาณและสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ดำเนินการให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ 5 แห่ง ได้แก่ ธพว., EXIM Bank, ธอส., ธ.ออมสิน และ ธ.ก.ส. ปรับลดงบของตนเองรวม 3.5 หมื่นล้านบาท แล้วนำไปเพิ่มในงบกลาง เพื่อใช้ดำเนินโครงการเติมเงินดิจิทัลตามนโยบายรัฐบาล
อย่างไรก็ตาม การดำเนินการดังกล่าวไม่ได้ตั้งงบชดเชยตามที่กฎหมายการเงินการคลังกำหนด และอาจทำให้รัฐเสียหายทางการคลัง อีกทั้งมีลักษณะเป็นการใช้งบเพื่อผลทางการเมือง จึงมีมติรับไต่สวนใน 4 กลุ่มบุคคล ได้แก่
1.นายเศรษฐา ทวีสิน เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
2.คณะรัฐมนตรีที่ร่วมประชุมและเห็นชอบ
3.นายพรชัย ฐีระเวช ผอ.สศค.
4.นายกรณินทร์ กาญจโนมัย รองผอ.สำนักงบประมาณ
ส่วนกรณี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน และคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ป.ป.ช. มีมติไม่รับเรื่องไว้ไต่สวน เนื่องจากในช่วงเกิดเหตุยังไม่ได้เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จึงไม่ถือว่ามีส่วนเกี่ยวข้องทางนิติฐานะ
นอกจากนี้ ป.ป.ช. ยังมีมติไม่รับเรื่องไต่สวน คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ และสมาชิกรัฐสภาที่ลงมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี 2568 เพราะไม่พบพฤติการณ์หรือหลักฐานชัดเจนว่ามีส่วนร่วมโดยตรง
สำหรับข้อกล่าวหาเรื่องการแปรญัตติเพิ่มงบกองทุนผู้เคยเป็นสมาชิกรัฐสภา จำนวน 1,256 ล้านบาทนั้น ป.ป.ช. ตรวจสอบแล้วพบว่า คณะกรรมาธิการไม่เห็นชอบให้เพิ่มงบดังกล่าว และงบประมาณที่ประกาศใช้จริงเท่ากับที่เสนอเดิม จึงมีมติ ยุติการสอบสวนทางลับ เนื่องจากข้อกล่าวหาไม่มีมูล
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





