เปิดใจ! “เวียร์ ศุกลวัฒน์” อุบโปรเจกต์ใหม่ ยังไม่คิดมีลูกเพิ่ม
เปิดใจ! “เวียร์ ศุกลวัฒน์” อุบโปรเจกต์ใหม่ ยังไม่คิดมีลูกเพิ่มกลัวภรรยาเหนื่อย เตรียมร้องไห้ “น้องวิริน” ไปโรงเรียน ส่งกำลังใจให้ทหารชายแดนไทย
เรียกได้ว่าเป็นคุณพ่อลูกอ่อนกับหรับหนุ่ม “เวียร์ ศุกลวัฒน์” ที่หายหน้าหายตาไปนานกับการแสดง ซึ่งวันนี้ได้มาร่วมงานแถลงข่าวภาพยนตร์เสือ จึงถือโอกาสสัมภาษณ์ว่า
“ก็ช่วงที่หายไปก็ไปทำงานนี่แหละ คือก็ต้องใช้เวลาเนอะ สมกับการรอคอย แน่ ๆ ทั้งสามโปรเจกต์นี้ ทั้งสามโปรเจกต์เป็นโปรเจกต์ที่ยอดเยี่ยม เพราะว่าส่วนใหญ่ระยะการทำงานมันสั้นลง สมัยก่อนทำงานก็เจ็ดแปดเดือนเรื่องนึง ปัจจุบันประมาณสองสามเดือนก็เสร็จแล้ว
จริง ๆ แล้วตนก็รับทีละเรื่อง คือจริง ๆ อยากเที่ยวตลอดเวลา ก็จะพยายามบาลานซ์กันระหว่างการทำงาน และให้เวลากับครอบครัว


เรื่องหนวด จริง ๆ โกนหมดแล้ว แต่พอดีวันนี้อยากให้มีความเข้ม ก็เลยติดหนวดมานิดนึง บวกกับมีโปรเจกต์นึงถ่ายอยู่ เป็นซีรีส์ที่ยังบอกไม่ได้ ตอนนี้ก็ยังถ่ายอยู่อีกเรื่องนึง
ตอนแรกก็เสียดายหนวดนิดนึง แต่ตนต้องเริ่มโปรเจกต์ใหม่ เขาก็ต้องให้โกน พอถึงเวลาแล้วก็โอเค คือมันคงไม่มีอะไรให้ไว้อย่างนี้อีกแล้วนะ หรืออาจจะมีอีกก็ไม่แน่ ก็ครั้งหนึ่งในชีวิตตนไม่เคยไว้ยาวขนาดนี้ “เสือ” น่าจะเป็นโปรเจกต์แรกเลยที่ไว้หนวดไว้เครา ผมยาวขนาดนี้


ลูกสาวจำได้ แต่บางทีก็อาจจะมีชี้ไปที่หนวดแล้วบอกเจ็บแต่พักหลัง ๆ ก็ชินแล้ว ส่วนภรรยาเขาก็แซวว่าโปรเจกต์เสร็จแล้วโกนได้แล้ว ภรรยาชอบได้หมดทั้งคู่
เผยชอบเที่ยวมาก แต่งานก็ต้องทำ ตนก็อยากจะพาลูกไปเที่ยว อยากจะไปเดินธรรมชาติกัน คือพูดทุกวัน ทำงานอยู่ก็พูด คือมันเหมือนเป็นแรงผลักดันนะ มันเหมือนมันมีความสุข ที่ตนได้ไปเที่ยวกับครอบครัว
ถ้าเป็นไปได้ต้องมีทริปทุกเดือน แต่ตอนนี้มันทำงาน จริง ๆ พอมีเวลาซักสามวันบางทีก็ไปอยู่บ้านต่างจังหวัด


ตอนนี้ยังไม่ได้คิดเรื่องลูกอีกคน ตอนนี้ก็เต็มที่กับ “วิริน” จริง ๆ คุณแม่เหนื่อย เหนื่อยมาก คือฟูลไทม์ 24 ชั่วโมง ตนก็เลยรู้สึกว่า ถ้าจะพร้อมจริง ๆ คนที่เหนื่อยที่สุดก็คือแม่ เพราะตอนนี้เราพยายามอยู่ให้เขาอยู่กับเราให้นานที่สุด ก่อนจะเข้าโรงเรียน เพราะเรารู้สึกว่าเด็กไปเรียนตอนที่ยังไม่ถึงเวลาที่ต้องไปเรียน เขาจะไม่มีความสุขหรอก เขาน่าจะอยากเล่นมากกว่า ก็อาจจะมีคุณแม่คอยดูว่าเหมือนจะมีหลักสูตรอะไรไหมที่สามารถอยู่ที่บ้านได้ แล้วพอถึงเวลาจริง ๆ ตนก็ค่อยให้เขาไปเรียน
ถึงเวลาแล้วค่อยไปเรียนแล้วกัน ไม่ต้องไปเตรียมหรอก อยู่กับพ่อแม่นี่แหละ ลูกไปโรงเรียนก็ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงเหมือนกัน ถามว่าคิดภาพไว้ไหมว่าตนจะต้องร้องไห้ฟูมฟายหรือเปล่า มันก็คงต้องมีแหละ คิดว่าทั้งคู่คงเกาะรั้วดูลูก คุยกันแล้วว่าจะไปแอบดูที่โรงเรียน สองคนกอดคอร้องไห้กันอยู่ในรถ


ยังไม่ได้คุยกับลูกเรื่องโรงเรียง ก็พยายามไม่ได้เล่าเรื่องนี้ให้เขาฟัง คือคุณแม่เขาซื้อหลักสูตรซื้อหนังสือมา เขาก็สอนทุกวัน มีอะไรก็สอนเขาไปเรื่อย ๆ คือพ่อกับแม่นี่แหละ ผ่านมาแล้ว เรียนมาก่อนก็สอนเขา
สุดท้ายฝากข้อความถึงทหารไทยก็ขอเป็นส่วนหนึ่งที่ให้กำลังใจพี่ทหารชายแดน ก็สู้ ๆ เป็นกำลังใจให้ทุกคน”


ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





