เคลียร์ชัด! “อ๊อด บัณฑิต”เปิดใจดราม่าสมาคมผู้กำกับ ปมลิขสิทธิ์ขอไม่ยุ่ง
เคลียร์ชัด! “อ๊อด บัณฑิต” เปิดใจดราม่าสมาคมผู้กำกับ ยันชี้แจงงบได้ ปมลิขสิทธิ์ “ต้อม ยุทธเลิศ” ขอไม่ยุ่ง ให้เคลียร์กันเอง หวั่นการสนับสนุนน้อยลง
ยังคงเป็นประเด็นร้อนอย่างต่อเนื่องในวงการภาพยนต์ที่ “ต้อม ยุทธเลิศ” ไม่ร้องเรียนสมาคมผู้กำกับประเทศไทย เรื่องงบประมาณที่ทาง THACCA (ทักก้า) มอบให้ ซึ่งวันนี้ได้เจอ “อ๊อด บัณฑิต” หนึ่งในสมาชิกของสมาคมและเหรัญญิก ที่งานงานประกาศรางวัลภาพยนตร์ไทย “ชมรมวิจารณ์บันเทิง ครั้งที่ 33” ประจำปี 2567 จึงได้จ่อไมค์เพื่อให้ชี้แจงว่า
“ทราบข่าวตลอด เหรัญญิกที่พูดถึงก็คือตน ไม่ได้เป็นโดยการแต่งตั้ง แต่ตนดูแลเงินมาตั้งแต่ยุคเป็นนายก พอถึงยุคคนอื่นก็ให้เป็นต่อไปเพราะเปลี่ยนลายเซ็นจะวุ่นวาย ทุกครั้งจะมีการายงานตลอด เรื่องที่เกิดขึ้น “พี่ต้อม” คงอยากตรวจสอบอะไรบางอย่าง เงินของทักก้าเข้ามาจำนวนนึง เขาคงโกรธที่ไม่มีใครตอบในไลน์กลุ่ม ที่ตอบไม่ได้เพราะต้องรวบรวมหลักฐาน เขาถามว่าทักก้าเอาเงินเข้าสมาคมกี่ล้าน ตนตอบไม่ได้เลย เพราะต้องเอาหลักฐานมาก่อน ตนเป็นศิลปิน ไม่ใช่นักบัญชี ก็ต้องปรึกษานายกสมาคมฯ ว่าต้องเอาหลักฐานแล้วค่อยตอบ มันก็เลยเงียบ ก็เลยเกิดเรื่อง ไม่ตอบ หาว่ามีพิรุจ เลยยื่นเรื่องถอดถอนสมาคม
เงินไม่ได้เข้ามาก้อนเดียว แต่ละงานก็มาครั้งนึง มาทีละครั้ง ต้องหาหลักฐาน ต้องมีเวลาตั้งตัวว่าต้องทำยังไง พอเงียบเขาเลยโกรธ อยากบอก “พี่ต้อม” ขอเวลาหาหลักฐานนิดนึง ทุกอย่างตอบได้หมด เพราะต้องแจงกับรัฐบาล เงินเข้ามาเกือบ ๆ 70 ล้านบาท ส่วนใหญ่ที่สมาคมฯรับงาน เป็นเทศกาลหนังของต่างประเทศ เป็นเงินก้อนใหญ่ จ่ายเช็คให้ออแกไนซ์ต่าง ๆ ที่จัดงาน เพราะทำกันเองไม่ได้ กรรมการสมาคมฯส่วนนึง เป็นกรรมการ อนุกรรมการของทักก้าด้วย เขาจะมีการประชุมกัน แต่ตนไม่ได้อยู่ เขาจะสรุปมอบหมายงานกัน ตนเหมือนกองคลัง ถ้าอธิบดีหรือปลัดกระทรวงเซ็นชื่อว่าต้องเบิก ตนก็ต้องให้ ทุกอย่างตรวจสอบได้เพราะใช้งานจริง ส่วนที่ตรวจสอบได้ตนว่าโปร่งใส เช่นส่งไปให้ออแกไนซ์ เขาจะมีค่าดำเนินการเท่าไหร่ไม่รู้อยู่แล้ว โปร่งใสคือตรวจสอบได้หมดว่าให้ใครไป ไม่มีนอกมีในเพราะรู้จักออแกไนซเหล่านี้ดี ทำงานกับรัฐบาลมาเยอะ ส่วนต่างผลกำไรเป็นเรื่องปกติ เพราะให้เอกชนรันงาน


