Home
|
ทั่วไป

สรุปดราม่า มูลนิธิ “กันจอมพลัง ช่วยสู้”

Featured Image

 

กลายเป็นประเด็นต่อเนื่องเลยสำหรับ “กัน จอมพลัง” ซึ่งประเด็นล่าสุด คือ “มูลนิธิ กันจอมพลัง ช่วยสู้” ถูกจับผิดเข้าอีกแล้ว เริ่มประเด็นจาก “กัน จอมพลัง” ไม่มีชื่อเป็นประธาน จนพีคต่อไปอีก กับข้อความในเอกสาร ตั้งมูลนิธิข้อ 39 ถ้ามูลนิธิต้องเลิกล้มไป.. ทรัพย์สินทั้งหมดของมูลนิธิที่เหลืออยู่ให้ตกเป็นกรรมสิทธิ์แก่ “มูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า”

 

เรามาสรุปประเด็นนี้กัน ว่า “กันจอมพลัง” ชี้แจงยังไง แล้วจริงๆ แล้วการตั้งมูลนิธิ ต้องทำอะไรบ้าง

ต้องยอมว่า “กัน จอมพลัง” คือคนของสังคม และประเด็น “กัน จอมพลัง” ไม่มีชื่อเป็นประธาน หรือ คณะกรรมการ ใน “มูลนิธิกันจอมพลังช่วยสู้” ที่เน้นเรื่องงานช่วยเหลือสังคม และที่สำคัญมีหลายคน ร่วมบริจาคเงินในโครงการหลายๆ โครงหวังช่วยเหลือเพื่อนในสังคม ทั้งเคสตึก สตง.ถล่ม น้ำท่วมหลายพื้นที่ หรือปมล่าสุด ชายแดนไทย-กัมพูชา

 

22 ต.ค. 68 กัน จอมพลัง ชี้แจงผ่านไลฟ์เพจเฟซบุ๊ก กันจอมพลัง ช่วยสู้ ระบุว่า งงเหมือนกัน การช่วยสังคมทำไม มันยากลำบากจัง กับการเป็น “กัน จอมพลัง” และต้องมาคอยตอบคำถาม ที่มีคนจ้องเล่นงานหรือเปล่า

 

“กัน จอมพลัง” ชี้แจงว่า “มูลนิธิ กันจอมพลัง ช่วยสู้” ผมไม่ได้เป็นประธานหรือกรรมการ ผมเป็นคนคิด เป็นผู้ก่อตั้ง เป็นคนทำเอกสาร และเป็นที่ปรึกษามูลนิธิ มันผิดกฎหมายตรงไหน

 

ทีมที่มาทำงานเป็นทีมบริหาร แบ่งหน้าที่กันทำ วันนี้ผมลงพื้นที่ แล้วผมต้องทำเอกสารด้วยหรือ เรื่องนี้มีคนตั้งเรื่องขึ้นมาเพื่อดิสเครดิต ทำไมถึงบอกว่าดิสเครดิต การที่ผมไม่ได้มีชื่อเป็นประธาน หรือกรรมการมูลนิธิฯ ไม่ได้ผิดกฎหมายนะ

 

ผมลองตั้งคำถาม ถ้าวันนี้ผมยังอยู่ตรงนี้ แล้วเกิดเสียชีวิตไป ต่อไปคนที่มารับเป็นประธานหรือกรรมการมูลนิธิฯ เป็นคนต่อไป คือไม่โปร่งใสเลยเหรอ

 

มูลนิธิใหญ่ๆ ระดับประเทศ ก็ใช้ระบบเดียวกัน ผมแปลกใจ ทำไมเกิดปัญหาที่มูลนิธิกันจอมพลังช่วยสู้  แต่ในขณะที่ “กัน จอมพลัง” ชี้แจง

 

นายนรเศรษฐ์ นาหนองตูม ทนายความชื่อดัง ได้โพสต์เฟซบุ๊กถึงการจดทะเบียนจัดตั้ง “มูลนิธิกันจอมพลังช่วยสู้” เปิดเอกสาร การตั้งมูลนิธิ ที่ระบุว่า ตามข้อบังคับของมูลนิธิกันจอมพลังช่วยสู้ ข้อ 39 กำหนดว่า ถ้ามูลนิธิต้องเลิกล้มไป.. ทรัพย์สินทั้งหมดของมูลนิธิที่เหลืออยู่ให้ตกเป็นกรรมสิทธิ์แก่ “มูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า”

 

เลยทำให้ประเด็นนี้ร้อนแรงมากขึ้น มีความเห็นแตกออกมา ว่าที่ผ่านมาเงินที่บริจาค เราบริจาคให้ใคร ?

