คนละครึ่งพลัส หนุนเศรษฐกิจไตรมาส 4 รัฐช่วยจ่าย 200 บาทต่อวัน
คนละครึ่งพลัส วันที่ 20–26 ตุลาคมนี้ ใครอยู่ในระบบภาษีได้ 2,400 บาท หรือ ใครไม่อยู่ได้ 2,000 บาท เตรียมตัวให้ดี
รัฐบาลเตรียมเดินหน้าโครงการ “คนละครึ่งพลัส” ซึ่งถือเป็นมาตรการสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ช่วงปลายปี โดย คุณ เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า วันที่ 7 ตุลาคมนี้ กระทรวงการคลังจะเสนอเรื่องให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติ กรอบวงเงินรวม 4.4 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น งบกระตุ้นเศรษฐกิจ ปีงบประมาณ 2569 จำนวน 2.5 หมื่นล้านบาท และ งบกลางอีก 1.9 หมื่นล้านบาท
โครงการคนละครึ่งพลัส มีเป้าหมายให้ประชาชนเข้าถึงประมาณ 20 ล้านคน โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่มหลัก คือ
1.ประชาชนที่อยู่ในระบบภาษี จำนวน 11 ล้านคน รัฐสนับสนุนให้คนละ 2,400 บาท และต้องร่วมจ่ายเองอีก 2,000 บาท
2.ประชาชนทั่วไปที่ไม่ได้อยู่ในระบบภาษี จำนวน 9 ล้านคน รัฐสนับสนุนให้คนละ 2,000 บาท และต้องร่วมจ่ายเองอีก 2,000 บาท
ทั้งสองกลุ่มสามารถใช้สิทธิได้ตั้งแต่ 29 ตุลาคม ถึง 31 ธันวาคม 2568 รวมเวลา 2 เดือน โดยกำหนดให้ใช้จ่ายได้ไม่เกิน 200 บาทต่อวัน จากเดิมที่เคยจำกัดวันละ 150 บาท หากใช้ไม่หมดสามารถสะสมไปใช้ในวันถัดไปได้
ขณะที่ ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวนกว่า 13 ล้านคน จะไม่ได้รับสิทธิคนละครึ่ง แต่รัฐบาลได้เติมเงินช่วยเหลือเพิ่มอีก 1,700 บาท รวมเป็น 2,000 บาท สำหรับใช้จ่าย ในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคม 2568 โดยโอนเข้ากองทุนสวัสดิการแห่งรัฐ และโอนตรงให้ผู้มีรายได้น้อยเพื่อใช้ตามจริง
สำหรับขั้นตอนการลงทะเบียน ประชาชนสามารถลงทะเบียนผ่าน เว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com หรือ แอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ตั้งแต่วันที่ 20 ถึง 26 ตุลาคมนี้โดยผู้ที่เคยเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งในรอบที่ผ่านมา สามารถกดยืนยันสิทธิได้ทันที ส่วนผู้ที่ไม่เคยเข้าร่วม จะต้องลงทะเบียนใหม่ และระบบจะตรวจสอบสถานะว่าประชาชนรายนั้น อยู่ในระบบภาษีหรือไม่ หากพบปัญหาสามารถติดต่อธนาคารเพื่อยืนยันข้อมูล
ในส่วนของร้านค้า เปิดให้ลงทะเบียนเข้าร่วมตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป และสามารถเข้าร่วมโครงการได้จนสิ้นสุดมาตรการ โดยคาดว่าจะมีร้านค้าเข้าร่วมมากกว่า หนึ่งล้านแห่ง รวมทั้งขยายขอบเขตให้กับนิติบุคคลขนาดเล็ก เพื่อให้โครงการครอบคลุมร้านค้าที่หลากหลายมากขึ้น
กระทรวงการคลังคาดว่า การดำเนินโครงการคนละครึ่งพลัส ร่วมกับการเติมเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในไตรมาส 4 ปีนี้ได้ประมาณ 0.2 ถึง 0.4 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพี เนื่องจากเม็ดเงินจากประชาชนจะถูกนำไปใช้จ่ายจริง และหมุนเวียนเข้าสู่เศรษฐกิจฐานรากโดยตรง
โครงการนี้จึงถือเป็นหนึ่งในมาตรการระยะสั้น ที่รัฐบาลตั้งใจผลักดัน เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ และสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานราก ควบคู่ไปกับโครงการสวัสดิการอื่น ๆ ที่กำลังดำเนินการอยู่ นี่ก็ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่รัฐบาลหวังจะสร้างแรงส่งให้เศรษฐกิจไทยเดินหน้าอย่างมั่นคง ในช่วงปลายปีนี้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
