Home
|
ข่าว

ทวงคืนแผ่นดินไทย บ้านหนองจาน-หนองหญ้าแก้ว

 

10 ตุลาคม 2568 ประกาศ “เส้นตาย” ให้ชาวกัมพูชา บ้านหนองจาน-หนองหญ้าแก้ว อพยพออกจากพื้นที่ซึ่งทางการไทย

 

ในวันที่ 10 ตุลาคม 2568 กลายเป็นวันสำคัญ เมื่อผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ประกาศ “เส้นตาย” ให้ชาวกัมพูชา ที่อาศัยอยู่ใน บ้านหนองจาน และ บ้านหนองหญ้าแก้ว ใน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว อพยพออกจากพื้นที่ซึ่งทางการไทย อ้างว่าเป็น “เขตแผ่นดินไทย” ภายในวันดังกล่าว เพื่อให้เป็นไปตามข้อตกลงและแนวทางของฝ่ายความมั่นคงไทย ในการ “ทวงคืนอธิปไตย” แต่ปรากฏว่า เมื่อครบเส้นตาย คนบางกลุ่มยังไม่ย้ายออก ท่ามกลางการตรึงกำลังของ ทหาร และการปะทะในเชิงวาทกรรมกับชาวบ้านกัมพูชาที่ยืนยันจะอยู่ต่อในพื้นที่ พร้อมอ้างว่าเป็นเขตของกัมพูชาเช่นกัน หากย้อนไปสำรวจรากเหง้าความเป็นมาของพื้นที่ ปมพิพาทย้อนหลัง เหตุใดจึง มาถึงจุด “ขับไล่” และบทบาทของการเมือง ชายแดนในการยกระดับเป็นประเด็นอธิปไตยระหว่างประเทศ

บ้านหนองจาน ตั้งอยู่ตำบลโนนหมากเค็ง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ตรงข้ามกับหมู่บ้านโจกเจยฝั่งกัมพูชา ส่วน บ้านหนองหญ้าแก้ว อยู่ใกล้เคียง และมีพื้นที่รุกล้ำในแนวรั้ว เขตแดนกับกัมพูชา พื้นที่นี้เป็นเขตชายแดนที่เส้นเขตแดนไทย-กัมพูชา ไม่ได้ชัดเจนในหลายช่วงเวลา โดเฉพาะพื้นที่ริมน้ำ คูคลอง แนวรั้ว และหลักเขต (เช่น หลักเขตที่ 46, 48, 49) ซึ่งมักถูกตีความซ้ำซ้อนโดยท้องถิ่นทั้งสองฝั่ง

ในรอบหลายทศวรรษที่ผ่านมา มีรายงานว่า บางครัวเรือนชาวกัมพูชาได้อาศัยอยู่ ทำมาหากินในแนวชายแดน โดยอ้างว่าพื้นที่ นั้นตั้งอยู่ในเขตของกัมพูชาหรืออยู่ในโซนที่ “รอยต่อ” พื้นที่กลางระหว่างเขตรอยต่อที่ไม่ได้กั้นรั้วแข็งแรง ชาวบ้านไทยใน พื้นที่ก็เคยร้องเรียนว่า มีการ “รุกล้ำ” เข้าใช้พื้นที่ของไทย โดยทหารกัมพูชาหรือพลเรือนกัมพูชาเข้ามาในแนวเขตไทยเพื่อทำกิน หรือใช้พื้นที่เกษตร ซึ่งในหลายกรณีมีการข่มขู่ด้วยอาวุธ หากชาวไทยเข้าไปในพื้นที่นั้นหลายครั้ง ปัญหาดังกล่าวถูกจัดการภายในในระดับท้องถิ่น หรือมีการเจรจาชั่วคราวระหว่างฝ่ายท้องถิ่นไทย-กัมพูชาโดย ใช้กลไกชายแดน เช่น คณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) แต่ที่ผ่านมายังไม่มีการแก้ไขปัญหาอย่างเด็ดขาด

แต่ทว่า ในช่วงต้นปี 2568 เป็นต้นมา ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา กลายเป็นประเด็นทางการเมืองที่ถูกหยิบยก โดยกลุ่ม “รักแผ่นดินไทย” ร้องให้รัฐบาลทวงคืนพื้นที่

 

พร้อมเรียกร้องให้ฝ่ายความมั่นคงดำเนินการจริงจังมากขึ้น การตั้ง “เส้นตาย” 10 ตุลาคม และการส่งตู้คอนเทนเนอร์ไปกั้น แนวชายแดนที่บ้านหนองจาน เป็นสัญลักษณ์ของความตั้งใจจริงของรัฐบาลในการแสดง “อำนาจอธิปไตย” ต่อประชาชน

แม้ ก่อนหน้านี้ มีการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) เพื่อวางมาตรการแก้ปัญหาชายแดนร่วมกันระหว่างไทย-กัมพูชา โดยมีเงื่อนไข ถอนอาวุธ ถอนกำลัง และกำหนดพื้นที่นำร่องในการดำเนินการกู้ทุ่นระเบิด ทางไทยอ้างว่า ดำเนินการตามแนวทาง GBC โดยให้ฝ่ายกัมพูชาอพยพพลเรือนออกก่อน จากนั้นจึงจะดำเนินมาตรการ “กู้ระเบิด” และ “ทวงคืนอธิปไตย” แต่ฝ่ายกัมพูชา โต้กลับว่า การดำเนินการบางส่วนของไทย เช่น การกวาดล้างทุ่นระเบิดในจุดที่ฝั่งกัมพูชาถือว่าเป็นพื้นที่ของตน ถือเป็นการละเมิด เจตนารมณ์ของข้อตกลง GBC และเรียกร้องให้ไทยยุติปฏิบัติการดังกล่าว

ในช่วงก่อนวันที่ 10 ตุลาคม มีการเตรียมกำลังทหาร ตู้คอนเทนเนอร์กั้นแนวชายแดน และการตรึงกำลังร่วมกับฝ่ายความมั่นคง จังหวัดสระแก้ว เพื่อเตรียมพร้อม “ทวงคืน” ตามเส้นตายที่ประกาศไว้ อีกทั้ง การผลักดันในช่วงเวลานี้อาจได้รับอิทธิพลจาก สถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ในภูมิภาคที่ผู้มีอำนาจต้องการแสดงจุดยืนอธิปไตยชายแดนให้ชัดเจน

แม้ครบเส้นตายแล้ว แต่มีรายงานว่า ชาวกัมพูชายังไม่ย้ายออกจากบ้านหนองหญ้าแก้ว โดยอ้างว่าถูกตัดน้ำ ไฟ และมีการระดม กำลังคนในพื้นที่เพื่อยืนยันการอยู่ต่อ บางส่วนกล่าวถึงมีการใช้โดรนลาดตระเวนเหนือหมู่บ้าน และเสริมแนวป้องกันบ้านเรือนเพื่อไม่ให้ฝ่ายไทยเข้ามาได้ง่ายๆ

กลุ่ม “รักแผ่นดินไทย” เดินทางมารวมตัว และตั้ง “กำแพงจำลองบ้านหนองจาน-หนองหญ้าแก้ว” เป็นสัญลักษณ์ทวงอธิปไตย พร้อมร้องเพลงชาติไทย เพื่อแสดงจุดยืนต่อสาธารณะ ในทางกลับกัน ชาวกัมพูชาบางส่วนประกาศว่า “จะไม่ไปไหน” หากถูกขับไล่ ถือว่าเป็นการแสดงจุดยืนว่า พื้นที่นี้เป็นของตน และพร้อมสู้เพื่อรักษาที่ดินของตนเอง

บ้านหนองจาน-หนองหญ้าแก้ว คือพื้นที่ชายแดนที่ซ้อนทับสิทธิและอ้างอิงเขตแดนที่คลุมเครือมาเป็นเวลานาน ความพยายาม “ทวงคืนแผ่นดินไทย” ครั้งนี้ เป็นจุดเปลี่ยนที่ผลักให้ปมที่ตกค้างมายาวนานเปิดเผยขึ้นสู่สาธารณะ ทั้งในมิติอำนาจรัฐ การแสดงจุดยืนของประชาชนชายแดน และความท้าทายระหว่างประเทศ

 

 


 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube