Home
|
ทั่วไป

“เนปาล” หลังการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ อนาคตอยู่ตรงไหน?

Featured Image

 

การประท้วงที่ลุกลามจนกลายเป็นจลาจลใหญ่ วันนี้ เนปาลมีนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรก แต่คำถามคือ หลังจากนี้ ประเทศจะเดินไปทางไหนต่อ?

 

จากสถานการณ์ เมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา หลังรัฐบาลของนายกฯ เค.พี. ชาร์มา โอลี ตัดสินใจบล็อกแพลตฟอร์มออนไลน์ยอดนิยมเกือบทั้งหมด โดยให้เหตุผลเรื่องการควบคุมข่าวปลอม และบัญชีปลอม แต่สำหรับคนรุ่นใหม่ ถือว่า ไม่ใช่แค่เรื่องโลกออนไลน์ แต่เป็นการลิดรอนเสรีภาพขั้นพื้นฐาน

 

การประท้วงจึงปะทุขึ้นทั่วประเทศ จากการชุมนุมสันติกลายเป็นการจลาจล สถานที่ราชการถูกเผา บ้านพักรัฐมนตรีหลายคนถูกโจมตี และการปะทะกับตำรวจนำไปสู่โศกนาฏกรรม มีผู้เสียชีวิตกว่า 50 คน และบาดเจ็บมากกว่า 1,300 คน แรงกดดันมหาศาลทำให้นายกฯ โอลีต้องประกาศลาออก ขณะที่ประธานาธิบดีราม จันทรา พูเดล เข้าหารือกับผู้นำกองทัพและตัวแทนผู้ประท้วง

 

และสุดท้าย ตัดสินใจแต่งตั้ง สุชีลา การ์กี อดีตประธานศาลฎีกา วัย 73 ปี เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีรักษาการ และเธอถือเป็น นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์เนปาล

 

การ์กีได้รับการสนับสนุนจากผู้ประท้วงเพราะชื่อเสียงเรื่องความซื่อสัตย์และการยืนหยัดต่อต้านคอร์รัปชัน หลังการสาบานตน เธอประกาศยุบสภา และเตรียมจัดการเลือกตั้งใหม่ในเดือนมีนาคมปี 2026

 

แล้วหลังจากนี้ เนปาลจะเดินไปทางไหน? ในเบื้องต้น ด้านสังคม รัฐบาลจำเป็นต้องสร้างความเชื่อมั่นคืนให้ประชาชน เริ่มจากการสอบสวนเหตุการณ์ความรุนแรง เปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใส และชดเชยความเสียหายแก่ครอบครัวผู้สูญเสีย รวมถึงเปิดพื้นที่ให้เยาวชนและภาคประชาชน มีส่วนร่วมทางการเมืองมากขึ้น หากทำได้ จะช่วยสมานรอยร้าวและลดโอกาสเกิดความรุนแรงซ้ำ

 

ด้านการเมืองและรัฐบาล ความท้าทายใหญ่ที่สุดคือการปฏิรูปเพื่อต่อต้านคอร์รัปชัน ตั้งคณะกรรมการอิสระ ตรวจสอบงบประมาณ และกำหนดกติกาที่ชัดเจนเรื่องการใช้โซเชียลมีเดีย ให้สมดุลระหว่างความมั่นคงกับสิทธิในการแสดงความคิดเห็น ขณะเดียวกัน รัฐบาลเฉพาะกาลต้องแสดงความเป็นกลาง เพื่อเตรียมการเลือกตั้งที่ยุติธรรมจริง ๆ

 

ด้านเศรษฐกิจ การจลาจลทำให้ธุรกิจและการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบ รัฐบาลต้องเร่งฟื้นฟูความเสียหาย สร้างงานให้กับคนรุ่นใหม่ และดึงดูดการลงทุนอย่างโปร่งใส หากเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวเร็วจะช่วยลดแรงกดดันทางสังคมได้มาก

 

ด้านกฎหมายและความมั่นคง เหตุการณ์ที่ผ่านมาชี้ให้เห็นปัญหาการใช้กำลังเกินขอบเขต จำเป็นต้องปฏิรูประบบตำรวจและการควบคุมฝูงชน เพื่อให้เคารพสิทธิมนุษยชนมากขึ้น พร้อมทั้งสร้างกลไกป้องกันไม่ให้เจ้าหน้าที่ใช้อำนาจเกินขอบเขตอีก

 

ฉะนั้น สำหรับรัฐบาลใหม่ ตอนนี้ไม่ใช่แค่การพาประเทศไปสู่การเลือกตั้ง แต่คือการวางรากฐานใหม่ ให้เนปาลเดินหน้าด้วยความโปร่งใส ยุติธรรม และมั่นคงกว่าที่เคย เพื่อไม่ให้เหิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube