ชายแดนไทยกัมพูชา รัฐบาลใหม่”อนุทิน” 4 เดือน เพื่อ 4 ปี
ปัญหาชายแดนไทยกัมพูชา แม้จะหยุดยิงมาเกือบ 2 เดือนแล้ว แต่ยังคงเป็นประเด็นที่ต้องจับตา เพราะปัญหายังไม่จบ และพร้อมที่กลับไปตึงเครียด สู้รบระลอกใหม่อยู่ตลอดเวลา แม้จะมีการเจรจาในระดับ RBC และ GBC มาอย่างต่อเนื่อง
ถึงแม่ในทางปฏิบัติยังไร้วี่แววว่า ความสัมพันธ์ 2 ประเทศ จะกลับไปเหมือนเก่า เห็นได้จากเหตุการณ์ปะทะระหว่างประชาชนและทหารที่ จ.สระแก้ว ซึ่งแม้จะมีการเปลี่ยนรัฐบาล แต่ก็แสดงให้เห็นว่าสถานการณ์ยังคงเปราะบาง ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด และถือเป็นโจทย์สำคัญ
ที่รัฐบาลใหม่ของ “อนุทิน ชาญวีรกุล” ต้องหาทางแก้ไข และต้องทำให้ดี แม้จะมีเวลาทำงานแค่ 4 เดือนก็ตาม
จะบอกว่าปัญหาชายแดนไทยกัมพูชา มีต้นเหตุมาจากเรื่องการเมืองของ 2 ประเทศ เป็นความขัดแย้งระหว่างผู้นำ 2 ตระกูล ก็คงไม่ผิดนัก เพราะรัฐบาลเก่าของ “แพทองธาร ชินวัตร” พลาดท่าเสียทีกัมพูชา เพราะความไว้วางใจ “ฮุนเซน” อดีตผู้นำกัมพูชามากเกินไป จนมีคลิปเสียงออกมา ทำให้รัฐบาลสั่นคลอน ต้องพ้นจากตำแหน่ง ส่วนรัฐบาลใหม่ของ “อนุทิน”และพรรคภูมิใจไทย
ซึ่งได้ตีจากรัฐบาลเดิม เพราะปัญหาคลิปเสียง หรือเพราะถูกบีบยึดกระทรวงมหาดไทย ก็แล้วแต่มุมมองของแต่ละคน เพราะเหตุการณ์มันเกิดขึ้นเร็วมาก จังหวะมันได้พอดีเอาเป็นว่า ประเด็นปัญหาไทยกัมพูชา “พรรคภูมิใจไทย” และ “อนุทิน” ได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชน มากกว่า รัฐบาลเดิมของพรรคเพื่อไทย
สถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชา ในช่วงเดือนที่ผ่านมายังไม่น่าไว้วางใจ ประชาชนในพื้นที่ ต้องการความมั่นคงในชีวิตและทรัพย์สิน รัฐบาลใหม่ต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่น โดยเฉพาะประเด็น เปิด-ไม่เปิด ด่านชายแดน เพราะ”พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์” รักษากา รมช.กลาโหม ซึ่งเป็น ว่าที่ รมว.กลาโหม ในรัฐบาล”อนุทิน” พูดไม่ชัดเจน ทำให้สับสนในเรื่องนี้ แม้ตัว “นายกฯหนู” จะช่วยปฏิเสธ และย้ำชัดในวงหารือสภาอุตสาหกรรม ว่ายังไม่เปิดด่าน จนกว่าเขมรจะยอมทำตามเงื่อนไขทั้งหมด ก็ยังพอสร้างความเชื่อมั่นได้บ้าง
อีก 1 เรื่องที่ต้องจับตา คือการทำหน้าที่ของ “ไชยชนก ชิดชอบ”ในฐานะประธาน กรรมาธิการศึกษายกเลิก MOU43 และ 44 เพราะช่วงสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชา ตึงเครียดมาก ๆ “ภูมิใจไทย” ยังเป็นฝ่ายค้าน มีการเรียกร้องให้ ยกเลิก MOU ทั้ง 2 ฉบับและเป็นตัวตั้งตัวตีในการเสนอญัตติเข้าสภา ดังนั้นเมื่อเกมการเมืองพลิกแล้ว
ภูมิใจไทยกลับมาเป็นรัฐบาล การจะยกเลิก หรือ จะเดินหน้าต่อ MOU 2ฉบับนี้ ก็น่าสนใจไม่น้อย เพราคนในรัฐฐาลเก่า รวมถึงกระทรวงต่างประเทศ ยืนยันว่า ไม่ควรยกเลิก ส่วนผลการศึกษาจะออกมาทิศทางใด ก็น่าติดตามเป็นอย่างมาก เพราะหากฝ่ายบริหาร และนิติบัญญัติไปในทิศทางเดียวกันปัญหาก็น่าจะแก้ไขได้ง่ายขึ้น
ท่าทีของรัฐบาลใหม่ เป็นหัวใจสำคัญ ในการแก้ปัญหาชายแดนไทยกัมพูชาหลังจากนี้ สิ่งที่จะเห็นได้ชัดเจนที่สุด คือการแสดงออกของ “นายกฯหนู” ในเบื้องต้นมีการส่งสัญญาณ พร้อมหารือด้วยสันติวิธี ตามที่ นายกฯ”ฮุน มาเน็ต” ของกัมพูชาทอดสะพานมาให้ แต่การย้ำในหลายๆครั้ง ด้วยท่าทีแข็งกร้าว ไม่ยอมเสียดินแดนเด็ดขาด และรวมถึง เรื่องการไม่ยอมเปิดด่านจนกว่าเขมรจะทำตามเงื่อนไข
ก็พอจะบ่งบอกได้ในระดับหนึ่งว่า รัฐบาลจะเดินหน้าแก้ปัญหานี้อย่างไร ซึ่งหวังว่ารัฐบาลใหม่ของ “อนุทิน” ที่มีเวลา 4 เดือน จะพลิกเกมให้ไทยได้เปรียบ และไม่ทำให้ประชาชนผิดหวัง เพราะหากทำได้ดี ในเรื่องกัมพูชา ช่วง 4 เดือนนี้ หรือแค่ มีมติครม.อะไรที่ชัดเจน เช่นสร้างรั้ว ทำกำแพงถาวรกั้นไทยกัมพูชา ที่กองทัพริเริ่มมาแล้ว หรือยกเลิก MOU 43 และ 44 ก็น่าจะสร้างคะแนนิยมได้เป็นกอบเป็นกำ มีโอกาสกลับมาเพื่ออยู่ต่ออีก 4 ปีได้แน่นอน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





