Home
|
บันเทิงไทย

“เม พรีมายา” พร้อมสามี “แซก” เคลียร์จบ หาทางออกประเด็นฮุบบริษัท

Featured Image
“เม พรีมายา” พร้อมสามี “แซก” เคลียร์จบ หาทางออกประเด็นฮุบบริษัทผ่านรายการโหนกระแส

 

            ตกแต่งเป็นประเด็นที่สังคมติดตามอย่างต่อเนื่อง ซึ่งไม่รู้จะจบลงยังไงสำหรับกรณีของ “เม พรีมายา” กับกลุ่มหุ้นส่วนคลินิกดัง ที่ก่อนนี้ทางด้าน “เม พรียามา” ออกมาโพสต์เจอปัญหาใหญ่ในชีวิต ที่ส่งผลโดยตรงกับธุรกิจ จนเมต้องยอมถอนตัวออกจากทุกบริษัทที่ถือหุ้นอยู่  และทางด้าน “คลีนิค” ก็ออกมาตอบโต้ เรียกว่าหนังคนละม้วน

ล่าสุดทางด้าน “เม พรีมายา” ได้ควงสามี ”แซก“ ออกมาเปิดใจชี้แจงเรื่องราวทั้งหมดว่า

เม : ”ธุรกิจนี้เป็นธุรกิจที่ “เม” ก่อตั้งกับเพื่อน เผยรู้จักกันในโลกโซเชียลโดยเขาทักมาว่ามาทำธุรกิจด้วยกันไหมคือช่วงนั้นเป็นช่วงที่เราโด่งดังที่สุด เลยตัดสินใจในการทำคลินิกด้วยกัน4คน มีเม มีเพื่อนผู้หญิงแล้วก็หมออีกสองท่าน เลยก่อตั้งบริษัทขึ้นมา โดยมีชื่อทั้งสี่คน ”เม“ถือหุ้น 30% เพื่อนผู้หญิงถือ 30% คุณหมอถือ 30% และคุณหมออีกท่านหนึ่งถือ 10%

แซก : “หลังจากที่ดำเนินธุรกิจไปได้ เกือบหนึ่งปีเราก็เห็นความเป็นไปได้ของธุรกิจเราเห็นหมอคนที่สองทำงานหนักเลยอยากจะลดหุ้น ทั้งสามคนที่ได้30% เอามาแบ่งให้หมอให้เหลือเท่ากันคนละ 25% “

เม : ”ครั้งแรกมีหนึ่งสาขาแล้วก็ขยายมาเป็น3สาขา พอผลประกอบการไม่ได้ตามเป้าและมีรายจ่ายก็เลยปิดสาขาทองหล่อเลยมาเปิดแค่สองสาขาก็คือสยามแล้วก็เลียบด่วน ต่อมา“เม” ดราม่าซึ่งเป็นดราม่าใหญ่ก็ยอมรับว่าส่งผลกระทบต่อตัวเม ครอบครัวและธุรกิจเยอะพอสมควร เลยทำให้ทางฝั่งเขามองว่าความน่าเชื่อถือของ “เม”อาจทำให้คลินิกพังได้ก็เลยขอให้เราถอดถอนชื่อหุ้นออก“

แซก : ”พอมีข่าวก็ไม่อยากให้กระทบธุรกิจอื่นๆ เราก็ออกจากบริษัทอื่นไม่ไม่ใช่แค่คลินิก เพื่อที่จะให้ธุรกิจดำเนินต่อได้ซึ่งเรื่องนี้ทางคลินิกเป็นคนเสนอมาให้ออกไหมจะได้ไปต่อ“