ทักก้ามีหลายส่วนคือเทศกาลหนังต่างประเทศ งบพัฒนาบุคลากร งบเทศกาลภายในประเทศ งบชิงทันเพื่อไปสร้างหนัง งาบเทศกาลมีเรื่อย ๆ มีทุกปีมันเลยคึกคัก อนุกรรมการด้านภาพยนตร์เป็นคนตัดสินว่าอันนี้ควรจะใช้เงินเท่าไหร่ มีการเสนอ ก็จะพิจารณา ประเมินตามค่าใช้จ่ายจริง ราชการไม่ปล่อยเงินง่าย ๆ มีราคากลาง เขารู้อยู่แล้ว ถ้าไม่สมเหตุสมผลทางกรมส่งเสริมวัฒนธรรมจะไม่อนุมัติ ทุกอย่างถูกตรวจสอบโดยการยื่นเสนอ ราชการตรวจสอบ ไม่ปล่อยเงินง่าย ๆ หลักฐานการโอนเงินหาได้ แต่ใช้เวลา แต่หลักฐานการใช้จ่ายตนไม่รู้ เป็นเรื่องของออแกไนซ์ เวลาตรวจสอบเป็นก้อนรวม คาดว่าใช้เวลาเป็นเดือน เพราะติดต่อบริษัทบัญชีมาช่วย เรามีแต่ศิลปินแค่นี้ก็ประสาทกิน ถ้าทำงานเอกสารคงยาก
พูดถึงเรื่อง “พี่ต้อม” วันนี้ไม่ได้คำตอบ พรุ่งนี้เตรียมการยื่นถอดถอน เลยทำงานให้ไม่ทัน กระชั้นไป ต้องตั้งสติ เพราะไม่ได้เป็นนักบัญชี เลยต้องใข้เวลา ถือเป็นเรื่องที่ดี จะได้โปร่งใส ไม่งั้นจะกำกวม คุกรุ่น ตั้งแต่มีทักก้าเข้ามาก็มีเงินเข้าสมาคมฯหลายสิบล้าน มีการตรวจสอบจริงจัง ที่ผ่านมีอินดี้ไม่ค่อยนักวิชาการ ไม่ค่อยละเอียดเรียบร้อย ไม่ได้โกรธ “พี่ต้อม” เลย สนิท กินเหล้ากันหลายครั้ง หน้าที่ตนอยู่ตรงนั้นพอดี ต้องตอบคำถาม เข้าใจเขา
มีการพูดคุยประชุมว่าเอาไงกันดี ต้องตั้งสติทุกคน คุยกันว่าต้องเริ่มเป็นระบบ จ้างนักบัญชีเลย สมาคมก็มีรายได้มากขึ้น เอาตรงนี้มาทำให้ถูกต้อง ก่อนหน้านี้ไม่มีรายได้ ทางกระทรวงฯไม่ได้ร้องขอหลักฐาน ตนยังไม่เห็นเพราะไม่ใช่ส่วนภาพยนตร์ที่ต้องทำงานกับทักก้า ทำงานในสมาคมเฉย ๆ ตอนทำเทศกาลหนังเมืองแคนที่ขอนแก่นเขาก็มีให้ทำเอกสารตรวจสอบ ต้องมีทุกงาน คาดว่า เพราะเจอเขาขอเอกสารว่าใช้จ่ายจริงเท่าไหร่


เรื่องแบบนี้พูดยาก ไม่กล้าบอกว่าไม่มีปัญหาภายใน พอเกิดเหตุการณ์แบบนี้ที่มีเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง คำไม่ไว้วางใจมันก็ต้องมีบ้าง ตอบว่าไม่มีเลยก็คงไม่ใช่ มันพอคุยกันได้ กลัวการสนับสนุนน้อยลง แต่คนอื่นไม่รู้ยังไงว่ากลัวหรือเปล่า ถึงแม้ทักก้าจะล้มไปแล้ว แต่การส่งเสริมของกระทรวงวัฒนธรรม ไม่รู้นายกฯไปคุยยังไง แต่ตนกลัว พอเกิดเรื่องแล้วอาจจะเกิดความกังวลมากขึ้น งบประมาณที่จะมาช่วยเหลือสมาคมอาจจะน้อยลง ก็กังวล ทางออกที่จะชี้แจงมีทางออกได้ เพราะเราพูดความจริง มันชี้แจง ตรวจสอบได้เราจะทำให้ดู เรื่องของภายในสมาคมฯ ตอบไม่ได้เลยว่ามีความขัดแย้งขนาดไหน มันจะมีเรื่องของการตรวจสอบ เรื่องของลิขสิทธิ์ที่เป็นข่าว มีการแบ่งทีมชัดเจน ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง ตนเป็นคนกลาง รักทุกคน อยากให้เป็นเหมือนสมัยก่อน ยุคที่ทุกคนยังรักกันดี ทุกคนยังสนุกกัน ไม่รู้จะสมานเรื่องราวยังไง คิดว่าจะพยายาม
ที่คนสงสัยว่า “ต้อม” มีเรื่องอื่นกับสมาคมฯ ก็อาจจะมี มันมาจากความรู้สึกว่าเหมือนเขาโดดเดี่ยวก็เลยรู้สึกว่าสมาคมฯ เป็นอะไร มีปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์ทำไมไม่ออกมาเทคแอคชั่นอะไรบ้าง เรื่องความขัดแย้งระหว่าง “พี่ต้อม” กับ “พี่พิ้ง” เลยทำให้เขาคิดว่าโดดเดี่ยว เลยต้องมาทวงถามความยุติธรรมกับสมาคมฯ ตนเองก็ไม่อยากยุ่ง ไม่อยากเข้าข้างใคร สมาชิกในสมาคมฯ คิดคล้าย ๆ ตนคือไม่อยากเข้าข้างใคร เป็นเรื่องของการขัดแย้ง แบ่งพรรคแบ่งพวก ลิขสิทธิ์บุปผาราตรีเป็นเรื่องของกฎหมายไปแล้ว ให้เขาคุยกันเอง ตนเป็นคนแรก ๆ ที่รู้ ไม่มีคนที่มีพาวเวอร์พอที่จะเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ย ไม่มีผู้ใหญ่ที่สองคนนี้ให้ความเคารพ ผู้กำกับรุ่นเก่า ๆ ก็เป็นรุ่นพี่ไม่กี่ปี ตนเด็กด้วย มันก็ยาก


ตนไม่เข้าข้างใคร ให้เขาเคลียร์กันเอง คิดว่าคงจะยากเพราะเขาแรงกันทั้งคู่ ให้กฎกมายเป็นตัวตัดสิน ต้องยอมรับว่าสุดท้ายถ้าทำอะไรไม่ได้ก็ต้องยุบสมาคมฯ อันนี้คือร้ายแรงสุด แต่คิดว่าไม่เกิด เพราะเราชี้แจงได้หมด ไม่รู้ว่าเรื่องกฎหมายมันยังไง ไม่กล้ามั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ คิดว่าไม่น่าเกิด แต่ก็มีโอกาส ถ้าเรื่องทุจริตในสมาคมฯ ตนมั่นใจว่าไม่มีเพราะมันต้องชี้แจงกับราชการ ต้องเสนอว่าใช้เงินอะไรไป แต่นอกจากสมาคมฯ แล้ว ขอยอม ไม่กล้าการันตีแทนคนอื่น แต่ผู้กำกับที่ช่วยเหลือเรื่องเงินมันมีการชี้แจงจริง ๆ ต้องทำเอกสารเป็นเล่ม
ยุคสมัยก่อนตั้งสมาคมฯ มาเพื่อดูแลสมาชิกเป็นหลัก ว่าใครเจ็บ ป่วย ตาย เป็นแทนไปช่วยอุตสาหกรรมหนังไทยทุกส่วน อย่างตอนโควิดตนเป็นคนไปคุยกับสคบ.ให้เป็นกองถ่ายได้ไม่เกิน 50 คน ไม่ได้เคลม ทำในนามของสมาคมฯ สคบ.ก็เปิดให้ แต่วันนี้มันขยายไปไกลกว่านั้น เปิดโอกาสให้ความรู้กับคนรุ่นใหม่ ทำให้คนรุ่นหลังรู้จักภาพยนตร์มากขึ้น รักมากขึ้น ดูหนังไทยมากขึ้น ต้องทำตรงนี้ต่อไปให้คนดูหนังไทยมากขึ้น
โครงการนี้ทำเยอะเลย ทั้งโครงการอบรมผู้กำกับมืออาชีพอยากทำโปรดิวเซอร์ ก็มีอบรม อบรมการเขียนบท ตอนนี้มีเยอะมาก ผู้กำกับที่สนใจก็ไปเรียนกัน ผู้กำกับที่สนใจก็ลงทะเบียนว่าตัวเองมีผลงานอะไร ถ้าเยอะก็ส่งไปต่างประเทศด้วย อย่างเกาหลีเปิดอบรผู้กำกับ นำเสนอตัวเองว่าคนไหนเหมาะสม รวมถึงงานเทศกาลต่าง ๆ ที่เปิดโอกาสให้หนังที่มีศักยภาพให้ผู้กำกับและทีมงานไปโชว์ตัวกับเทศกาลหนังว่สนี่คือหนังไทย คนไทย มีการผลักดันคนเหล่านี้ เห็นได้ชัดว่าแบบนี้มันส่งเสริมให้อุตสาหกรรมหนังไทยคึกคัก เปิดตัวต่างประเทศก็ทำให้คนรู้จักหนังไทย คนไทย อบรมในประเทศทำให้เด็กรุ่นใหม่ หรือผู้กำกับมีทักษะมากขึ้น บางคนผู้กำกับมาจากนักแสดงก็มี ถ้าได้เรียนรู้ก็อาจจะเก่งขึ้น


ต่อให้หนังลงทุนสูงมากก็ไม่มีอะไรการันตีได้เลยว่สจะประสบความสำเร็จ แต่มีโอกาสมากกว่างหนังงบน้อย เพราะมีทุนในการโปรโมท ทำโปรดักชั่นดี ๆ แต่ไม่การันตีร้อยเปอร์เซ็นต์ บางทีบทดี โปรดักชั่นดี แต่หนังออกมาไม่ดีคนก็ไม่ดู ถ้าโปรดักชั่นดี CG เจ๋งมากมันก็น่าสนใจขึ้น มีเงินทำไรได้ดีอยู่แล้ว
หลังจากที่ “พี่ต้อม” ถามในไลน์ก็มีหลายคนออกอันนี้เป็นสิทธิ์ของเค้า มี “พี่ปื๊ด” ชวนกินเหล้ากับ “พี่ต้อม” นิดหน่อย แต่ส่วนใหญ่นิ่งกับออกจากกลุ่มเยอะ ประมาณ 4-5 คน ไม่เคยออกพร้อมกันเยอะขนาดนี้มาก่อน นอกจากคนเสียชีวิตก็จะเตะออกจากกลุ่ม หรือบางคนทะเลาะขัดแย้งกันในกลุ่ม นาน ๆ ทีมีคนนึง คราวนี้เลยถือว่าเยอะ ถ้าออกกันตอนนี้เดาได้ทางเดียวเลยว่าเป็นเรื่อง “พี่ต้อม”


ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





