“หมิว สิริลภัส” ร่ายยาวชี้แจงโดนพาดพิงบลูลี่งานแต่งเพื่อน
นักแสดงสาว “หมิว สิริลภัส” ร่ายยาวชี้แจงโดนพาดพิงบลูลี่งานแต่งเพื่อน ลั่นสิ่งไหนที่ทำผิด ขอโทษจากใจ
เรียกว่ามีดราม่าไม่พักเลยสำหรับ นักแดงสาว “หมิว สิริลภัส” ที่ก่อนหน้านี้ถูกพิธีกรชื่อดัง “แขก คำผกา” บูลลี่เรื่องที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าจนต้องออกมาฟาดกลับ
ล่าสุดมีเรื่องอีกแล้ว เมื่อทางด้าน “เพจดัง” ออกมาแฉพฤติกรรมเจ้าตัวว่า บูลลี่คนเก่งมาก งานนี้ทำเอาชาวเน็ตเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์สนั่นเต็มออนไลน์

จึงทำให้สาว “หมิว” ต้องรีบออกมาชี้แจง โดยการแคปหลักฐาน พร้อมชี้แจงไทม์ไลน์ระเอียดว่า “ ขอสรุป timeline เกี่ยวกับเหตุการณ์งานแต่งงานของอดีตเพื่อนหมิวนะ จะแนบแชททั้งหมด เพื่อให้เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง
ประเด็นแต่งงาน
⁃ วันที่ 15 พฤษภาคม 2568 : คนนี้ได้มาแจ้งในกลุ่มว่าถ้าเขาแต่งงาน พวกหมิวจะไปกันไหม
⁃ แน่นอนเพื่อนๆดีใจ และเซอร์ไพรส์มากเพราะตลอดเวลาที่คบกันมา ตั้งแต่ปี 1 คนคนนี้ไม่เคยบอกเพื่อนว่าตัวเองมีแฟน ซึ่งนั่นเป็นเรื่องส่วนตัว เราไม่ก้าวล่วงกันอยู่แล้ว แต่ก็มีการมาปรึกษากันตลอด หลังเรียนจบเวลานัดเจอ คุยกัน ก็จะมีประเด็นนี้ขึ้นมาเสมอ
⁃ ทุกคนเตรียมล็อควัน ลงปฏิทิน ถามก่อนเลยว่ามีอะไรให้ช่วยไหม จะได้ไปเตรียมตัวเผื่อมีอะไรให้ช่วย
⁃ คนนี้บอกว่าไม่ต้องเพราะเป็นฝ่ายเจ้าบ่าวที่รับผิดชอบงาน ถ้าอ่านจากแชท น่าจะเห็นได้ว่า ทุกคนดีใจ และ ตื่นเต้นมากๆ ในฐานะเพื่อนที่คบกันมา 20 ปี ผ่านอะไรมาด้วยกันก็เยอะ
⁃ ความตั้งใจของคนคนนี้คือ แต่ง 11 ส.ค. แต่จะบอกเพื่อนวันที่ 10 ส.ค. แต่โดนเพื่อนอีกคนบอกก่อนว่าไม่ควร
⁃ ถ้าหากว่าดูวันที่ จะเห็นได้เลยว่า เพื่อนที่ไป พยายามถามความคืบหน้าเองตลอด ว่าจองห้องหรือยัง ไปกันยังไง ไปกันวันไหน
⁃ เพื่อนคนนึงถามว่า มีผู้หลักผู้ใหญ่มาไหม เพราะคนนี้ก็เป็นคนมีหน้ามีตาในจังหวัด คนนี้บอกว่างานเล็กๆ มี สส สท กำนัน
⁃ หมิวก็คิดแล้วว่าต้องแต่งตัวยังไง งานสเกลขนาดไหน ถ้าแต่งเยอะไปจะโดนด่ามั้ยว่าแต่งตัวเว่อร์เกินงาน เพราะหมิวให้ความสำคัญกับงานแต่งงานที่หมิวไปทุกงาน ว่าธีมสีอะไร มีอาฟเตอร์ไหม เพราะจะได้เอาชุดไปเปลี่ยน ชุดที่ใส่ออกงานจะได้ไม่ต้องเลอะเทอะ การแต่งตัวไปงานคือการให้เกียรติเจ้าของงาน หมิวเตรียมเดรสสั้นสีส้มอิฐไป และ เตรียมเบลเซอร์กับยีนส์ไปอีก 1 เพราะเผื่อไปดูหน้างานก่อนว่าควรแต่งแบบไหน
⁃ วันที่ 6 สิงหาคม เพื่อนทักถาม เพราะไม่รู้กำหนดการของงานเลย สิ่งที่ได้รับคำตอบกลับมาคือ “พิธีพระ 7.30 มากินก็ 10 โมงมั้ง”
⁃ มั้ง ? คือสรุปว่าจะยังไง ให้ไป 7.30 หรือจะให้ไป 10.00 วันที่กินข้าวที่ตั๊กบ้านโตน ก็เลยต้องถามกันให้เคลียร์ว่าต้องยังไง มีอะไรในงานให้ช่วยมั้ย
⁃ ที่ต้องถามเพราะเพื่อความชัดเจน เพื่อนหมิวแต่งงานครั้งเดียว เราก็อยากให้เพื่อนมีวันที่ดี หน้างานก็ไม่อยากให้มาเจอปัญหาอะไร อันนี้ก็ยอมรับผิดค่ะที่คิดแทนมากไปหน่อย เพราะไปงานแต่งเพื่อนบางคนที่มีการจัดการหน้างานไม่ดี เพื่อนที่เป็นเจ้าสาวก็เครียด ทั้งๆที่เป็นวันที่เขาควรจะมีความสุขที่สุด
⁃ เข้าใจว่าเพื่อนไม่ได้จัดงานเอง เพราะก็มีการบอกกันในกลุ่ม ว่าไม่ได้อยากแต่ง ไปเห็นงานแล้วอย่าขำ เพราะตัวเองขำนำไปก่อนแล้ว ในวงกินข้าวก็คุยกันสนุกสนาน ไม่ได้มีบรรยากาศตึงอะไรเลย
ประเด็นที่บอกว่าหมิว bully เจ้าบ่าว จะมาเล่าให้ฟังว่า ก่อนหน้านั้นบทสนทนามันเป็นยังไง
⁃ วันที่นั่งกินข้าว เราก็ถามว่าไหนเล่าหน่อยว่ามันยังไง ไปเจอกับเจ้าบ่าวได้ยังไง ประทับใจอะไรในตัวเขา บลาๆ คนนี้ก็บอกว่า เขาทำให้หมดทุกอย่าง งานบ้าน อะไรก็ทำให้ หมิวก็บอกว่า มึงต้องทำบ้าง ไม่งั้นมึงไม่คิดอะไรไม่ใช้สมอง มึงสมองตายนะ กล้ามเนื้อตายนะ คือเป็นการพูดกันแบบที่พูดกันมาตั้งแต่คบกันตั้งแต่มหาลัย หมิวคิดน้อยไปหน่อยว่าสุดท้ายเวลากลับมาเจอกันเมื่อไหร่เราก็ยังคุยกันได้แบบภาษาเดิม อันนี้หมิวผิดเองค่ะ
⁃ มีรุ่นพี่ที่มหาลัย ก็บอกว่า คนนี้ไปขอคู่ที่ต่างประเทศ มีการยื่นเรฟว่า อยากได้แฟนแบบสูง 180 หน้าให้เหมือนพระเอกดังท่านหนึ่ง
⁃ หมิวก็บอกว่าขอดูรูปได้มั้ยเพราะยังไม่เคยเห็นหน้าเลย คนคนนี้ยังเป็นคนพูดเองว่า เออ มึงดูไว้ก่อนเลย วันพรุ่งนี้ไปเจอตัวจริงมึงจะได้ไม่ขำ
⁃ พอเปิดรูปมาดู หมิวเลยแซวไปว่า ของที่มึงไหว้ไม่ครบรึป่าว ไม่เป็นไร เพื่อนกูเป็นเศรษฐินีอยู่แล้ว พาผัวไปทุบหน้าได้ (ซึ่งเป็นภาษาที่ใช้เรื่องกูมึงเป็นปกติอยู่แล้ว คนคนนั้นยังบอกเองว่ากูบอกแล้วผัวกูไม่ไป
⁃ หมิวเลยบอกไปว่า ไม่เป็นไรครั้งหน้าไปไหว้ใหม่แล้วไหว้ของให้ครบเผื่อมึงจะโน้มน้าวได้ ทุกคนก็หัวเราะ คนนั้นก็หัวเราะ หลังจากนั้นไม่มีการทักมาบอกว่าไม่โอเคกับสิ่งที่หมิวพูด หมิวจึงไม่รู้ว่าเขาโกรธ พอรู้ว่าเขาไม่โอเค ก็ขอโทษในแชทไปเพราะรู้สึกไม่ดีจริงๆ
⁃ ในวันที่เห็นการ์ด คือวันก่อนแต่ง เพื่อนทักไปหา ไปขอกำหนดการ สิ่งที่ได้มาคือ กระดาษเขียนมือ และตัวหมิวเอง ไม่ได้อะไรเลย การ์ดไม่มี กำหนดการไม่มี
วันงานแต่ง
⁃ หมิวเจอพี่ชาดาจริง หมิวกับพี่ชาดาไม่เคยมีปัญหาอะไรต่อกัน แกเอ็นดูหมิวเป็นน้องคนนึง เจอที่สภาก็ทักทายกันดี มาเจอที่งานแกยัง งง เลยว่ามาได้ยังไง หมิวก็บอกแกไปว่า หมิวเป็นเพื่อนฝั่งเจ้าสาวค่ะ ฝากดูแลด้วยนะพี่ แกยังบอกเลยว่า ไม่ต้องห่วงนี่บ้านติดกัน ยังคุยเล่นกันปกติ
⁃ ตอนที่พี่ชาดาขึ้นพูด หมิวเดินออกไปที่รถ ก่อนพี่ชาดาขึ้นพูด เพราะหมิวไม่ได้รู้ว่ากำหนดการยังไง และที่เดินออกไปไม่ใช่ว่าหนี แต่ไม่รู้จริงๆ ตอนกลับมาเพื่อนในโต๊ะยังบอกอยู่เลยว่า มึงไปไหนมา พี่ชาดาเขาพูดถึงมึง หมิวยังบอกเลยว่า อ่าวกูไม่รู้ว่าเขาขึ้นพูดตอนที่กูออกไป
⁃ วันงานที่ไปคือ พิธีสงฆ์ตักบาตรพระ รดน้ำ แห่ขันหมาก รับไหว้ หลังจากนั้นก็ไม่รู้
⁃ หลังจากนั้นพี่ชาดายังชวนไปกินก๋วยเตี๋ยวที่บ้านแกอยู่เลย แต่หมิวต้องรีบกลับก่อน เจอกันที่สภาแกยังแซวเลยว่า วันนั้นอุตส่าห์ทำก๋วยเตี๋ยวรอ หมิวก็ยังขอโทษและแซวกันอยู่เลย
หลังงานแต่ง สิ่งที่คุยกันในกลุ่มไลน์
⁃ เพื่อนในกลุ่มรู้สึกไม่พอใจ มีการพิมพ์กันในกลุ่มว่ารู้สึกยังไง กับการที่อย่างน้อยตัวเองไม่ได้จัดงาน เราไม่ได้ว่าอะไร แต่สิ่งที่ควรรับผิดชอบคือการดูแลแขกในฝั่งตัวเอง
⁃ หมิวก็พิมพ์ไปเสริมว่า ไม่ว่าจะยังไง คุณอย่าชุ่ยในการดูแลในแขกฝั่งคุณ เราไม่ได้ต้องการให้คุณมาอยู่กับเราหรือมาแทคแคร์ดูแล แค่ก่อนหน้านั้น กับวันงาน ให้ความชัดเจนพอว่า มากี่โมง ต้องทำอะไร แค่ธีมในงานเพิ่งจะมาบอกก่อนวันแต่ง เพื่อนๆมากันหมดแล้ว ใครจะเตรียมตัวอะไรทัน
