“มาริษ” เตือนรัฐบาลอย่าปล่อยไทยเป็นแค่ “หมากในเกมแรร์เอิร์ธ”
“มาริษ”เตือนรัฐบาลอย่าปล่อยไทยเป็นแค่ “หมากในเกมแรร์เอิร์ธ” ขณะ “รัศม์” จี้แจง MOU ให้ชัด หวั่นกระทบความน่าเชื่อถือประเทศ
นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ออกมาเตือนรัฐบาลหลังไทยลงนาม MOU ความร่วมมือแร่หายาก (Rare Earths) กับสหรัฐฯ ว่า นี่ไม่ใช่แค่ข้อตกลงด้านทรัพยากร แต่คือ “เกมภูมิรัฐศาสตร์แห่งศตวรรษที่ 21” ที่มหาอำนาจกำลังแย่งชิง “หัวใจของเทคโนโลยีโลก”
ตั้งแต่ AI, เซมิคอนดักเตอร์, EV ไปจนถึงอาวุธยุทโธปกรณ์ พร้อมชี้ว่า ไทยต้องวางตัวเป็น “ผู้เดินหมาก” ไม่ใช่ “หมากในเกม”
นายมาริษ ระบุว่า แม้ MOU ดังกล่าวไม่มีผลผูกพันทางกฎหมาย แต่มี “ผลทางยุทธศาสตร์และภาพลักษณ์” เพราะทุกลายเซ็นคือสัญญาณทางการเมืองในสงครามเทคโนโลยีระหว่างสหรัฐฯ และจีน ซึ่งไทยต้องรักษา “สมดุลแห่งอำนาจ” เพื่อไม่ให้สูญเสียอำนาจต่อรองในระยะยาว
พร้อมเสนอให้รัฐบาลใช้ “การทูตเทคโนโลยี” (Tech Diplomacy) เป็นเครื่องมือใหม่ในการสร้างเศรษฐกิจอนาคต เชื่อมอุตสาหกรรมไทยเข้าสู่ห่วงโซ่โลก และมองแร่หายากเป็น “ทุนอำนาจแห่งชาติ” มากกว่าเป็นเพียงทรัพยากรธรรมชาติ
ดังนั้น อย่ายอมให้ไทยเป็นหมาก แต่ต้องทำให้ไทยเป็นผู้เดินหมาก” พร้อมเรียกร้องให้มียุทธศาสตร์ชาติด้านการทูตเทคโนโลยี เพื่อรักษาอธิปไตยทางเทคโนโลยีและผลประโยชน์ของประเทศ
ด้านนายรัศม์ ชาลีจันทร์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เห็นว่า รัฐบาลควรออกมาชี้แจงรายละเอียด MOU ดังกล่าวให้ชัดเจน โดยเฉพาะผลประโยชน์ที่ไทยจะได้รับ มากกว่าการระบุเพียงว่า “ไม่มีผลผูกพัน” พร้อมตั้งคำถามว่า หากไม่มีผลผูกพันจริง แล้วเหตุใดอีกฝ่ายจะต้องให้ความร่วมมือ
และการที่ไทยลงนามแล้วกลับออกมาประกาศว่า “ฉีกได้ทุกเมื่อ” อาจทำให้ประเทศสูญเสียความน่าเชื่อถือในสายตานานาชาติ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





