อธิบดีกรมอุทยานฯ สั่งสวนสัตว์จัดทำมาตรการโซนสัตว์ดุร้ายใหม่ทั้งหมด
อธิบดีกรมอุทยานฯ สั่งพักให้บริการสวนสัตว์โซนดุร้ายชั่วคราว พร้อมให้จัดทำมาตรการด้านความปลอดภัยใหม่ทั้งหมด ให้กักตัวสิงโต 5 ตัวทำร้ายเจ้าหน้าที่เพื่อปรับพฤติกรรม
วันนี้ (11 ก.ย.68) นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช แถลงข่าวกรณีเจ้าหน้าที่เสียชีวิตจากการถูกสิงโตทำรายในสวนสัตว์ซาฟารี ว่า ได้สั่งพักการให้บริการซาฟารีโซนสัตว์ดุร้ายชั่วคราว และให้ทางสวนสัตว์จัดทำมาตรการด้านความปลอดภัยใหม่ทั้งหมด เพื่อยกระดับมาตรฐานสูงสุด
นายอรรถพล กล่าวว่า กรมอุทยานฯ แสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมย้ำว่าจะตรวจสอบการครอบครองสิงโต 32 ตัวของสวนสัตว์ว่าถูกต้องตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 หรือไม่ โดยกำหนดให้ส่งแผนมาตรการความปลอดภัยมาภายใน 2 วัน อีกทั้งยังเตรียมเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบสวนสัตว์เปิดอีก 5 แห่งทั่วประเทศ จากเดิมที่ตรวจทุก 1-3 เดือน
สำหรับสถานการณ์สิงโตในไทย ปัจจุบันมีผู้เลี้ยง 85 ราย รวม 620 ตัว ส่วนใหญ่เป็นสวนสัตว์ 75 ราย และผู้เพาะพันธุ์ทั่วไป 10 ราย โดยจังหวัดที่มีการเลี้ยงมากที่สุดคือ ฉะเชิงเทรา จำนวน 119 ตัว ทั้งหมดต้องขึ้นทะเบียนกับกรมอุทยานฯ และต้องผ่านการตรวจสอบสถานที่เลี้ยง รวมถึงการซ้อมมาตรการรักษาความปลอดภัยทุกเดือน
อธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าวต่อว่า สิงโต 5 ตัวที่ก่อเหตุทำร้ายเจ้าหน้าที่ จะถูกกักเพื่อปรับพฤติกรรมและห้ามออกมาในพื้นที่เปิด เพราะถือว่ามีประวัติทำร้ายมนุษย์แล้ว ซึ่งหากปล่อยไว้ อาจเป็นอันตรายต่อนักท่องเที่ยว พร้อมย้ำห้ามสวนสัตว์เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปถ่ายรูปใกล้ชิดกับเสือ สิงโต หรือช้าง เพราะไม่สามารถควบคุมอารมณ์และสัญชาตญาณของสัตว์ได้
นายอรรถพล ยกตัวอย่างว่า เมื่อ 2 เดือนก่อน เคยมีกรณีนักท่องเที่ยวจูงเสือถ่ายรูปแล้วถูกตะปบจนบาดเจ็บ ซึ่งเป็นอุทาหรณ์ว่าห้ามประมาทกับสัตว์ป่าแม้แต่เจ้าหน้าที่เองก็ต้องปฏิบัติงานในระยะปลอดภัย โดยเฉพาะสัตว์ขนาดใหญ่ที่มีอันตรายสูง
ทั้งนี้ เหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ครั้งนี้ ถือเป็นความบกพร่องด้านมาตรการความปลอดภัย สวนสัตว์ต้องจัดทำแผนซ้อมใหม่ทั้งหมด และจะยังไม่อนุญาตให้เปิดโซนสัตว์ดุร้ายจนกว่าจะผ่านการประเมิน ส่วนสวนสัตว์เปิดที่มีโซนสัตว์อันตรายในปัจจุบันมี 5 แห่ง ได้แก่ กรุงเทพฯ 1 แห่ง ชลบุรี 2 แห่ง กาญจนบุรี 1 แห่ง และภูเก็ต 1 แห่ง ซึ่งทั้งหมดต้องเข้มงวดตรวจสอบใหม่เช่นกัน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





