”ช้างศึก” ในมือคนใหม่ ”ฮัดสัน” ท้าพิสูจน์ศรัทธาแฟนบอลไทย
ณ ห้องประชุม ชั้น 2 อาคาร FA Thailand วันที่ 23 ตุลาคม 2568 เวลา 13.30 น. ที่ผ่านมา เสียงกล้องแฟลชดังทั่วห้องประชุม เมื่อ “แอนโธนี ฮัดสัน” กุนซือชาวอังกฤษวัย 44 ปี ก้าวขึ้นเวทีอย่างเป็นทางการในฐานะ หัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลชายทีมชาติไทย ชุดใหญ่ คนใหม่ พร้อมรอยยิ้มและแววตาที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ
การแถลงข่าวครั้งนี้ไม่ใช่แค่ “พิธีเปิดตัวโค้ชคนใหม่” แต่คือจุดเริ่มต้นของ “แนวทางใหม่แห่งฟุตบอลไทย” ภายใต้แนวคิดที่ผสมผสานความเป็นระบบ ความรู้เชิงเทคนิค และหัวใจที่รักในเกมฟุตบอลอย่างแท้จริง

“ผมรักประเทศไทย และอยากเห็นฟุตบอลไทยไปได้ไกล”
“ก่อนอื่น สวัสดีทุกคนและขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมงานในวันนี้” ฮัดสันเปิดใจด้วยน้ำเสียงมั่นคง “กราบขอบคุณมาดามแป้ง นายกสมาคมฯ และผู้บริหารที่มอบโอกาสนี้ให้ ผมจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เพื่อให้ทีมชาติไทยพัฒนาและบรรลุเป้าหมายต่อไป”
สำหรับ “แอนโธนี ฮัดสัน” เส้นทางสู่ความสำเร็จเริ่มตั้งแต่เยาว์วัย เขาเติบโตในครอบครัวลูกหนังโดยมีคุณพ่อ “อลัน ฮัดสัน” อดีตนักเตะพรีเมียร์ลีกอังกฤษเป็นแรงบันดาลใจ ก่อนจะก้าวสู่เส้นทางโค้ชมืออาชีพ ผ่านประสบการณ์คุมทีมในหลายประเทศ ทั้งบาห์เรน, นิวซีแลนด์, กาตาร์ และสหรัฐอเมริกา จนกระทั่งเดินทางมาถึง “ประเทศไทย” ที่เจ้าตัวนิยามว่า “บ้านหลังที่สองในวงการฟุตบอล”
“ผมโชคดีที่ได้ทำงานในหลายประเทศ แต่ประเทศไทยเป็นที่พิเศษจริงๆ เพราะผู้คนยิ้มแย้ม ให้เกียรติซึ่งกันและกัน และมีพลังในเกมฟุตบอลอย่างมาก ผมรู้สึกถึงความรักในฟุตบอลของทุกคนที่นี่” ฮัดสันกล่าวด้วยแววตาจริงใจ
จาก “ผู้อำนวยการเทคนิค” สู่ “หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติ”
ก่อนหน้านี้ ฮัดสันทำหน้าที่ ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคของสมาคมฯ ดูแลการพัฒนาเยาวชนและโครงสร้างฟุตบอลรากฐาน ซึ่งเจ้าตัวย้ำว่าบทเรียนในช่วงนั้นคือรากฐานสำคัญของการทำงานในปัจจุบัน
“ช่วงที่ผมทำงานในฝ่ายเทคนิค ผมได้เห็นถึงความทุ่มเทของทุกคนในสมาคม ได้เรียนรู้ระบบเยาวชน เห็นการทำงานของโค้ชและนักเตะในทุกระดับ” เขาเล่า “สิ่งหนึ่งที่ผมเชื่อคือ ความสอดคล้องของแนวทางทีมชาติทุกชุดเป็นสิ่งสำคัญ เด็กที่เติบโตจาก U17, U19, U23 ต้องเดินบนเส้นทางเดียวกัน ทั้งวัฒนธรรม วิธีคิด และรูปแบบการเล่น”
สร้างอัตลักษณ์ฟุตบอลไทย พัฒนาเยาวชนต่อเนื่อง
หนึ่งในแนวคิดหลักของฮัดสันคือ การสร้างอัตลักษณ์ฟุตบอลไทยให้ชัดเจนและยั่งยืน เขามองว่า นอกจากเทคนิคในสนามแล้ว “วัฒนธรรมฟุตบอล” คือสิ่งที่ต้องปลูกฝังตั้งแต่ระดับเยาวชน
“เราต้องทำให้ทุกชุดมีแนวทางใกล้เคียงกัน เพื่อให้ผู้เล่นเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ต้องปรับตัวใหม่ทุกครั้งที่ขยับขึ้นชุดใหญ่” ฮัดสันอธิบาย “ฟุตบอลไทยมีศักยภาพมาก แต่อาจขาดระบบที่ต่อเนื่อง สิ่งนี้คือสิ่งที่ผมตั้งใจจะช่วยสร้าง”
เขายังกล่าวถึงความสำคัญของระบบ ฐานข้อมูลนักกีฬา (Scouting Database) ที่สมาคมฯ กำลังพัฒนา เพื่อให้การเก็บข้อมูลนักเตะทั้งในและต่างประเทศเป็นระบบต่อเนื่อง “หลังจากนี้ ทุกคนจะไม่เริ่มจากศูนย์อีกต่อไป”
เชื่อมั่นศักยภาพ “นักเตะไทย” และ “แฟนบอลไทย”
เมื่อพูดถึงเป้าหมายในสนาม ฮัดสันย้ำถึงความเชื่อมั่นในนักเตะไทยทุกคน ไม่ว่าจะเป็นดาวรุ่งหรือรุ่นพี่มากประสบการณ์
“ฟุตบอลทีมชาติต้องการทั้งพลังของเยาวชนและความนิ่งของผู้เล่นอาวุโส คนรุ่นพี่จะช่วยสอนวิธีดูแลตัวเองในเกมเยือน ในต่างวัฒนธรรม สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่เยาวชนต้องเรียนรู้”
เขายังไม่ลืมกล่าวถึงแฟนบอลไทยว่าเป็นพลังสำคัญที่สุดของทีม “ผมเห็นแล้วว่าแฟนบอลไทยรักฟุตบอลมากแค่ไหน ทุกคอมเมนต์ ทุกเสียงวิจารณ์ ผมรับฟังด้วยความเคารพ เพราะมันแปลว่าทุกคนอยากเห็นทีมชาติไทยไปให้ไกลกว่านี้”
ภารกิจแรก สองแมตช์ชี้ชะตา
เป้าหมายแรกของกุนซือรายนี้คือการพา ทีมชาติไทยผ่านรอบคัดเลือก เอเชียน คัพ 2027 โดยเริ่มจากเกมอุ่นเครื่องกับ สิงคโปร์ ที่สนามกีฬาธรรมศาสตร์ รังสิต วันที่ 13 พฤศจิกายน 2568 ก่อนออกไปเยือน ศรีลังกา ในวันที่ 18 พฤศจิกายน
“สองเกมนี้มีความสำคัญมาก แต่ผมมั่นใจในทีมชาติไทย ทุกคนมีศักยภาพสูง และถ้าเรามีทัศนคติที่ถูกต้อง เราจะคว้าผลการแข่งขันที่ต้องการได้แน่นอน”
สานต่อ ไม่ปฏิวัติ เคารพสิ่งที่อิชิอิสร้างไว้
ฮัดสันย้ำว่า การมารับไม้ต่อจาก มาซาทาดะ อิชิอิ คือภารกิจที่ต้องทำด้วยความเคารพ “ผมเคารพสิ่งที่โค้ชอิชิอิทำไว้ สิ่งที่ทีมมีอยู่ตอนนี้ดีมาก ผมจะไม่ปฏิวัติทุกอย่าง แต่จะค่อยๆ วิวัฒนาการทีมให้ดียิ่งขึ้น”
มองไกลถึง “ฟุตบอลโลก”
แม้จะเพิ่งเริ่มต้นในบทบาทใหม่นี้ แต่เป้าหมายระยะยาวของแอนโธนี ฮัดสันชัดเจน “ฟุตบอลโลก” “ผมเชื่อว่าไทยมีโอกาสไปฟุตบอลโลกได้ แต่เราต้องสร้างรากฐานที่แข็งแรง ทั้งระบบเยาวชน การแข่งขัน และการพัฒนาโค้ช นั่นคือเส้นทางสู่ความยั่งยืน”
จุดเริ่มต้นของการเดินทางใหม่
การเปิดตัวของ “แอนโธนี ฮัดสัน” ไม่ใช่เพียงการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งกุนซือ แต่คือการเปลี่ยนแนวคิด “จากความฝัน สู่การวางระบบ”
เขาไม่ได้สัญญาว่าจะพาช้างศึกคว้าแชมป์ในทันที แต่ให้คำมั่นว่าจะสร้าง “วัฒนธรรมฟุตบอลไทยที่ยั่งยืน”
“ผมไม่ได้มาที่นี่เพื่อเปลี่ยนฟุตบอลไทยในชั่วข้ามคืน แต่ผมมาที่นี่เพื่อสร้างอนาคตที่มั่นคงให้ฟุตบอลไทยตลอดไป”
สำหรับ ฟุตบอลชายทีมชาติไทย ชุดใหญ่ จะมีโปรแกรมในช่วงฟีฟ่า เดย์ เดือนพฤศจิกายน 2568 โดยเริ่มต้นด้วยการ อุ่นเครื่องตามปฏิทิน ฟีฟ่า เดย์ กับ ทีมชาติสิงคโปร์ ทีมอันดับ 155 ของโลก ที่ สนามกีฬาธรรมศาสตร์ รังสิต ในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2568 เวลา 19.30 น. ต่อด้วย บุกไปเยือน ทีมชาติศรีลังกา ทีมอันดับ 193 ของโลก ในการแข่งขันฟุตบอล เอเชียน คัพ 2027 รอบคัดเลือก นัดที่ 5 ในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2568
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