 

ทำให้ “กัน จอมพลัง” ต้องชี้แจงอีกรอบเน้นเรื่องข้อ 39 ว่า มูลนิธิดังกล่าวก่อตั้งขึ้นก่อนช่วงก่อนเกิดเหตุอาคาร สตง. ถล่ม ขณะนั้นได้รับคำแนะนำด้านเอกสารและขั้นตอนจากเจ้าหน้าที่มูลนิธิ และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ในฐานะผู้มีประสบการณ์ด้านการช่วยเหลือสังคม เราก็ทำตามขั้นตอนระเบียบที่มีอยู่ ไม่ได้คิดว่าจะมีวันนี้ หรือคิดว่าจะต้องเลิกมูลนิธิ จึงใส่ชื่อไว้ตามแบบฟอร์มที่แนะนำมา

 

ยืนยัน ไม่เคยมีเจตนาจะยกเลิกมูลนิธิแล้วโอนทรัพย์สินให้ใคร มูลนิธิยังคงเดินหน้าช่วยเหลือประชาชนต่อไป แม้ขณะนี้งบประมาณติดลบหลักสิบล้านบาท เพราะโครงการช่วยเหลือประชาชนที่วางไว้ แต่เงินทุกบาทคือช่วยประชาชน ทรัพย์สิน รถที่ใช้ เป็นของมูลนิธิทั้งหมดไม่มีของตนเอง

 

เมื่อเกิดประเด็นก็เป็นเรื่องดี ถ้าทุกคนรู้สึกไม่สบายใจ ผมก็ให้เปลี่ยนไปทำในมูลนิธิที่หลายคนสบายใจ

 

ภายหลังให้สัมภาษณ์ กัน จอมพลัง ได้คอมเมนต์ผ่านเฟซบุ๊กว่า “ส่วนข้อ 39 หากเลิกมูลนิธิ กันจอมพลัง ให้ทรัพย์สินทั้งหมดย้ายไปเป็นมูลนิธิราชประชานุเคราะห์

 

ปัจจุบัน “มูลนิธิกันจอมพลัง ช่วยสู้” ยังอยู่และไม่มีเงินออกไปที่มูลนิธิธรรมนัส เวลาจะคัดคนครับ”

 

สำหรับ การตั้ง มูลนิธิ (Foundation) ในประเทศไทยต้องดำเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนด โดยอยู่ภายใต้ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 110 ถึง 136 ว่าด้วย “นิติบุคคลประเภทมูลนิธิ” และอยู่ในอำนาจของ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย

 

มูลนิธิ คือ นิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นเพื่อประโยชน์สาธารณะ (เช่น การศึกษา ศิลปะ ศาสนา สาธารณสุข สิ่งแวดล้อม ) โดยใช้ ทรัพย์สินที่มีผู้บริจาคให้ เพื่อดำเนินกิจกรรมตามวัตถุประสงค์นั้น

 

ไม่สามารถแบ่งกำไรให้ผู้ก่อตั้งหรือกรรมการได้ เงินทั้งหมดต้องนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ของมูลนิธิเท่านั้น

 

รายชื่อคณะกรรมการมูลนิธิอย่างน้อย 3 คน ต้องมีสัญชาติไทยเท่านั้น

 

บัญชีรายการทรัพย์สินตั้งต้นของมูลนิธิต้องมีทรัพย์สินมูลค่าอย่างน้อย 500,000 บาทขึ้นไป (สำหรับมูลนิธิทั่วไป)

 

ภายหลังได้รับอนุมัติ ต้องเปิดบัญชีธนาคารในนามมูลนิธิ ทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายประจำปี และส่งให้สำนักงานเขต/อำเภอทุกปี หากต้องการขอเป็น มูลนิธิที่ได้รับสิทธิ์ลดหย่อนภาษี ต้องยื่นต่อ กรมสรรพากร เพิ่มเติมด้วย

 

ซึ่ง “กัน จอมพลัง” หรือบุคคลใดก็ตาม ไม่จำเป็นต้องเป็นประธานมูลนิธิ เสมอไป มูลนิธิเป็นนิติบุคคลที่บริหารงานโดย “คณะกรรมการมูลนิธิ” ซึ่งจะมีตำแหน่งต่าง ๆ เช่น ประธานกรรมการ , รองประธาน ,เหรัญญิก , เลขานุการ และกรรมการอื่น ๆ

 

ผู้ก่อตั้งมูลนิธิ (หรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง เช่น กัน จอมพลัง) สามารถเลือกที่จะไม่ดำรงตำแหน่งใดเลยก็ได้ เพียงแต่ต้องมีคณะกรรมการ อย่างน้อย 3 คนที่มีสัญชาติไทย เพื่อให้มูลนิธิสามารถจดทะเบียนได้ตามกฎหมาย

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube