ปธ.อุตฯโคราช ชี้ มั่นคงต้องมาก่อน หวังรบ.ยุติปัญหาโดยเร็ว
ประธานสภาอุตสาหกรรมโคราช ชี้ ความมั่นคงต้องมาก่อน หวังรัฐบาล”อนุทิน” ร่วมหาทางออก ยุติปัญหาโดยเร็ว ขณะที่ปรับโครงสร้างค่าไฟ-ค่าแรง ทำแบกภาระต้นทุนอ่วม
นางธิดารัตน์ รอดอนันต์ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมาได้ให้สัมภาษณ์หลังแถลงข่าวความพร้อมการจัดงาน Agro FEX 2025 (ฟู้ดเด้อ Fooder) ภายใต้แนวคิด “จากฟาร์มถึงช้อน สะท้อนนวัตกรรมอาหารไทย” ที่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลโคราช อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา เกี่ยวกับความคาดหวังต่อรัฐบาลชุดใหม่
ภายใต้การบริหารของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ว่า “จริงๆ เราตั้งความหวังกับทุกรัฐบาลใหม่ขอให้มีความเข้าใจ นักอุตสาหกรรม เพราะภาคอุตสาหกรรมมีแรงงานในความดูแลอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งการจะบริหารจัดการหรือปรับเปลี่ยนอะไร จะต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วนเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อภาพรวม
อย่างเช่น เรื่องการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ จะมีคณะกรรมการค่าจ้าง หรือบอร์ดไตรภาคีอยู่แล้ว การกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ ต้องมีการพิจารณาร่วมกัน 3 ฝ่าย คือ ฝ่ายนายจ้าง ฝ่ายลูกจ้าง และฝ่ายรัฐบาล จึงจะได้ตัวเลขที่เป็นธรรมและธุรกิจสามารถดำเนินต่อไปได้
นอกจาก เรื่องค่าไฟก็เป็นปัจจัยการผลิตที่สำคัญอีกอย่าง เพราะว่ารัฐบาลกำลังจะจัดโครงสร้างค่าไฟใหม่ โดยให้ภาคอุตสาหกรรมไปรับต้นทุนราคาแพงของ LNG ผ่านโครงสร้างราคาพูลก๊าซ (Gas Pool) ที่รวมต้นทุนเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติทั้งหมด
ไม่ว่าจะเป็นก๊าซจากอ่าวไทย หรือก๊าซที่ต้องนำเข้าในรูป LNG แล้วนำมาคำนวณเป็นต้นทุนค่าไฟฟ้า ซึ่งเรื่องนี้ นักอุตสาหกรรมอยากจะให้รัฐบาลช่วยพิจารณาช่วยเหลือและเห็นใจด้วย เพราะในภาวะที่จะต้องส่งสินค้าไปขายยังต่างประเทศ ท่ามกลางประเทศคู่แข่งที่ล้วนแต่มีค่าไฟที่ถูกกกว่า
อย่างเช่น ประเทศเวียดนาม และประเทศมาเลเซีย เป็นต้น ไทยยังต้องแข่งขันกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอีกหลายประเทศ ดังนั้น ค่าแรงและค่าไฟฟ้าจึงเป็นปัจจัยที่สำคัญอย่างมากที่จะต้องคำนึงถึง เพราะเป็นต้นทุนในการประกอบกิจการ
ส่วนปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ต้องยอมรับว่า การเรียกแรงงานชาวกัมพูชากลับประเทศ ส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะสถานประกอบกิจการโรงงานหลายๆ แห่ง ใช้แรงงานต่างชาติเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นแรงงานชาวพม่า ลาว กัมพูชา เมื่อมีการเรียกแรงงานกลับประเทศ ส่งผลกระทบทำให้ขาดแคลนแรงงาน
ถึงแม้ว่ารัฐบาลจะพยายามนำเข้าแรงงาน จากประเทศอื่นๆ เข้ามา แต่ปริมาณอาจจะไม่เพียงพอ หรืออาจจะต้องใช้เวลาสำหรับกระบวนการนำเข้าแรงงาน และยังจะต้องมาเทรนนิ่งแรงงานก่อน จนกว่าจะพร้อมเริ่มงานได้ ตรงนี้ก็ยังเป็นปัญหาที่จะต้องเร่งแก้ไข
สำหรับสถานการณ์การสู้รบที่ชายแดน ทางภาคอุตสาหกรรมมีความเห็นว่า “ความมั่นคงต้องมาก่อน” แต่ทั้งนี้อยากให้รัฐบาลช่วยมองหาทางออกร่วมกัน ว่า จะจบปัญหาตรงนี้อย่างไรโดยที่เราไม่เสียอธิปไตย ของชาติและเมื่อ End Up สถานการณ์ยุติลง ยังสามารถเป็นเพื่อนที่ดีต่อไปได้ ซึ่งการเป็นเพื่อนกันย่อมจะดีกว่าการเป็นศัตรู เพราะเราจะได้ประโยชน์ร่วมกันทั้งสองฝ่าย กัมพูชามีรายได้ ไทยก็ได้ประโยชน์ในภาคอุตสาหกรรม
แต่ทุกวันนี้บางส่วนต้องข้ามไปฝั่งลาว ไปใช้การขนส่งผ่านทางประเทศลาว ทำให้ต้นทุนค่าขนส่งแพง จึงคิดว่า ถ้ามีการเจรจากันได้อย่างยุติธรรม รวมไปถึง แก้ปัญหาเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พนันออนไลน์ ธุรกิจไม่ถูกกฎหมาย รวมถึง เรื่องอื่นๆ ที่เอาของประเทศไทยไป อยากให้รัฐบาลได้เร่งแก้ไข
ถ้าสามารถแก้ปัญหาแต่ละเรื่องได้อย่างรวดเร็ว นักอุตสาหกรรมก็จะโล่งใจและดีใจเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังสามารถ เปิดด่านชายแดนได้ด้วย ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจหมุนเวียน เป็นประโยชน์กับทั้งสองประเทศได้อีกครั้ง” นางฐิดารัตน์ฯ กล่าว .
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





