นายกฯ สั่ง กต.ตรวจสอบ ปมชื่อนักการเมืองเอี่ยวสแกมเมอร์ หากผิดไม่มีเว้น
”อนุทิน“ สั่ง กต.ตรวจสอบข้อเท็จ หลังสะพัดนานกฯเกาหลีใต้เตรียมเปิดชื่อ 7 นักการเมืองไทย เอี่ยวสแกรมเมอร์ บอกคุยกับ ปธน.เกาหลีใต้ ไม่มีเรื่องนี้ ลั่น หากพบผิดจริงไม่มียกเว้น วอนสื่ออย่าถามนำ ปม บ.ปริ๊นซ์ กรุ๊ป ตั้งในตึกซิโน-ไทย บอกปลด ”ธรรมนัส“ หรือไม่ ขึ้นอยู่กับคำความผิด หลัง สส.โรมจี้ เหตุโยง ”เบน สมิธ“ บอก ตั้งทนายเลือกคนไว้ใจ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีบางเพจอ้างว่า นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ ออกมาระบุว่ามีนักการเมืองไทย7คน ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการสแกมเมอร์ ในกัมพูชา ว่า ได้มอบหมายให้ กระทรวงการต่างประเทศ และทีมงาน สืบหาข้อเท็จจริง ขออย่ากังวลหากมีรายชื่อมา เราก็จะดำเนินการ และหากมีหลักฐานใดที่ทำผิดกฏหมาย ก็จะดำเนินคดีอยู่แล้ว ไม่มีข้อยกเว้น และย้ำว่าอย่ากังวลเรื่องนี้
เมื่อถามว่า เมื่อวันที่ได้โทรศัพท์พูดคุยกับประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ทางเกาหลีใต้ได้มีการแจ้งเรื่องดังกล่าวด้วยหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ท่านยังไม่ได้แจ้งเรื่องนี้กับตน และไม่ได้พูดเรื่องนี้เลย ตนถึงได้บอกว่าให้รอการตรวจสอบก่อน พร้อมถามกลับว่า ข่าวที่เกิดขึ้นมาจากเพจใช่หรือไม่ หากมาจากเพจ เราก็ต้องตรวจสอบ เพราะตนเพิ่งได้หารือกับประธานาธิบดีเกาหลีใต้ เมื่อวันพฤหัสบดี ที่ผ่านมา
ซึ่งไม่ได้มีการหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดคุย แต่หากเรื่องนี้เป็นความจริงตนก็จะมีโอกาสได้พบกับผู้นำเกาหลีใต้ ในการประชุมเอเปกอีกสองอาทิตย์ และหากมีการเปิดเผยชื่อออกมาก่อน ก็จะดำเนินการตรวจสอบ ว่าหากมีหลักฐานก็ต้องดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา
เมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่หากจะให้ทางกระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการตรวจสอบที่เกาหลีใต้ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปร่วมประชุมเอเปก แต่นายอนุทิน ยังฟังคำถามไม่จบ ก็พูดต่อทันทีว่า ”สั่งแล้วครับสั่งแล้ว เดี๋ยวเอา LINE ให้ดูเลยว่าสั่งไปแล้ว และให้ทางสถานเอกอัครราชทูตไทยในเกาหลีใต้ตรวจสอบในเรื่องนี้ด้วย”
เมื่อถามถึงกรณีที่นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชนเรียกร้องให้ดำเนินการตรวจสอบ และปลด ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ออกจากตำแหน่งเนื่องจาก ถูกกล่าวหาว่ามีความสนิท กับนาย เบน สมิธ และได้ตั้งทีมทนายความเดียวกันกับตัวเอง ไปช่วยนายเบน สมิธ ในการสู้คดี
นายอนุทินกล่าวว่า การตั้งทนายความ ถ้าหากตนจะตั้งทนายมาทำคดี ก็ต้องตั้งคนที่มีความใกล้ชิดกับตน เราก็ต้องคนที่ไว้วางใจและคุยกันรู้เรื่อง จะปลดหรือไม่ปลดอยู่ที่รูปคดี อยู่ที่คำพิพากษา และการกระทำผิด ขอให้ถามเรื่องงานอย่าไปถามเรื่องชื่อบุคคลแบบนี้ไม่ได้
ผู้ข่าวถามต่อว่า ประชาชนรอดูท่าทีเชิงรุกของรัฐบาลในการปราบปราม สแกมเมอร์และ อาชญากรรมออนไลน์ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเพียงสัปดาห์เดียว หลังจากที่รัฐบาลชุดนี้เข้ามาทำงาน ก็มีรายงานจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติและ กระทรวงดิจิทัลฯ เข้ามา ว่าสามารถดำเนินการจับกุมได้37รายและอยู่ระหว่างดำเนินการขยายผลต่างๆอีกมากมาย
และวันพรุ่งนี้จะมีการประชุมชุดใหญ่เรื่องการปรับสแกมเมอร์ เพื่อมอบหมายให้แต่ละหน่วยงาน ดำเนินการต่อยอด จากสิ่งที่เขาทำไว้อยู่แล้ว
เมื่อถามว่าหลายประเทศได้จับมือกันคว่ำบาตร และบรรยากาศทางการเงิน กลับบริษัทของกัมพูชาที่มีส่วนเกี่ยวข้อง กับสแกมเมอร์ ไทยจะร่วมด้วยหรือไม่ และวันพรุ่งนี้จะมีการนำเรื่องนี้เข้าร่วมหารือด้วยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกอย่าง เรื่องสแกมเมอร์ถือเป็นวาระของภูมิภาคนี้ วาระของโลกด้วยซ้ำ เราก็ต้องเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมมือในการปราบปราม ทุกวิถีทางและเต็มรูปแบบ
ส่วนมาตรการตัดเน็ต และการขนส่งน้ำมันที่รัฐบาลชุดที่แล้วทำไว้กับฝั่งเมียนมา จะมีการ นำมาใช้ในการปราบสแกมเมอร์ กับฝั่งกัมพูชาด้วยหรือไม่ นายกฯ ถามกลับว่า ไฟถูดตัดไหมครับ ทุกวันนี้หากเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เราก็ดำเนินการอยู่แล้ว
เมื่อถามถึงกรณีบริษัท ปริ๊นซ์ อินเตอร์เนชั่นแนลฯ ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับเครือข่ายสแกมเมอร์ มีที่ตั้งอยู่ในอาคาร Sino-Thai Tower นายกรัฐมนตรี รีบเดินออกจากวงสัมภาษณ์ พร้อมกับพูดว่า จะต้องรีบไปเปิดงานต่อ และกล่าวต่อว่า “เขาตอบไปแล้วนี่ครับ อย่าถามนำ ไม่เกี่ยวข้องนะครับ“
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





