Home
|
ข่าว

3-4-2-1 กับทางตันของแมนยู ระบบที่นักเตะเริ่มไม่เชื่อมั่น

Featured Image
แผน 3-4-2-1 ของ รูเบน อโมริม กุนซือปีศาจแดง อาจเป็นทางตันของ แมนยู กลายเป็นระบบที่นักเตะหมดความเชื่อมั่น

 

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยู่ในช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยคำถาม หลังจากผลการแข่งขันที่ไม่เป็นไปตามคาด และการปรับแต่งกลยุทธ์หลายจุดยังไม่สามารถแก้ปัญหาหลักได้สำเร็จ ความเชื่อมั่นในห้องแต่งตัวต่อกุนซือ รูเบน อโมริม และระบบการเล่น 3-4-2-1 ของเขา จึงเริ่มสั่นคลอนมากขึ้นเรื่อยๆ

 

จุดเริ่มต้นของบททดสอบ

อโมริมเข้ามาคุมทีม แมนยู เมื่อกลางฤดูกาลก่อน เพื่อพยายามแก้ไขสถานการณ์ที่ย่ำแย่ของ “เทน ฮาก” หนึ่งในจุดที่ถูกจับตาคือการเลือกใช้ ระบบ 3-4-2-1 ซึ่งเขายึดมั่นมาก แม้จะมีเสียงวิจารณ์ถึงความยืดหยุ่นต่ำ และการที่ผู้เล่นบางคนอาจไม่เหมาะกับบทบาทที่ถูกสั่งให้เล่นในระบบนั้น

 

อาการของการหมดศรัทธา

จากข้อมูลสื่ออังกฤษและแหล่งข่าวภายในทีม บอกว่า เเมนยู เสียขวัญหลังแพ้ยับ โดยเฉพาะแมตช์ดาร์บี้ที่แพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-3  เป็นการพ่ายแพ้ที่หนักเอาการ และทำให้เสียงวิจารณ์ดังขึ้นถึงประสิทธิภาพของระบบ และการบริหารจัดการทีมของ อโมริม ซึ่งผู้เล่นรู้สึกไม่สะดวกในบทบาทที่ได้รับ มีการรายงานว่า นักเตะบางคนรู้สึกว่าตำแหน่งที่ถูกวางไว้นั้น ไม่เหมาะกับจุดแข็งของตน โดยเฉพาะกัปตันทีม อย่าง บรูโน่ แฟร์นันเดส ที่ถูกใช้งานในมิดฟิลด์ตัวรับหรือกึ่งกลางลึกมากกว่าตำแหน่งเดิมที่เขาถนัด

เริ่มมีการตั้งคำถามเรื่อง “ปรัชญา” ของเขา  ซึ่ง อโมริม ประกาศชัดว่า “ยอมถูกไล่ออกดีกว่าจะเปลี่ยนปรัชญาการทำงาน” หลังจากแพ้ศึกหนักกับแมนซิตี้ ซึ่งการยืนยันแบบนั้น บ่งชี้ว่าเขาไม่ยอมปรับระบบ แม้จะเจอสถานการณ์ที่ยากลำบาก  แต่อาจเป็นจุดที่ทำให้บางคนในทีมเริ่มตั้งคำถามว่า ความยืดหยุ่นของโค้ชมีน้อยเกินไปหรือไม่

 

ผลงานไม่ถึงเป้าหมาย

เเค่เริ่มต้นฤดูกาลใหม่ก็ทำผลงานได้ย่ำแย่  รวมถึงสถิติที่ไม่ดี เก็บได้เพียง 4 แต้มจาก 4 เกมแรกในพรีเมียร์ลีก และความล้มเหลวในเกมถ้วย คาราบาว คัพ ที่แพ้ให้กับทีมจากลีกรอง ทั้งหมดนี้เพิ่มแรงกดดันต่อ อโมริม ว่า ระบบ 3-4-2-1 ที่ยึดมั่นนั้นอาจไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุดในสถานการณ์ปัจจุบันเพื่อให้เห็นภาพที่ชัดขึ้น นี่คือจุดที่ระบบนี้อาจมีปัญหากับ แมนยู

ความสมดุลของทีม ระบบ 3-4-2-1 ต้องการนักเตะที่ปรับตัวได้สูง ทั้งในด้านการรับและรุก ถ้ากองกลางหรือวิงแบ็กไม่สามารถขึ้นลงได้ดี หรือเสียพื้นที่กลางสนาม จะถูกเล่นงานได้ง่าย

การสร้างเกมรุก ต้องมีผู้เล่นตัวสนับสนุนแนวรุกสองคน ที่มีความคิดสร้างสรรค์ และสามารถเชื่อมเกมได้ การขาดการเปลี่ยนแปลงในแนวรุก อาจทำให้เกมดูจำเจหรือไม่เป็นอันตรายต่อคู่ต่อสู้ และถูกจับทางได้ง่าย

การปรับเปลี่ยนยามเกมเสียเปรียบ ถ้าเกมเป็นรอง อโมริมดูเหมือนจะยึดติดกับระบบของตนเองมากกว่าจะเปลี่ยนแปลง ซึ่งในฟุตบอลสมัยใหม่ ความยืดหยุ่นสำคัญมากในการรับมือคู่แข่งที่หลากหลาย

 

หลายสิ่งที่ แมนยู และอโมริมอาจต้องพิจารณา

เปิดรับการเปลี่ยนแปลงระบบเมื่อสถานการณ์บีบ หรือเมื่อผู้เล่นไม่สามารถแสดงศักยภาพได้เต็มที่ตามบทบาทที่กำหนด อาจต้องปรับบทบาทของผู้เล่นสำคัญ เช่น บรูโน่ ให้เหมาะกับจุดแข็งของเขามากขึ้น ไม่ใช่ดึงไปเล่นในจุดที่เขาไม่รู้สึกมั่นใจ เน้นการสื่อสารภายในห้องแต่งตัว เพื่อรักษาขวัญและกำลังใจของนักเตะ ความเชื่อมั่นภายในเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ผลงานในลีกและถ้วยต่อไป จะเป็นตัวกำหนดว่า อโมริม ยังมีเวลาเหลืออยู่ไหม ถ้าแพ้ต่อเนื่องอีก แล้วผลต่างคะแนนยังแย่ลง อาจจะมีการพิจารณาเปลี่ยนโค้ชหรือแนวทาง

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube