ประกายแห่งความหวัง ! เมื่อ “ช้างศึก” กลับมาส่งเสียงคำรามอีกครั้ง

ทัพช้างศึก” ทีมชาติไทย เปิดบ้านเอาชนะ ไต้หวัน 2-0 ในศึกฟุตบอล เอเชียน คัพ 2027 รอบคัดเลือก คืนศรัทธา ปลุกพลังใจ ลุ้นเข้ารอบสุดท้ายที่ประเทศซาอุดิอาระเบีย

 

เสียงเฮจากอัฒจันทร์ราชมังคลากีฬาสถาน กลับมากึกก้องอีกครั้งในค่ำคืนวันที่ 9 ตุลาคมที่ผ่านมา เมื่อ “ทัพช้างศึก” ทีมชาติไทย ภายใต้การคุมทัพของ มาซาทาดะ อิชิอิ เปิดบ้านเอาชนะ ไต้หวัน 2-0 ในศึกฟุตบอล เอเชียน คัพ 2027 รอบคัดเลือก กลุ่มดี ชัยชนะที่ไม่ได้มีค่าแค่สามแต้ม แต่เป็นการคืนศรัทธา ปลุกพลังใจ และต่ออายุความหวังในการลุ้นเข้ารอบสุดท้ายที่ประเทศซาอุดิอาระเบีย

 

หลังสะดุดในเกมก่อนหน้า “ช้างศึก” อยู่ในสถานการณ์ที่ต้องชนะสถานเดียว การกลับมาเล่นต่อหน้าแฟนบอลเจ้าบ้าน ทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยพลังแห่งความหวัง ทีมเปิดเกมรุกตั้งแต่เสียงนกหวีดแรก ใช้ความเร็วและความคล่องตัว ของแนวรุกบุกกดดันแนวรับทีมเยือนอย่างต่อเนื่อง จนได้สองประตูสำคัญ ปิดเกมอย่างเด็ดขาดโดยไม่เสียประตู

 

นี่คือเกมที่สะท้อนให้เห็นว่า “อิชิอิ” เริ่มปลูกฝังระบบการเล่นที่มีระเบียบแบบแผน เน้นครองบอลฉลาด เปลี่ยนจังหวะเร็ว จากแดนกลาง และเล่นอย่างมีวินัยในทุกตำแหน่ง ความเข้าใจในแท็กติกเริ่มชัดเจนขึ้นทุกนัด

 

แม้ชัยชนะจะนำรอยยิ้มกลับมา แต่สิ่งที่ทีมต้องเร่งพัฒนา คือ “จังหวะสุดท้าย” ที่ยังขาดความเฉียบคม หลายครั้งทีมสร้าง โอกาสได้ดี แต่จบสกอร์ไม่ลง ทั้งจากการตัดสินใจยิงเร็วเกินไป การเติมซ้ำช้า หรือการหาพื้นที่ในกรอบเขตโทษที่ยังไม่ลงตัวนั่นแสดงให้เห็นว่า เกมรุกของไทยไม่ได้ขาดระบบ แต่ขาด “นักล่าประตูโดยธรรมชาติ”

 

อิชิอิ สร้างระบบได้แล้ว เหลือเพียง “ตัวปิดบัญชี” ที่เฉียบคมพอจะเปลี่ยนเกมดีให้กลายเป็นชัยชนะใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นกองหน้าตัวเป้าแท้ ๆ หรือแนวรุกที่มีสัญชาตญาณจบสกอร์ นี่คือจิ๊กซอว์สำคัญหากไทยหวังจะก้าวขึ้นอีกระดับ

 

หลังเก็บเพิ่มเป็น 6 คะแนนจาก 3 นัด ไทยขึ้นมารั้งอันดับ 3 ของกลุ่มดี มีแต้มเท่ากับ เติร์กเมนิสถาน และ ศรีลังกา แต่เป็นรองในผลต่างประตูได้เสีย ทำให้ทุกแต้มที่เหลือ “มีค่ามากกว่าทองคำ”

 

โปรแกรมที่เหลือของ “ช้างศึก” จึงเป็นเหมือนเส้นทางชี้ชะตา

14 ต.ค. 2568 – เยือนไต้หวัน

18 พ.ย. 2568 – เยือนศรีลังกา

31 มี.ค. 2569 – เปิดบ้านพบเติร์กเมนิสถาน

 

โดยเฉพาะเกมเยือน ไต้หวัน วันที่ 14 ตุลาคมนี้ จะเป็น “บทพิสูจน์สำคัญ” ว่าทีมชาติไทยสามารถรักษาความต่อเนื่องของฟอร์ม และก้าวข้ามแรงกดดันได้หรือไม่ ช้างศึก เตรียมพร้อมเต็มสูบ ฟิตใจ ฟิตร่าง โดยที่ศูนย์ฝึก ยามาโอกะ ฮานาซากะ บรรยากาศการซ้อมเต็มไปด้วยความ มุ่งมั่นและผ่อนคลาย นักเตะซ้อมเน้นการฟื้นฟูร่างกายและความเข้าใจเกม โดยมี สันติภาพ จันทร์หง่อม และ ทรงวุฒิ ใคร่ครวญ เข้ามาเสริมทีม พร้อมลงซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมทันที ก่อนเดินทางสู่ไต้หวันในคืนวันที่ 11 ตุลาคม เพื่อปรับตัวกับสนามและอากาศให้พร้อมที่สุด

 

การเลือกซ้อมในไทยก่อนบิน ถือเป็นแผนที่ผ่านการคำนวณมาอย่างละเอียด เพราะช่วยให้ทีมอยู่ในสภาพแวดล้อมคุ้นเคย ลดอาการล้า และได้ใช้สนามฝึกคุณภาพเคาะจังหวะสุดท้าย ซึ่งคือจุดที่อิชิอิให้ความสำคัญมากที่สุด

 

แม้เส้นทางสู่รอบสุดท้ายยังอีกยาวไกล แต่ชัยชนะเหนือไต้หวันครั้งนี้คือ “ประกายแห่งความหวัง” ที่ส่องให้เห็นว่า ทีมชาติไทยยังมีศักยภาพพอจะต่อกรกับทุกทีมในกลุ่ม หากรักษามาตรฐานและสมาธิได้ครบ 90 นาทีทุกเกมต่อจากนี้

 

และหาก “ช้างศึก” เดินหน้าด้วยพลังแห่งศรัทธาและความมุ่งมั่น เสียงเพลง “ไทยแลนด์สู้ ๆ” อาจดังสนั่นอีกครั้ง บนเวทีเอเชียน คัพ 2027 ที่ซาอุดิอาระเบีย อย่างภาคภูมิใจ

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews