Home
|
ข่าว

“บิ๊กเล็ก” ย้อน “ฮุนมาเนต” วางรั้วลวดหนาม กับวางทุ่นระเบิดอะไรแรงกว่า

Featured Image
“บิ๊กเล็ก”งง ! “ฮุน มาเนต” ประท้วงไทยวางรั้วลวดหนาม ย้อน วางทุ่นระเบิดแรงกว่าหรือไม่ ซัดกลับเหมือนจัดฉาก ทุกอย่างดูสอดรับกันหมด ย้ำใต้เส้นสีแดงคือ อธิปไตยไทย ใครรุกล้ำ ดำเนินการตามกฎหมาย

 

พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงชาวกัมพูชาชุมนุมประท้วงขัดขวางเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย ขณะวางเครื่องกีดขวางเสริมความมั่นคง บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ทำให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยต้องใช้มาตรการสากลเข้าควบคุมระงับเหตุว่า เรื่องนี้ต้องแบ่งเป็น 2 ส่วน

 

โดยระดับที่ตนรับผิดชอบคือ การเจรจา ซึ่งการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ข้อที่ 4 ระบุไว้ชัดเจนว่า เป็นการจัดการในพื้นที่ โดยผู้ว่าราชการทั้ง 2 จังหวัดพูดคุยกัน ซึ่งเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (17 ก.ย.68) ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว และผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจย ได้พูดคุยกัน แต่ยังไม่มีไม่มีผลคืบหน้า เพราะต้องรอรัฐบาล จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์เมื่อวานนี้

 

โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้โทรศัพท์ไปหาแม่ทัพภาคที่ 1 ให้เร่งรัดการประชุม คณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) เพื่อเร่งรัดเรื่องการจัดระเบียบพื้นที่ชายแดน แต่หากการประชุม RBC ไม่สามารตกลงได้ ก็จะไปทวงในการประชุม GBC อีกครั้ง

 

พร้อมยืนยันว่า เมื่อตกลงกันแล้ว ซึ่งตนได้พูดคุยกับพลเอก เตีย เซียฮา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของกัมพูชาแล้วว่า หากเป็นเหตุที่เกิดขึ้นในพื้นที่ของอธิปไตยไทย เราขอดำเนินการตามกฎหมายไทย

 

ขณะเดียวกัน พล.อ.ณัฐพล กล่าวย้ำว่า หากเกิดเหตุในพื้นที่อธิปไตยของไทยอีก ก็ต้องใช้กฎหมายไทย

 

เมื่อถามว่า ดูเหมือนฝ่ายกัมพูชาจะปากว่า ตาขยิบ พล.อ.ณัฐพล ยอมรับว่า ก็คงอย่างนั้น เพราะขณะนี้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนบริเวณไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) จะหมดสภาพไป เมื่อรัฐบาลเก่าพ้นวาระไป จึงทำให้ความรับผิดชอบของตน เหลือเพียงความรับผิดชอบในส่วนของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอย่างเดียว หลังจากนี้จะต้องดูเรื่องความมั่นคงอย่างเดียว ส่วนเรื่องของเศรษฐกิจต้องรอรัฐบาลใหม่ ก็ค่อยมาว่ากัน

 

พล.อ.ณัฐพล ยังระบุอีกว่า นโยบายเรื่องของความมั่นคงของรัฐบาลใหม่ชัดเจน แต่ลายลักษณ์อักษรยังไม่เสร็จเรียบร้อย ซึ่งนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้ย้ำว่า อธิปไตยต้องมาก่อนเป็นอันดับแรก

 

เมื่อถามต่อว่า การประชุม GBC เหมือนจะได้รับการตอบรับที่ดี แต่กลับสวนทางกับในพื้นที่มาโดยตลอด พลเอก ณัฐพล ระบุว่า อย่างที่เคยบอก ดูคล้าย ๆ ว่า เขามีความตั้งใจที่จะเข้าสู่กระบวนการ แต่หน้างานก็เป็นอีกแบบ ทั้งในพื้นที่ของกองทัพภาคที่ 2 และภาคที่ 1 และพื้นที่กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด (กปช.จต.)

