“ธนดล” โวยรอ 40 นาทีไม่ได้เข้าชี้แจง กมธ.มั่นคงแทน”ธรรมนัส”
“ธนดล” โวยรอ 40 นาทีไม่ได้เข้าชี้แจง กมธ.มั่นคงแทน “ธรรมนัส” ท้า แจ้งความหากมั่นใจ ยัน “เบน สมิธ” คนละคนกับคอลเซ็นเตอร์ ขณะ “โรม” ลั่น กมธ.มีข้อมูลโยงทุนสีเทาเพียบ
นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ทีมที่ปรึกษาของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.เกษตรฯ เข้าสภาผู้แทนราษฎร เพื่อชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการความมั่นคงฯ กรณีความสัมพันธ์ระหว่าง ร.อ.ธรรมนัส กับ “นายเบน สมิธ”
แต่นายธนดล เผยว่า รออยู่นอกห้องประชุมกว่า 40 นาที แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าชี้แจง พร้อมตั้งคำถามถึงกระบวนการทำงานของ กมธ. และยืนยันว่าได้รับมอบหมายจาก ร.อ.ธรรมนัส อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งนี้ การเชิญรัฐมนตรีมาต้องทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี และหากเจ้าตัวไม่สะดวกก็สามารถส่งผู้แทนได้ ยืนยันว่า ทำตามระเบียบทุกขั้นตอน โดย ร.อ.ธรรมนัสไม่สามารถมาชี้แจงได้เพราะลงพื้นที่ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่นครสวรรค์
นายธนดล ปฏิเสธข้อกล่าวหาที่เชื่อมโยง “เบน สมิธ” กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือทุนสีเทา พร้อมยืนยันว่า “เบน สมิธ” ที่รู้จักกับ ร.อ.ธรรมนัส เป็นคนละคนกับที่นายรังสิมันต์ โรม นำมาอภิปรายในสภา พร้อมท้าให้เปิดหลักฐาน หรือแจ้งความหากมั่นใจว่ามีความผิด และขอย้ำว่า ตนทำหน้าที่ถูกต้องทั้งในฐานะทนายความของ “เบน สมิธ” และที่ปรึกษาของ ร.อ.ธรรมนัส ไม่ได้ทำผิดกฎหมายหรือมีผลประโยชน์ทับซ้อน ส่วนกรณีที่สังคมวิพากษ์วิจารณ์ ว่าเป็นเกมการเมือง ก็ขอให้พิจารณาจากข้อเท็จจริง
ภายหลัง นายธนดล ยังได้พูดคุยกับนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน และประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐฯ ซึ่งชี้แจงว่า หนังสือที่ส่งเป็นเพียง “หนังสือเชิญ” ไม่ได้ใช้อำนาจเรียก และต้องการให้ ร.อ.ธรรมนัส มาชี้แจงด้วยตัวเองเท่านั้น โดยยืนยันว่าไม่มีการกล่าวหาว่าเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แต่ต้องการให้ข้อเท็จจริงชัดเจน
ขณะเดียวกัน นายรังสิมันต์ เปิดเผยกรณี ร.อ.ธรรมนัส ไม่มาชี้แจงต่อ กมธ. ตามหนังสือเชิญกรณี “เบน สมิธ” ว่า หนังสือเชิญระบุชัดให้ “ร.อ.ธรรมนัส” มาด้วยตนเอง ไม่ได้เชิญ “นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์” ที่ปรึกษาฯ ซึ่งอ้างว่ามีหนังสือมอบอำนาจ และยืนยันว่า กมธ.เพียงส่งหนังสือเชิญอย่างให้เกียรติรัฐมนตรี ไม่ได้ใช้อำนาจเรียก เพราะ ร.อ.ธรรมนัสเคยให้สัมภาษณ์ว่ายินดีให้ความร่วมมือ แต่เมื่อไม่มาปรากฏตัว และไม่ได้แจ้งเหตุผลใด ๆ กมธ.จึงเตรียมออกหนังสือเชิญรอบสอง
นายรังสิมันต์ ยังเปิดเผยว่า กมธ.มีข้อมูลเชื่อมโยง “เบน สมิธ” กับทุนสีเทาในกัมพูชา และบริษัทต่าง ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องทางการเงิน รวมถึงธนาคาร BIC Bank พร้อมตั้งคำถามว่า เหตุใดคนใกล้ชิดของ “เบน สมิธ” จึงปรากฏในเครือข่ายดังกล่าว และย้ำว่า บางคนที่กระทำผิดมักใช้ชื่อปลอม จึงต้องพิสูจน์ข้อเท็จจริงให้ถึงที่สุด โดยคดีนี้อยู่ในชั้นอัยการตั้งแต่ปี 2564 และ กมธ.จะติดตามต่อเนื่อง พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลชุดนี้ และรัฐบาลหน้า มี มาตรการปราบปรามแก๊งทุนสีเทาเชิงรุก และไม่ใช้กฎหมายปิดปากคนที่ลุกขึ้นเปิดโปงความจริง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
