ไขข้อกังวล คนละครึ่งพลัส คลังย้ำ “ไม่ตรวจภาษีย้อนหลัง”
ประเด็นนโยบาย คนละครึ่งพลัส ในส่วนที่ผู้ประกอบการหลายรายกังวล หวั่นโดนภาษีย้อนหลัง ล่าสุด รมว.คลัง ยันไม่โดนภาษีย้อนหลัง
8 ต.ค. 68 ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ออกมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการ “คนละครึ่งพลัส” และหนึ่งในประเด็นที่ทำให้ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะร้านค้ารายเล็กและรายย่อย ยังคงรู้สึกลังเลว่า จะเข้าร่วมโครงการดีหรือไม่ มาจากความกังวลเรื่อง “ข้อมูลรายได้” ที่ต้องใช้ในการลงทะเบียนเข้าร่วม เพราะหลายคนกังวลว่า ข้อมูลดังกล่าวจะถูกส่งต่อให้กรมสรรพากรเพื่อตรวจสอบภาษี ซึ่งอาจสร้างความไม่สบายใจให้กับผู้ประกอบการที่ยังไม่ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
เพื่อคลายความกังวลเหล่านี้ ยืนยันอย่างชัดเจนว่า ข้อมูลของร้านค้าทุกรายที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งพลัส จะถูกเก็บรักษาโดยรัฐบาลจะไม่นำข้อมูลเหล่านี้ไปเปิดเผย หรือนำส่งให้กับกรมสรรพากร ไม่ว่าจะในส่วนของรายได้ รายละเอียดการขาย หรือข้อมูลส่วนตัวของผู้ประกอบการ เพื่อให้ผู้ค้าเกิดความมั่นใจและรู้สึกปลอดภัยในการเข้าร่วมโครงการ
และเพิ่มเติมว่า เงื่อนไขดังกล่าวมีขึ้นเพื่อให้ “ทุกฝ่ายสบายใจ” โดยเฉพาะร้านค้ารายเล็กและรายย่อย ที่มักกังวลเรื่องการตรวจสอบภาษี หากมั่นใจได้ว่าข้อมูลทั้งหมดจะถูกเก็บเป็นความลับ ก็จะช่วยกระตุ้นให้ร้านค้ากล้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการมากขึ้น ซึ่งเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ
ทั้งนี้ ปัจจุบันตามกฎหมาย ผู้ประกอบการที่มีรายได้จากการขายสินค้า หรือให้บริการ เกินกว่า 1,800,000 บาทต่อปี มีหน้าที่ต้องยื่นคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ภายใน 30 วันนับจากวันที่รายรับเกิน หากไม่ปฏิบัติตามอาจถูกเรียกเก็บเบี้ยปรับ หรือค่าปรับตามที่กฎหมายกำหนด อย่างไรก็ตาม โครงการ “คนละครึ่ง พลัส” ไม่ได้มีจุดประสงค์ เพื่อเก็บภาษีจากผู้ประกอบการ แต่เพื่อช่วยให้ธุรกิจรายย่อยสามารถเติบโตและดำเนินกิจการได้อย่างมั่นคง
ในส่วนของประชาชนผู้บริโภคที่เข้าร่วมโครงการนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังยืนยันว่า ผู้ใช้สิทธิ์จะได้รับวงเงินสนับสนุนจากภาครัฐ วันละ 200 บาท โดยไม่จำเป็นต้องใช้ให้หมดภายในวันเดียว หากไม่ได้ใช้เต็มจำนวนในวันนั้น ระบบจะสะสมวงเงินที่เหลือไว้ในแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” เพื่อให้สามารถนำไปใช้ในวันถัดไปได้
ด้วยเงื่อนไขที่ชัดเจนและมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเข้มงวด รัฐบาลเชื่อว่า โครงการ “คนละครึ่ง พลัส” จะได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการรายย่อยเพิ่มขึ้นอย่างมาก และจะช่วยสร้างประโยชน์ทั้งต่อผู้ค้า ผู้บริโภค และเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศอย่างเป็นรูปธรรม
สำหรับผู้ประกอบการหรือร้านค้าที่ สนใจเข้าร่วมโครงการ “คนละครึ่ง พลัส” สามารถลงทะเบียนได้อย่างเป็นทางการผ่าน ธนาคารกรุงไทยทุกสาขาทั่วประเทศ โดยจะ เปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2568 – 19 ธันวาคม 2568 หลังจากลงทะเบียนแล้ว จะทราบผลภายใน 3 วันทำการ และสามารถ เริ่มใช้สิทธิ์ได้ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป ช่วงเวลาการใช้สิทธิ์อยู่ระหว่าง เวลา 06.00 – 23.00 น. ของทุกวัน
ขั้นตอนและเอกสารที่ต้องเตรียม มีบัญชีธนาคารกรุงไทย และสมัครเป็น ร้านค้าถุงเงิน ให้เรียบร้อยก่อน เตรียม บัตรประชาชน พร้อม รูปถ่ายหน้าร้าน ที่เห็นเจ้าของร้านกำลังประกอบกิจการอย่างชัดเจน ดาวน์โหลดและกรอก แบบฟอร์มเข้าร่วมโครงการ “คนละครึ่ง พลัส” ให้ครบถ้วน
จากนั้นแบ่งตามประเภทของร้านค้า ดังนี้ ร้านค้าบุคคลธรรมดา / วิสาหกิจชุมชน / OTOP ให้นำแบบฟอร์มที่กรอกเรียบร้อยแล้ว ติดต่อเจ้าหน้าที่ภาครัฐ ในพื้นที่ เพื่อยืนยันการประกอบกิจการ
ร้านค้านิติบุคคลรายย่อย หรือธุรกิจเฉพาะ ให้นำแบบฟอร์มไป ติดต่อเจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงไทย เพื่อส่งต่อข้อมูลตรวจสอบกับหน่วยงานภาครัฐ
เมื่อได้รับการตรวจสอบและยืนยันข้อมูลเรียบร้อยแล้ว ให้นำเอกสารทั้งหมด ยื่นที่ธนาคารกรุงไทยได้ทุกสาขา เพื่อดำเนินการลงทะเบียนให้สมบูรณ์
สรุปคือ ผู้ที่ต้องการเข้าร่วมโครงการต้องเตรียมเอกสารให้ครบ ตรวจสอบข้อมูลและนำไปยื่น ที่ ธนาคารกรุงไทยสาขาใกล้บ้าน เพื่อให้ได้รับสิทธิ์เข้าร่วม “คนละครึ่ง พลัส” ทันตามกำหนดเวลา ส่วนร้านค้าที่ ไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนใหม่ เพื่อเข้าร่วมโครงการ “คนละครึ่ง พลัส”
มีทั้งหมด 3 กลุ่มหลัก คือ
ร้านค้าถุงเงิน ที่เคยเข้าร่วมและผ่านเกณฑ์ในโครงการ “คนละครึ่ง เฟส 5” เมื่อปี 2565 ซึ่งระบบจะเก็บข้อมูลเดิมไว้ ทำให้ไม่ต้องลงทะเบียนซ้ำอีกครั้ง
ร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ รวมถึงร้านค้าของ บุคคลธรรมดา วิสาหกิจชุมชน กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง และสหกรณ์ ที่เคยผ่านเกณฑ์ตามเงื่อนไขโครงการก่อนหน้านี้ ก็สามารถเข้าร่วมได้ทันที
ร้านค้าในโครงการกรุงเทพแผงลอย ที่ผ่านการตรวจสอบและผ่านเกณฑ์ตามเงื่อนไขของโครงการแล้ว ก็ได้รับสิทธิเข้าร่วมโดยอัตโนมัติ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





