สหรัฐชัตดาวน์ ไทยกระทบอะไรบ้าง?
1 ต.ค. 2568 สหรัฐอเมริกา เข้าสู่ ‘Government Shutdown’ ที่ก่อนหน้านี้นักลงทุนทั่วโลก ให้ความสนใจ เรามาทำความรู้จักกันก่อนว่า Government Shutdown คืออะไร?
Government Shutdown คือภาวะที่รัฐบาลกลางของสหรัฐ จะต้องหยุดดำเนินงาน หรือหยุดงานบริการที่ไม่จำเป็นลงเป็นการชั่วคราว
หลังวุฒิสภาสหรัฐฯ ปฏิเสธร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวเพื่อจัดสรรเงินทุนให้กับหน่วยงาน ของรัฐ จนเลยเส้นตายเที่ยงคืนของวันที่ 30 ก.ย.68
เมื่อกฎหมายไม่ผ่าน รัฐบาลก็ไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะใช้จ่ายเงินต่อได้ ทั้งหมดนี้เป็นผลมากจาก ความขัดแย้งทางการเมืองและ เมื่อเกิดการ Shutdown เจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางที่ถือว่าเป็น “บุคลากรที่ไม่จำเป็น” จะถูกพักงานและไม่ได้รับค่าจ้าง ไม่มีกำหนด
ส่วนบุคลากรที่จำเป็นต่อความมั่นคงและสาธารณสุข เช่น ทหาร ตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่รักษา ความปลอดภัยการบิน จะยังคงต้องทำงานแต่จะ แต่อาจจะยังไม่ได้รับค่าจ้างทันที
บริการสาธารณะที่ไม่จำเป็นจะหยุดลง การบริการหลายๆ อย่างจะล่าช้า
ทั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ เคยชัตดาวน์ครั้งล่าสุดในปี 2018–2019 เป็นเวลา 35 วัน ในช่วงสมัยแรก ของประธานาธิบดีทรัมป์ เนื่องจากข้อพิพาทเรื่องนโยบายคนเข้าเมือง ซึ่งสร้างความเสียหาย ต่อเศรษฐกิจสหรัฐมูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 0.02% ของจีดีพี
มาดูผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประเทศไทย และเศรษฐกิจโลก
1. ผลกระทบด้านเศรษฐกิจโลก Shutdown ของสหรัฐฯ ทำให้เกิด ความไม่แน่นอนทางการเงินและการเมือง ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก
ตลาดหุ้นผันผวน: นักลงทุนทั่วโลกมักกังวลเรื่องเสถียรภาพของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกรวมถึง ไทยอาจเกิดแรงขายและผันผวนตาม
ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า: นักลงทุนมักขายสินทรัพย์สกุลดอลลาร์ ส่งผลให้ ค่าเงินบาทแข็งขึ้น เป็นอุปสรรคต่อการส่งออกของไทย
ราคาทองคำพุ่ง: นักลงทุนหันไปถือสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น ทองคำ ราคาทองในไทยอาจปรับขึ้น อย่างที่เป็นอยู่
ผลต่อราคาน้ำมัน: หากเศรษฐกิจโลกชะลอตัวเพราะ Shutdownราคาน้ำมันลดลง ซึ่งมีผลต่อต้นทุนพลังงานของไทย
2. ผลกระทบต่อการส่งออกของไทย
สหรัฐเป็นคู่ค้าอันดับต้น ๆ ของไทย โดยเฉพาะสินค้าอิเล็กทรอนิกส์, รถยนต์, ชิ้นส่วน, อาหารแปรรูป ฯลฯ หากเกิด Shutdown ยืดเยื้อ: คำสั่งซื้อจากบริษัทสหรัฐจะชะลอ บริษัทที่ทำธุรกิจกับหน่วยงานรัฐสหรัฐฯ อาจถูกเลื่อนจ่ายเงิน
ส่งผลกระทบต่อ SME ไทยที่ผลิตสินค้าให้กับบริษัทที่มีฐานในอเมริกา
________________________________________
3. ผลกระทบต่อนักลงทุนต่างชาติและตลาดการเงินไทย
กระแสเงินทุน (fund flow) จะเปลี่ยนทิศทาง: นักลงทุนอาจถอนเงินจากตลาดเกิดใหม่ (เช่น ตลาดหุ้นไทย) แล้วกลับไปหาสินทรัพย์ปลอดภัย หรือในบางกรณี ดอลลาร์อ่อน เงินไหลเข้าตลาดเอเชีย (รวมถึงไทย) ชั่วคราว ทำให้เงินบาทแข็ง
อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรสหรัฐฯ (US bond yield) แปรปรวน ส่งผลต่อดอกเบี้ยของไทย
________________________________________
4. ผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยว
หากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอตัว หรือประชาชนรู้สึกไม่มั่นใจด้านรายได้ช่วงรัฐบาลหยุดทำงาน: นักท่องเที่ยวสหรัฐ อาจชะลอแผนเที่ยวเมืองไทย ส่งผลต่อรายได้ของไทยในกลุ่มโรงแรม ร้านอาหาร สายการบิน ฯลฯ
________________________________________
5. ผลกระทบเชิงจิตวิทยา / ความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจโลก
แม้ shutdown จะจบในไม่กี่วันหรือไม่กระทบบริการหลัก แต่ภาพลักษณ์ของสหรัฐในฐานะผู้นำเศรษฐกิจโลกอาจ สั่นคลอน นักลงทุนและรัฐบาลต่างประเทศ (รวมไทย) อาจ ระวังการถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ (US Treasuries) และอาจจะส่งผลต่อนโยบายระยะยาว เช่น FTA / ความร่วมมือด้านการลงทุน
การ Shutdown ของสหรัฐฯ อาจจะไม่ได้กระทบไทยโดยตรงทันที แต่ส่งผล ผลกระทบ”ทางอ้อม” อาจเกิดขึ้นได้ ถ้ายืดเยื้อ ผลกระทบชัดเจนที่สุดคือ “คำสั่งซื้อจากสหรัฐฯ ชะลอ” , เงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าเร็วเกินไปกดดันผู้ส่งออก , ตลาดหุ้นไทยมีโอกาสผันผวนในช่วง 1–2 สัปดาห์ นี้
แต่การ Shutdown จะไม่ส่งผลต่อประเทศไทย เพราะถ้างบประมาณไม่ผ่านก็ต้องยุบสภา
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