ยอมถอนหุ้นไหม

แซก : “ ยอมถอนหุ้นและฝากไว้กับหุ้นส่วนทั้งสามคนเท่ากัน หลังจากนั้นธุรกิจก็ดำเนินไปและเติบโตขึ้นเรื่อยเรื่อยซึ่งพวกเราก็ยังได้ผลตอบแทนจากธุรกิจนี้มาเรื่อยเรื่อยจนถึงคดีความของเรามันจบจะตัดสินเราก็ขอกลับเข้าไปถึงหุ้นเหมือนเดิมเขาเสนอมาสองอย่าง คือ อย่างแรก ถือหุ้น 25% เหมือนเดิมทำงานแต่ไม่ต้องออกหน้า อย่างที่สองคือลดหุ่นเหลือ 12.5% ไม่ต้องทำงานรอรับเงินปั่นผลอย่างเดียว ซึ่งผมก็เลือก 25% แต่เขาก็มีเงื่อนไขเกิดขึ้นวันนั้นว่าสาขาใหม่ขึ้นจะไม่ให้หุ้นของเรา มันเลยรู้สึกว่าไม่แฟร์กับเราแต่เราก็ต้องยอมจำใจเพื่อจะต้องเอาหุ้นมาก่อน หลังจากนั้นเราก็มาคุยกันว่าสาขาใหม่ที่จะเปิดเราจะแบ่งกันยังไงคุณใช้ชื่อแบรนด์เดิมช่องทางการขายเหมือนเดิมทั้งหมดไม่มีอะไรสร้างใหม่ขึ้นมาเลยซึ่งผลประโยชน์มันไปตกที่บริษัทใหม่ทำให้บริษัทอันเดิมไม่ได้อะไรเลย เหมือนพยายามเอารายได้ไปตกที่บริษัทใหม่

เม : “ พอ ”เม“ โดนปิดกั้นไม่ให้เปิดหน้า ”เม“ ก็ไปหามองว่าจะทำอะไรดีตรงส่วนนี้ แต่ว่าเราก็สรุปกันไม่ได้ว่าถ้าเราไม่เปิดหน้าแล้วจะทำอะไรให้กับบริษัทดี”

ไม่ให้ออกหน้าเอาชื่อไปลงหุ้นได้ไหม

เม : “จริงๆตัวหนูอยากเอา ชื่อไปใส่ในตัวหุ้นอยู่แล้วแต่หุ้นส่วนพิมพ์มาว่าอยากเป็นชื่อคนอื่นเพราะยังไม่สบายใจที่จะเป็นชื่อเราและเป็นชื่อที่หุ้นส่วนยอมรับได้ก็เลยเป็นชื่อของน้องสาวของเรา จะบอกว่าความสัมพันธ์มันเริ่มแปลกๆตั้งแต่ธุรกิจเติบโต มันไม่ได้เป็นหนึ่งอันเดียวกันเหมือนที่เราก่อตั้งมาก็ยอมรับว่าเขาก็ดังขึ้นเลยอาจจะกังวลเรื่องชื่อเสียงเขามั้ง“

อะไรที่ทำให้ถึงขั้นแตกหัก

เม : “ตั้งแต่ได้รับ option ต่างๆ และได้ยินเหตุผลอะไรหลายอย่างจริงๆเราคือเพื่อนกันนะที่ทำธุรกิจนี้ขึ้นมา ตัวแทนการเปิดประชุมของเขา บอกว่าจริงๆคุณหมอสองคนเขาจะไปทำอะไรก็เรื่องของเขาไม่จำเป็นต้องรายงานคุณด้วยซ้ำ คุณเองลงทุนไปก็ได้ผลกำไร ไม่ใช่หรอจะเอาอะไรอีกคือเราไม่ต้องการเกาะแข้งเกาะขาคุณไปตลอดเราเพียงแค่อยากจะรู้ว่าจะยุติธุรกิจนี้ยังไง หลังจากนั้นเราก็โดนเตะออกจากกลุ่มไลน์ที่สำคัญเพราะมันมีหลักฐานอยู่ในนั้นส่วนกลุ่มอื่นก็ไม่มีการเคลื่อนไหว“

แซก : ”เราก็มีติดต่อไปขอดูบัญชีบริษัทแต่ก็ไม่ได้รับการอนุญาตให้ดู ระหว่างที่เรานั่งรอก็ตำรวจเข้ามาจับ เขาแจ้งข้อหาว่าเราบุกรุก“

เม : “ ยอมรับว่าวันนั้นตกใจและโกรธมาก“

แซก : ”วันนั้นเราก็ชี้แจงกับตำรวจว่าเรามาตามที่ตำรวจนัด เราสามารถตรวจสอบได้เพราะเราเป็นผู้ถือหุ้นพี่ ตำรวจก็เลยกลับไป ในวันนั้นเองเราโดนมา 2 เรื่อง ข้อหาบุกรุก, หมิ่นประมาท และ พ.ร.บ. คอมฯ”

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

 

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube