“พริษฐ์” ย้ำ ปชน. ไม่ใช่นั่งร้าน รบ.ใหม่-ทักษิณทำถูกต้องเข้าสู่ยุติธรรม
“พริษฐ์” ย้ำ พรรคประชาชนไม่ใช่นั่งร้านให้รัฐบาลใหม่ จ่อทำหน้าที่ฝ่ายค้านเต็มตัว – เตือน “อนุทิน” ตั้ง ครม.ต้องเลี่ยงคนพัวพันคดี ชี้ “ทักษิณ” เดินหน้าเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม คือ สิ่งที่ถูกต้อง ย้ำ “พท.” ต้องทำงานต่อในฐานะสถาบันการเมือง
นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ยืนยันบทบาทของพรรคประชาชนว่า จะทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเต็มตัว แม้จะเคยโหวตให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเน้นว่าช่วง 4 เดือนก่อนการยุบสภา พรรคประชาชนจะเดินหน้าทำงาน 3 ด้าน คือ ติดตามการรักษาสัญญาของรัฐบาลเสียงข้างน้อย, ตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐไม่ให้ผิดพลาดหรือทุจริต และผลักดันกฎหมายที่ก้าวหน้า
โดยอาศัยเสียงข้างมากของฝ่ายค้านในสภา และเมื่อถูกถามว่า พรรคประชาชนอาจถูกมองเป็น “นั่งร้าน” ให้พรรคภูมิใจไทย หาก ครม.ใหม่บริหารผิดพลาด นายพริษฐ์ตอบชัดว่า พรรคประชาชนไม่ใช่นั่งร้านให้ใคร เพราะแม้จะโหวตนายกฯ แต่ก็จะตรวจสอบรัฐบาลอย่างเข้มงวดผ่านทุกกลไกสภา ตั้งแต่กระทู้ ญัตติ กรรมาธิการ จนถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
สำหรับโผ ครม.ใหม่ นายพริษฐ์กล่าวว่า ไม่ติดใจหากมีคนนอกเข้ามาร่วมทีม แต่สิ่งที่น่ากังวลคือการแต่งตั้งบุคคลที่มีข้อครหาหรือพัวพันคดี โดยเฉพาะตำแหน่งสำคัญอย่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่ไม่ควรถูกเชื่อมโยงกับคดีฮั้วเลือก ส.ว. หรือการฟอกเงิน พร้อมย้ำว่าพรรคประชาชนไม่ต้องการเห็นบุคคลลักษณะนี้กลับมาเป็นรัฐมนตรีซ้ำในทุกยุคสมัย
นายพริษฐ์ ยังกล่าวถึงเสียงวิจารณ์ว่า พรรคประชาชนต้องร่วมรับผิดชอบ หากรัฐบาลอนุทินล้มเหลว ว่า “เข้าใจได้หากถูกตั้งคำถาม” แต่ยืนยันจุดยืนเดิมว่า พรรคประชาชนไม่เคยสนับสนุนบุคคลที่สังคมตั้งข้อครหาเข้าสู่ตำแหน่ง พร้อมย้ำว่า ข้อตกลงระหว่างพรรคประชาชนกับพรรคภูมิใจไทยมีเพียงสิ่งที่เปิดเผยต่อสาธารณะเท่านั้น ไม่มีดีลลับใด ๆ ดังนั้น สิ่งสำคัญที่สุด คือ การรักษาสัญญาทางการเมือง โดยเฉพาะการเดินหน้าจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง
ขณะเดียวกัน นายพริษฐ์ ยังแสดงความเห็นต่อกรณีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาว่า การที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พักรักษาตัวในโรงพยาบาลตำรวจ ไม่สามารถนับรวมเป็นระยะเวลาพักโทษได้ ส่งผลให้ต้องกลับไปรับโทษจำคุกอีก 1 ปี ตามพระบรมราชโองการลดโทษ ว่า เรื่องนี้ย่อมกระทบต่อการเมือง แต่สิ่งสำคัญคือต้องยึดหลักนิติธรรมและมาตรฐานเดียวกัน
นายพริษฐ์ กล่าวว่า หากย้อนกลับไป ต้องยอมรับว่านายทักษิณเป็นหนึ่งในเหยื่อของการรัฐประหาร และคดีที่เกิดขึ้นก็ทำให้นายทักษิณต้องออกนอกประเทศกว่า 20 ปี หลายคนตั้งข้อสงสัยว่ามีแรงจูงใจทางการเมืองอยู่เบื้องหลังหรือไม่ แต่สิ่งที่พรรคประชาชนย้ำมาโดยตลอดคือ การที่นายทักษิณตัดสินใจกลับประเทศและเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเมื่อ 2 ปีก่อน ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะทำให้ทุกอย่างเป็นไปตามกติกา
พร้อมยังระบุว่า ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา การรับโทษของนายทักษิณมีหลายประเด็นที่ไม่สอดคล้องกับกฎระเบียบปกติ และทำให้สังคมตั้งคำถามต่อมาตรฐานของกระบวนการยุติธรรม ดังนั้น การที่ศาลมีคำวินิจฉัยครั้งนี้ หากสามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นไปตามกฎหมาย ปราศจากแรงจูงใจทางการเมือง จะช่วยรื้อฟื้นความเชื่อมั่นของประชาชนได้
เมื่อถูกถามถึงข้อกังวลว่าข้าราชการอาจกลายเป็น “แพะรับบาป” แทนนายทักษิณ นายพริษฐ์ระบุว่า นั่นคือสิ่งที่ต้องตรวจสอบต่อไปว่าใครใช้อำนาจโดยมิชอบหรือไม่
สำหรับผลกระทบทางการเมือง นายพริษฐ์ย้ำว่า ตนหวังอย่างยิ่งว่าศาลจะพิจารณาบนฐานกฎหมาย ไม่ปล่อยให้แรงจูงใจทางการเมืองเข้ามาแทรกแซง และไม่ว่ากระบวนการรับโทษของนายทักษิณจะลงเอยอย่างไร พรรคเพื่อไทยควรเดินหน้าทำงานต่อไปในฐานะสถาบันทางการเมืองที่ไม่ผูกติดกับตัวบุคคล เพราะท้ายที่สุดแล้ว การแข่งขันของทุกพรรคในการทำงานเพื่อประชาชนคือหัวใจสำคัญของประชาธิปไตย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