⁃ หลังจากนั้นก็ตามรูป ว่าเพื่อนทุกคนรู้สึกยังไง
⁃ ในส่วนนี้ก็อยากให้ทุกคนพิจารณากันเอาเองว่า สิ่งที่เพื่อนในกลุ่มทุกคนได้พูดไป คนคนนั้นเขาตอบกลับอะไรมาบ้าง หรือ รู้สึกอะไรหรือไม่ เพราะเพื่อนในกลุ่มคือ 1 คนที่พูดตรงๆมีอะไรไม่โอเคก็บอกเลย จะได้เคลียร์ให้จบ 2 คนที่เอา fact มาพูดให้ฟัง เผื่อจะได้เข้าใจอะไรมากขึ้น 3 คนที่ไม่เคยว่าอะไรเลย ชิวๆ เอาไงเอากัน แต่ถึงกับออกมาพูดว่า ตอนไปงานกูเคว้ง ไม่รู้จะทำตัวยังไง
คิดว่าเคลียร์กันแล้วจบ
⁃ เมื่อมีเพื่อนคนนึง ออกจากกลุ่มไป หมิวเองยังบอกว่า เออรอให้ทุกอย่างมันเบาลง แล้วค่อยนัดใหม่ คนคนนี้ก็ยังบอกเองว่า เคลียร์แล้ว
⁃ แต่เมื่อวาน พอมีข่าวเรื่องหมิวโดนด่าว่าเป็นซึมเศร้า อยู่ก็มีใครไม่รู้ไปให้ข้อมูลกับเพจนึง โดยเล่าได้แบบละเอียดเหมือนอยู่ในเหตุการณ์
⁃ หมิวส่งไปในกลุ่ม เพราะหมิวเสียใจมาก ไม่คิดว่าเพื่อนที่คบกันมาจะมาทำอะไรแบบนี้ ตอนแรกก็ยังเชื่อว่าเป็นคนอื่นด้วยซ้ำ
⁃ หลังจากนั้นก็ตามภาพค่ะ เขาบอกว่าไม่ใช่เขา แต่แชทที่ออกมา จะเหลือจากใครได้ หลังจากนี้เหตุผลหรืออะไรที่ออกจากปากคนนี้ มันหมดความน่าเชื่อถือสำหรับหมิวไปแล้ว
⁃ วันนี้ที่หมิวเปิดแชททั้งหมดเพราะอยากให้ทุกคนได้รับข้อมูลที่ครบถ้วน ไม่ใช่จากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
⁃ สิ่งไหนที่หมิวทำไปแล้วผิด หมิวขอโทษจากใจค่ะ
⁃ แต่สิ่งไหนที่หมิวจะต้องปกป้องตัวเอง หมิวก็ต้องทำ
ปล. แชทนี้ได้รับความยินยอมจากเพื่อนอีก 2 คน แล้ว
ปล.2 การตัดใครซักคนออกจากชีวิตเป็นเรื่องที่เสียใจนะคะ แต่คนที่พร้อมจะแทงข้างหลังคนที่เรียกว่าเพื่อนแบบนี้หมิวไม่เสียใจ
ใครรู้จักหมิวคงรู้ว่ากับเพื่อนหมิวให้ใจขนาดไหน พอมาเจอแบบนี้ก็ไปไม่เป็นเหมือนกัน
ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ
แชทที่นำมาโพสต์เพื่อเป็นหลักฐานในการให้ข้อมูลที่รอบด้าน ไม่ได้มีเจตนาพาดพิงหรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





