นพรุจ แจ้ง 112 ภูมิธรรม ด้าน สุรทิน-ไทกร ถอนแจ้งความ

 

นพรุจ วรชิตวุฒิกุล อดีตแกนนำกลุ่มพิราบขาว ในความผิดฐาน “หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ” ตามมาตรา 112

 

วันนี้ นายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล อดีตแกนนำกลุ่มพิราบขาว และอดีตผู้สมัคร ส.ส. พรรคเพื่อไทย เดินทางเข้าศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อยื่นดำเนินคดีกับ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในความผิดฐาน “หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ” ตามมาตรา 112

 

ประเด็นใหญ่เกิดขึ้นจากการที่นายภูมิธรรมพยายามนำร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาขึ้นทูลเกล้าฯ แม้ในทางข้อกฎหมาย เขาไม่มีอำนาจ หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา

 

นายนพรุจให้เหตุผลชัดว่า เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้นางสาวแพทองธารพ้นตำแหน่ง อำนาจยุบสภาก็หมดไปพร้อมกับตำแหน่งนั้น” ดังนั้น นายภูมิธรรมที่ขึ้นมารักษาการ จึงควรทำหน้าที่เพียงดูแลต่อเนื่องจนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่ แต่ไม่สามารถใช้อำนาจยุบสภาได้

 

เขามองว่าการพยายามนำพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวขึ้นทูลเกล้าฯ คือการ นำความมิบังควรขึ้นทูลเกล้าฯ และอาจก่อให้เกิดความระคายเคือง เบื้องยุคลบาท ขณะเดียวกันยังเป็นพฤติกรรมที่สะท้อนถึงความพยายามผลักดันผลประโยชน์ทางการเมืองของพรรคตนเอง

 

ก่อนหน้านี้ไม่เพียงแต่นายนพรุจ แต่ยังมี นายสุรทิน พิจารณ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยใหม่ และ นายไทกร พลสุวรรณ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ที่ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายภูมิธรรมในข้อหาเดียวกัน โดยให้เหตุผลว่าเป็นการผลักดัน ให้สถาบันสูงสุดต้องเข้ามาอยู่ในสมรภูมิการแย่งชิงอำนาจทางการเมือง การแจ้งความซ้ำเติมกันหลายระลอกในประเด็นเดียวกัน ยิ่งทำให้บรรยากาศทางการเมืองร้อนแรง และทำให้สังคมตั้งคำถามว่าประเทศกำลังจะมุ่งไปสู่ความขัดแย้งรอบใหม่หรือไม่

 

แต่ในคืนวันที่ 3 กันยายน เวลาเกือบสามทุ่ม นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ออกหนังสือ เรียกประชุมด่วน เพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันถัดมา เหตุการณ์นี้เสมือนเป็น “ไฟเขียว” ที่ทำให้ฝ่ายต่าง ๆ มองเห็นทางออก

 

ต่อมา เวลา 11.00 น. ของวันที่ ก.ย ทั้งนายไทกร และนายสุรทิน เดินทางกลับมาพบพนักงานสอบสวนอีกครั้ง แต่คราวนี้เพื่อ ถอนแจ้งความ โดยย้ำว่า เมื่อกระบวนการเลือกนายกรัฐมนตรีเดินหน้าได้แล้ว

 

ก็ไม่จำเป็นต้องยื้อให้ประเทศเข้าสู่ความเสี่ยงของการยุบสภา และไม่ควรซ้ำเติมความผิดพลาดที่เกิดขึ้น

 

นายไทกร พลสุวรรณ กล่าวว่า ยอมรับว่าสาเหตุที่เมื่อวานแจ้งความนายภูมิธรรม เพราะเห็นว่ากระบวนการที่นายภูมิธรรมกำลังทำอยู่ คือการผลักดันให้พระมหากษัตริย์ทรงเข้าไปอยู่ระหว่างศึกแย่งชิงอำนาจทางการเมือง

 

ส่วนนายสุรทิน บอกว่าที่ตัดสินใจถอนแจ้งความ เพราะมองว่าบ้านเมืองเดินหน้าไปแล้ว ทุกอย่างยุติแล้ว และกำลังจะมีการโหวตนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ดังนั้นจึงถอนแจ้งความเพื่อให้เพื่อนๆ ทุกฝ่ายทุกวงการ เกิดความสบายใจ ยืนยันไม่มีใครกดดันให้ออกมาถอนแจ้งความ

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews