ฟุตบอลโลกครั้งนี้ อเมริกาพร้อมต้อนรับผู้คนมากแค่ไหน?
บอลโลก 2026 แพงสุดในประวัติศาสตร์? แฟนบอลโวย ตั๋วเปิดสนามพุ่งแตะ 8 หมื่นบาท
ประธานฟีฟ่า จานนี อินฟานติโน ได้ย้ำหลายครั้งว่า “ทั้งโลกจะได้รับการต้อนรับ ในการแข่งขันฟุตบอลโลก ช่วงฤดูร้อนปี 2569” ซึ่งจะจัดขึ้นที่สหรัฐอเมริกา โดยมีบางแมตช์ที่อาจจะต้องแข่งที่แคนาดาและเม็กซิโก “เราจะพาโลกทั้งใบมาที่อเมริกา” อินฟานติโนกล่าวไว้ เมื่อต้นปี2568 ที่ผ่านมานี้ “โลกนี้รักอเมริกา ไม่ว่าใครจะพูดว่ายังไงก็ตาม” แต่ยิ่งใกล้วันเริ่มการแข่งขัน ก็ยิ่งมีคำถามมากขึ้นว่า สหรัฐฯ จะให้การต้อนรับอย่างที่ อินฟานติโน พูดไว้จริงหรือไม่?
เมื่อลองคิดเล่นๆ จากราคาค่าตั๋วการแข่งขันที่แฟนบอลปล่อยออกมา แค่บัตรเริ่มต้นทั่วไป ก็มีราคาที่สูงถึง 560 ดอลลาร์ หรือประมาณ 20,400 บาทแล้ว
การขึ้นราคาบัตรบอลโลกจุดชนวนเสียงวิจารณ์ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา บัตรเข้าชมการแข่งขันบอลโลกชุดแรก ได้เริ่มวางขายแล้ว โดยมีแฟนบอลกว่า 4.5 ล้านคนลงทะเบียนเพื่อจับสลากรับสิทธิ์ซื้อบัตร ทว่าทันทีที่มีการเปิดเผย ราคาบัตร ฟีฟ่าก็ถูกวิจารณ์ทันที ถึงแม้ว่าฟีฟ่าจะยังไม่ได้ประกาศราคาอย่างเป็นทางการ แต่แฟนบอลที่ได้สิทธิ์ซื้อตั๋ว หลังจากรอคิวมานานในระบบออนไลน์ ก็ได้เริ่มโพสต์ราคาบัตรบางส่วนลงบนอินเทอร์เน็ต
โดยบัตรเข้าชมทั่วไปถูกแบ่งออกเป็น 4 ระดับ
1.บัตรสำหรับแมตช์เปิดสนาม มีราคาตั้งแต่ 560 ดอลลาร์ หรือประมาณ 20,400 บาท ไปจนถึง 2,235 ดอลลาร์ หรือประมาณ 81,300 บาท ขณะที่ฟุตบอลโลกครั้งก่อนที่กาตาร์ บัตรแมตช์เปิดสนามมีราคาแค่ 55 ดอลลาร์หรือประมาณ 2,000 บาท ถึง 618 ดอลลาร์ หรือประมาณ 22,500 บาท
2.บัตรสำหรับรอบชิงชนะเลิศในปี 2026 บัตรราคาถูกที่สุดอยู่ที่ 2,030 ดอลลาร์ หรือประมาณ 73,900 บาท และแพงที่สุดอยู่ที่ 6,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 218,500 บาท
3.บัตรฮอสพิทาลิตี้ (Hospitality) ซึ่งเป็นบัตรวีไอพีที่ยังไม่เริ่มวางขาย แต่คาดว่าจะมีราคาที่สูงยิ่งกว่านี้
4.บัตรแมตช์รอบแรกที่ที่นั่งไม่เป็นที่นิยม ขายในราคา 60 ดอลลาร์ (ประมาณ 2,200 บาท) แม้จะดูเป็น ราคาบัตรที่เข้าถึงได้ แต่จากแผนผังกลับพบว่าบัตรราคานี้มีจำนวนน้อยมากเมื่อเทียบกับที่นั่งทั้งหมดในสนาม
The Athletic สื่อต่างประเทศ ยังรายงานเพิ่มเติมว่า ฟีฟ่าจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียม 15% จากทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย ในกรณีที่มีการขายต่อบัตรผ่านแพลตฟอร์มอย่างเป็นทางการของฟีฟ่าเอง และเมื่อถูกสอบถาม ฟีฟ่า ก็ยังไม่ออกมาให้คำตอบ
โธมัส คอนแคนนอน หัวหน้าทีมงาน “สถานเอกอัครราชทูตแฟนบอลอังกฤษ” ของสมาคมผู้สนับสนุน ฟุตบอลอังกฤษ กล่าวว่า: “ราคานี้น่าตกใจมาก บัตรรอบชิงที่ถูกที่สุดยังตั้งไว้ที่ 2,030 ดอลลาร์ หรือประมาณ 73,900 บาท นี่มันไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลย”
“หากแฟนบอลได้บัตรราคาระดับนี้ ตั้งแต่เกมแรกจนถึงรอบชิง พวกเขาอาจต้องจ่ายเงินกว่า 3,180 ดอลลาร์ หรือประมาณ 117,000 บาท เทียบกับฟุตบอลโลกที่กาตาร์ราคาพุ่งมากกว่าถึงสองเท่า เมื่อรวมค่าตั๋วเดินทาง และที่พัก นี่อาจเป็นฟุตบอลโลกที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์สำหรับแฟนบอลที่ต้องการเข้าชมในสนาม”
นอกจากนี้ ฟีฟ่า ยังได้นำระบบ “Dynamic Pricing” หรือ “การตั้งราคาตามความต้องการตลาด”มาใช้ในการแข่งขันครั้งนี้ด้วย นั่นหมายความว่า ราคาบัตรสำหรับแมตช์ที่มีความต้องการสูงอาจพุ่งสูงขึ้นมากกว่านี้อีก โดยระบบนี้อาจเป็นประโยชน์กับแฟนบอลชาวอเมริกัน แต่ทำให้แฟนบอลต่างชาติเข้าไม่ถึงบัตร
สก็อตต์ ฟรีดแมน ผู้ก่อตั้งเครือข่าย Ticket Talk Network ในสหรัฐอเมริกากล่าว
“การตั้งราคาตามความต้องการ เป็นสิ่งที่มีมานานกว่าสิบปีแล้วที่อเมริกา แต่สำหรับ ฟีฟ่า มันคือเรื่องของอุปสงค์และอุปทาน พราะพวกเขากำลังต้องการเพิ่มรายได้ให้มากที่สุด”
“ระบบนี้ให้น้ำหนักกับพลเมืองอเมริกัน มากกว่าชาวต่างชาติ เพราะพวกเขาจะสามารถซื้อตั๋วรีเซล สำหรับแมตช์ที่มีความต้องการน้อยได้ในราคาที่ต่ำกว่าราคาจริงมาก ก่อนการแข่งขันเพียง 48 ชั่วโมง”
“แต่คนที่มาจากต่างประเทศจริง ๆ ไม่สามารถเดินทางมาที่นี่เพื่อทำแบบนั้นได้ ระบบนี้จึงไม่ยุติธรรมสำหรับคนทั่วโลก และอาจทำให้ผู้คนจากประเทศอื่น ๆ ไม่สามารถเข้าถึงตั๋วราคาย่อมเยาได้เลย”
นี่จึงเป็นสาเหตุของการตั้งคำถามจากคนหมู่มาก ว่า ฟุตบอลโลกครั้งนี้ อเมริกาพร้อมต้อนรับผู้คนจริงๆใช่ไหม?
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