 

ซึ่งตนได้ย้ำมาเสมอว่า เจรจาก็เจรจากันไป ส่วนหน้างานก็ว่ากันไป วันใดวันนึงถ้ารุกล้ำ เราก็ดำเนินการตามกฎการใช้กำลัง ซึ่งไม่ต้องเป็นห่วง เราไม่ยอมแน่นอน ในเรื่องเขตอธิปไตยของเรา

 

เมื่อถามต่อว่า ที่บอกว่าจะดำเนินการตามขั้นตอนตามกฎหมาย หมายถึงการดำเนินคดี ใช่หรือไม่ หรือเป็นเพียงป้องกันอธิปไตย พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ถ้าเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุมากกว่านี้ ก็ต้องถึงขั้นจับกุมบ้าง เพราะจากการสังเกตเมื่อวานนี้ เป็นลักษณะการวางแผนของฝ่ายกัมพูชา เพราะเมื่อกระทำเสร็จ วันรุ่งขึ้นก็มีหนังสือไปถึงประเทศต่าง ๆ เป็นการกระทำที่สอดรับกันมาก จึงน่าจะเป็นอย่างนั้น

 

พร้อมระบุต่อว่า การที่นาย ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีประเทศกัมพูชา ไปประท้วงยังประเทศต่าง ๆ ว่า เรากระทำต่อประชาชนชาวกัมพูชา ซึ่งภาพต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น มีประเด็นสำคัญอยู่ 2 ประเด็น คือ หัวหน้าคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ของฝ่ายไทย ยังกล่าว ชมเชยไทยว่า ฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามขั้นตอนตามกฎหมาย แต่หากเกินกว่าเหตุ ก็สามารถข้ามขั้นตอนได้

 

นอกจากนี้ กรณีที่นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ไปประท้วง ตนก็ไม่เข้าใจ เพราะไทยประท้วงกัมพูชาเรื่องการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล แต่ฝ่ายกัมพูชากลับมาประท้วงไทยเรื่องการวางแนวรั้วลวดหนาม ก่อนตั้งคำถามว่า ระหว่างการวางแนวรั้วลวดหนาม กับวางทุ่นระเบิดอันไหนรุนแรงกว่ากัน และปัจจุบันกระทรวงกลาโหมได้ประสานกับกระทรวงการต่างประเทศ ทำหนังสือประท้วงไปเช่นเดียวกัน

 

ส่วนการผลักดัน ชาวกัมพูชาออกจากพื้นที่อ้างสิทธิ์ภายใน 30 วัน แม้ว่า เส้นเขตแดนจะยังไม่ชัดเจน แต่มีเส้นสีน้ำเงิน และสีแดง ซึ่งเป็นที่รับทราบกันโดยทั่วไป ซึ่งขอย้ำว่า หากเป็นใต้เส้นแดงลงมาคือ เขตอธิปไตยของไทย จึงขอใช้กฎหมายไทย

 

อย่างไรก็ตาม ต้องคำนึงถึงมนุษยธรรมว่า ประชาชนทั้ง 2 ฝ่าย ในที่สุดก็ต้องอยู่ร่วมกัน จึงต้องดำเนินการตามขั้นตอนไป ซึ่งหากฝ่ายปกครองของกัมพูชาไม่มาดูแล ก็ต้องข้ามขั้นตอนไปเหมือนกัน เพราะเกินกว่าที่เราตกลงกันไว้

 

ส่วนจะใช้โอกาสนี้ในการกระชับพื้นที่คืนหรือไม่ พลเอก ณัฐพล กล่าวว่า ไม่ขอบอก เพราะตนต้องระมัดระวังที่จะพูด ในช่วงที่มี 2 สถานะ ทั้งรักษาการรัฐบาล และตามสื่อที่อาจจะเป็นรัฐบาลใหม่ จึงยังไม่สามารถสั่งการอะไรได้ แต่ก็ได้พูดคุยเป็นการส่วนตัวกับผู้บัญชาการทหารบก

 

แม่ทัพภาคที่ 1 ขอให้ดำเนินการไปตามกรอบที่มีอยู่ เพราะเรามีกฎการใช้กำลังอยู่แล้ว ขอประชาชนอย่าเป็นห่วง แม้ว่า รัฐบาลจะไม่สามารถดำเนินการได้ตามกฎหมายก็ตาม แต่มีกฎใช้กำลังของกระทรวงกลาโหมอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นการกระทำที่เป็นการล่วงล้ำอธิปไตย สามารถตัดสินใจได้ทันที

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube