เพื่อไทย จัดทัพถล่มนโนบาย “รบ.อนุทิน” พุ่งเป้าคุณสมบัติ รมต.
หลังมีกระแสข่าวกำหนดวันแถลงนโยบายรัฐบาลอนุทิน อย่างไม่เป็นทางการ ระหว่างวันที่ 29-30 กันยายนนี้ ทางพรรคเพื่อไทย ก็เตรียมความพร้อมมาตลอด พุ่งเป้าตรวจคุณสมบัติ รมต.
โดยกำหนดแบ่งงาน แบ่งหัวข้ออภิปรายเป็น 2 กลุ่ม คือ ตัวนโยบาย ในระยะเวลา 4 เดือนและคุณสมบัติของรัฐมนตรี ขณะคืบหน้าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ หมวด 15/1 มีความก้าวหน้าไปมากพรรคเพื่อไทย มั่นใจสามารถเสนอได้สัปดาห์หน้า โดยยึดคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ
ความเคลื่อนไหวการเมืองในช่วงสัปดาห์นี้ มาติดตามในฟากฝั่งของพรรคเพื่อไทย ภายหลังมีกระแสข่าวกำหนดการอย่างไม่เป็นทางการ ของวันแถลงนโยบายรัฐบาล “อนุทิน ชาญวีรกูล” ที่กำหนดไว้ระหว่างวันที่ 29-30 กันยายนนี้
โดยนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย เปิดเผยถึงความพร้อมของพรรคเพื่อไทยในการอภิปรายคำแถลงนโยบายของรัฐบาล ว่า พรรคได้มีการประชุมเตรียมความพร้อมแล้ว เมื่อวันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา โดยมีมติจัดตั้งคณะทำงานหลัก เพื่อเป็นหัวหอกในการอภิปราย ประกอบด้วย นายสุทิน คลังแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายจาตุรนต์ ฉายแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ และตนเอง
ทั้งนี้ การเตรียมการอภิปรายจะมุ่งเป้าไปที่ 2 กลุ่มสำคัญ ได้แก่ 1.ด้านนโยบาย เน้นการตรวจสอบเนื้อหาของคำแถลงนโยบายรัฐบาลในระยะ 4 เดือนแรก 2.ด้านบุคคล จะการตรวจสอบคุณสมบัติ ความรู้ ความสามารถ และลักษณะต้องห้ามของผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ว่ามีความเหมาะสมต่อการบริหารราชการแผ่นดินหรือไม
นพ.ชลน่าน ย้ำว่า การอภิปรายครั้งนี้ จะใช้เวลาอย่างน้อย 2 วัน เพื่อเปิดโอกาสให้สมาชิกรัฐสภาได้มีส่วนร่วมอย่างทั่วถึง ไม่ว่าจะเป็น ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน หรือสมาชิกวุฒิสภา โดยไม่แบ่งตามหัวข้อการอภิปราย แต่เน้นการกระจายเวลาอย่างเหมาะสม
ส่วนโฉมหน้าคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ที่ออกมาแล้วจะถูกหยิบยกประเด็นใดบ้าง นพ.ชลน่าน ระบุว่า ฝ่ายพรรคเพื่อไทย เห็นว่า “คุณสมบัติของรัฐมนตรี” เป็นเรื่องสำคัญและต้องให้ความชัดเจน เพราะเกี่ยวข้องโดยตรงกับศักยภาพในการบริหารราชการแผ่นดิน หากมีข้อขัดกันในด้านคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้าม ก็จำเป็นต้องถูกหยิบยกขึ้นอภิปรายอย่างตรงไปตรงมา
ขณะความคืบหน้าการจัดทำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ นพ.ชลน่าน ระบุว่า พรรคเพื่อไทยมีความก้าวหน้าอย่างมาก หลังจากประชุมไปแล้ว 3 ครั้ง โดยร่างแก้ไขเพิ่มเติมได้เสร็จสิ้นในเบื้องต้น และอยู่ระหว่าง การปรับแก้รายละเอียด พร้อมยืนยันว่า จะยึดคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญเป็นหลัก เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาข้อกฎหมาย และจะมุ่งเน้นการเพิ่มหมวด 15/1 ตามมาตรา 256 สำหรับจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เท่านั้น โดยไม่แตะต้องประเด็นอื่น เนื่องจากกรอบเวลามีจำกัด
สำหรับไทม์ไลน์การพิจารณา มั่นใจว่า จะสามารถเสนอต่อสภาได้ภายในสัปดาห์หน้า โดยวาระ 1 ต้องเข้าสภาอย่างช้าที่สุดไม่เกินวันที่ 29 ต.ค. ก่อนปิดสมัยประชุมวันที่ 31 ต.ค. และหากเป็นไปตามขั้นตอน วาระ 3 ต้องเสร็จสิ้นไม่เกินวันที่ 15 ม.ค. 2569 เพื่อให้ทันต่อการยุบสภาและทำประชามติ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





