Home
|
ข่าว

“รังสิมันต์” จี้สอบเส้นเงินคอลเซ็นเตอร์ “ไชยชนก” แฉสินบน 40 ล้าน

Featured Image
“รังสิมันต์” ไม่รู้รัฐบาลทำประชามติยกเลิก MOU 43-44 ชี้ภูมิใจไทยต้องอธิบาย จี้”อนุทิน” ลุยสอบเส้นเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลัง “ไชยชนก” แฉถูกยื่นสินบน 40 ล้าน มั่นใจ หากปราบจริง สัมพันธ์ไทย–กัมพูชาจะดีขึ้น

 

นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคประชาชน และประธาน กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ แสดงความกังวลต่อแนวคิดรัฐบาลอนุทินที่จะจัดทำประชามติสอบถามประชาชน กรณียกเลิกบันทึกความเข้าใจ (MOU) ไทย–กัมพูชา ฉบับที่ 43–44

 

นายรังสิมันต์ ย้ำว่า MOU เป็น “เรื่องอ่อนไหว” จึงไม่เข้าใจว่ารัฐบาลจะจัดทำประชามติอย่างไรให้ประชาชนมีข้อมูลเพียงพอตัดสินใจ โดยที่กัมพูชาไม่ล่วงรู้จนกระทบต่อผลประโยชน์ชาติ พร้อมตั้งคำถามถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ว่าจะมีวิธีใดป้องกันความเสียหาย

 

แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับคำตอบชัดเจน พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า หากมีการยกเลิก MOU จริง กัมพูชาอาจใช้ช่องว่างดังกล่าวอ้างต่อศาลโลก ว่าไม่มีกลไกการเจรจาร่วม (JBC) ซึ่งอาจทำให้ไทยเสียเปรียบ อีกทั้ง MOU 44 ยังมีรายละเอียดเกี่ยวกับผลประโยชน์ทางทะเลที่ซับซ้อน หากยกเลิกไปโดยไร้กลไกทดแทน อาจก่อให้เกิดปัญหาตามมา

 

นายรังสิมันต์ ระบุว่า การจะทำประชามติเรื่องนี้ “ไม่ใช่เรื่องง่าย” เพราะข้อมูลที่ ส.ส. และ ส.ว. ได้รับยังไม่เท่ากัน และประชาชนเองก็ต้องการข้อมูลครบถ้วน จึงขอย้ำจุดยืนว่า ต้องเปิดข้อมูลและยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นหลัก

 

ส่วนการทำประชามติควบคู่กับการเลือกตั้งจะส่งผลทางการเมืองอย่างไรนั้น มองว่า เป็น “ภาระของพรรคภูมิใจไทย” ที่ต้องอธิบายต่อสังคม เพราะเรื่องนี้ ส.ส. คนอื่นๆ ไม่เคยทราบมาก่อน พร้อมเรียกร้องรัฐบาล อย่านำความลับของชาติไปเป็นประโยชน์ทางการเมือง

 

ขณะเดียวกัน นายรังสิมันต์ เรียกร้องรัฐบาล “อนุทิน” เร่งเอาจริงปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลังนายไชยชนก ชิดชอบ รมว.ดีอี ระบุว่า ถูกเสนอเงินสินบน 40 ล้านบาท เพื่อยุติการสืบสวน ชี้หากเงียบคือส่งสัญญาณรัฐบาล ไม่จริงใจแก้ปัญหา

 

พร้อมย้ำว่า การจัดการต้องมุ่งไปที่ “หัวขบวนใหญ่” ขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ไม่ใช่แค่บัญชีม้า ทั้งนี้ ตนมีหลักฐานว่า ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกฯ และ รมว.เกษตรฯ รู้เรื่องนี้ และสามารถเป็นพยานสำคัญ เพื่อสาวไปถึงเส้นทางการเงินทั้งหมดได้

 

ขณะเดียวกัน นายรังสิมันต์ เรียกร้องรัฐบาล “อนุทิน” เร่งเอาจริงปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลังนายไชยชนก ชิดชอบ รมว.ดีอี ระบุว่า ถูกเสนอเงินสินบน 40 ล้านบาท เพื่อยุติการสืบสวน ชี้หากเงียบคือส่งสัญญาณรัฐบาลไม่จริงใจแก้ปัญหา พร้อมย้ำว่า การจัดการต้องมุ่งไปที่ “หัวขบวนใหญ่” ขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ไม่ใช่แค่บัญชีม้า ทั้งนี้ ตนมีหลักฐานว่า ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกฯ และ รมว.เกษตรฯ รู้เรื่องนี้ และสามารถเป็นพยานสำคัญ เพื่อสาวไปถึงเส้นทางการเงินทั้งหมดได้

 

นายรังสิมันต์ ตั้งข้อสังเกตว่า เงินสินบน 40 ล้านบาท ไม่น่ามาจากกลุ่มเล็ก แต่อาจเกี่ยวพันเครือข่ายระดับพันล้าน–หมื่นล้าน พร้อมเป็นห่วงตำรวจไซเบอร์และหน่วยงานบังคับใช้ กฎหมายอาจถูกซื้อเช่นกัน จึงต้องให้หน่วยงานอย่าง ปปง. และ ก.ล.ต. เข้ามาร่วมตรวจสอบ

 

“นี่ไม่ใช่แค่ปัญหาในประเทศ แต่เป็นระดับโลก เรากำลังเห็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้เงินนับแสนล้านมายึดประเทศ หากรัฐบาลไม่ทำอะไรอาจเข้าข่ายละเว้นปฏิบัติหน้าที่ตาม ม.157”

 

จึงขอย้ำว่า หากกำจัดแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ ความสัมพันธ์ไทย–กัมพูชาจะดีขึ้นทันที เพราะจะหมดอิทธิพลเครือข่ายสีเทาที่แทรกอยู่ ดังนั้น กมธ.ความมั่นคงฯ เตรียมเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจง โดยมั่นใจ หากรัฐขยับจริง เรื่องนี้จะจบเร็วและช่วยปกป้องผลประโยชน์ของชาติ

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

 

 

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube