เพื่อไทย จี้ “รบ.อนุทิน”ปราบสแกมเมอร์ยึดประโยชน์ปชช.เป็นตัวตั้ง
เพื่อไทย ออกแถลงการณ์ 7 มาตรการเชิงรุกปราบสแกมเมอร์-ฟอกเงิน-อาชญากรรมข้ามชาติ ยกความสำเร็จที่เคยทำได้ยุค “รัฐบาลแพทองธาร” จี้ “รัฐบาลอนุทิน”ต้องเอาผลประโยชน์ประชาชนเป็นตัวตั้ง ไม่ใช่หวังคะแนนนิยม
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง อดีตรองนายกรัฐมนตรีและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พร้อม สส.พรรคเพื่อไทย ร่วมกันแถลงการณ์ “ข้อเสนอมาตรการเชิงรุกในการร่วมปราบปรามสแกมเมอร์ ขบวนการฟอกเงิน และอาชญากรรมข้ามชาติ” ว่า ปัญหาสแกมเมอร์ อาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งเคยได้รับการแก้ไขจนเห็นผลเป็นรูปธรรมในรัฐบาลของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร กลับมาเป็นปัญหาสำหรับพี่น้องประชาชน และประเด็นใหญ่ระดับโลกอีกครั้ง สืบเนื่องจากกรณีที่มีการกดดันจากสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และเกาหลีใต้ เดินหน้าปราบปราม ติดตามขบวนการสแกมเมอร์ในกัมพูชาอย่างจริงจัง
พรรคเพื่อไทย ขอเรียกร้องให้รัฐบาลเดินหน้ามาตรการเชิงรุก ยกระดับมาตรการปราบปรามขบวนการกล่าวเพื่อไม่ให้ประเทศไทยส่วนหนึ่งของอาชญากรรม ดังนี้
1. ดำเนินมาตรการ 3 ตัด คือ ตัดไฟ ตัดอินเทอร์เน็ต ตัดการขนส่งน้ำมัน เพื่อสกัด Scam Center ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยอาจพิจารณายกระดับจากโมเดลความร่วมมือระหว่างประเทศไทย-จีน-เมียนมาที่สำเร็จมาแล้วในสมัยรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร
2. กลับมาเข้มงวดเรื่องการปิดเส้นทางธรรมชาติ เพื่อป้องกันการหลอกลวงเอาคนไทยข้ามไปและการลักลอบหนีกลับเข้ามาในประเทศอย่างผิดกฎหมาย
3. เร่งสานต่องานจากรัฐบาลชุดที่ผ่านมา และเจรจากับประเทศเพื่อนบ้านและประเทศที่เกี่ยวข้องอื่นเพื่อ ตั้งศูนย์บริหารเหตุการณ์แก๊งคอลเซ็นเตอร์และค้ามนุษย์นานาชาติ (ศกค.) ระดมความร่วมมือจากนานาประเทศ ปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ข้ามชาติอย่างเป็นรูปธรรม แก้ไขขั้นเด็ดขาด ช่วยเหลือเหยื่อกลับบ้าน
4. เจรจากดดันเพื่อให้กัมพูชายอมรับเงื่อนไขข้อที่ 3 คือ การร่วมปราบปรามสแกมเมอร์ ซึ่งอยู่ในเงื่อนไข 4 ข้อเดิมตามมติ สมช. สมัยรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ที่ได้เคยเสนอไว้ ไปผลักดันผ่านการลงนาม Peace Agreement ในการประชุม ASEAN SUMMIT ที่จะถึงในวันที่ 26 ตุลาคม 2568 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์
5. ให้รัฐบาลกลับมาจริงจังเรื่องของการระงับบัญชีม้า และซิมที่ผูกกับโมบายแบงก์กิ้ง ที่ได้รับการพิสูจน์ยืนยันว่าเกี่ยวข้อง ตลอดจนการปราบปรามเว็บพนันและเว็บหลอกลวงผิดกฎหมายเพื่อป้องกัน มิจฉาชีพออนไลน์ในประเทศ โดยในรัฐบาลชุดที่แล้วก็ได้ใช้มาตรการนี้ในการระงับบัญชีม้ากว่า 500,000 บัญชี และป้องกันการสูญเสียได้กว่า 20,000 ล้านบาท
6. ควรจัดให้มีการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์ ตามพรก. มาตราการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 และเร่งออกกฎหมายลำดับรอง เพื่อให้สอดคล้องกับ พรก. ป้องกันและปรามอาชญากรรมด้านไซเบอร์ และพรก. สินทรัพย์ดิจิทัล
7. ให้รัฐบาลใช้ศูนย์ AOC 1441 ที่ได้ตั้งขึ้นในรัฐบาลชุดที่แล้ว เพื่อเป็น One Stop Service ในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการหลอกลวงออนไลน์แบบเร่งด่วน เพื่อให้เรื่องร้องทุกข์ เรื่องระงับธุรกรรมทางการเงิน และเรื่องการประสานงานกับธนาคารและตำรวจไซเบอร์กลับมามีประสิทธิภาพอีกครั้ง
พรรคเพื่อไทยขอเรียกร้อง ให้รัฐบาลอนุทิน เอาผลประโยชน์ของประเทศชาติและพี่น้องประชาชนเป็นตัวตั้งในการแก้ไขปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา แบบหวังผลจริง ด้วยการเดินหน้ามาตรการปราบปราม สแกมเมอร์คอลเซ็นเตอร์อย่างจริงจัง ให้เป็นยุทธศาสตร์หลักในการกดดันกัมพูชาเพื่อแก้ไขปัญหาชายแดนอย่างถูกต้อง ไม่ได้เพียงแต่ทํางานตามกระแสเพียงเพื่อหวังคะแนนนิยม และผลทางการเมืองเท่านั้น
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





