“ข้อตกลงร่วม” ระหว่างพรรคประชาชนและพรรคภูมิใจไทย
เปิดเงื่อนไข 5 ข้อที่พรรคประชาชนคุยกับพรรคภูมิใจไทย
เมื่อวันที่ 3 ก.ย. 2568 พรรคประชาชน เผยแพร่ ข้อตกลงร่วมระหว่างพรรคประชาชน กับพรรคภูมิใจไทย กรณีการเลือกบุคคลไปดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งลงนามโดยนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน และนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เริ่มจากข้อแรก
1. นายกรัฐมนตรีคนใหม่ต้องยุบสภาผู้แทนราษฎรภายใน 4 เดือน นับตั้งแต่วันที่ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา เพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป
2. ในกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ในการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จำเป็นต้องมีการออกเสียงประชามติ ก่อนที่รัฐสภาจะดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 256 คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ต้องจัดให้มีการออกเสียงประชามติ ในประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 เพื่อนำไปสู่การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้งโดยเร็ว ทั้งนี้ต้องไม่เกินกว่าวันลงคะแนนเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป
3. ในกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ในการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ไม่จำเป็น ต้องมีการออกเสียงประชามติ ก่อนที่รัฐสภาดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ตามมาตรา 256 นั้น คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ พรรคประชาชน และพรรคภูมิใจไทยจะเร่งผลักดัน ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม เพื่อกำหนดให้มีกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยสภาร่าง รัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้ง ให้แล้วเสร็จในวาระของสภาผู้แทนราษฎรชุดนี้
4. เพื่อสร้างหลักประกันว่านายกรัฐมนตรีคนใหม่จะยุบสภาผู้แทนราษฎรภายใน 4 เดือนจริง พรรคภูมิใจไทยต้องไม่ดำเนินการโดยวิธีการใด ๆ เพื่อทำให้เป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก
5. พรรคประชาชนยืนยันเป็นฝ่ายค้านต่อไป โดยจะทำหน้าที่ตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดิน ของรัฐบาลชุดใหม่อย่างเต็มที่ และจะไม่มีบุคคลใดจากพรรคประชาชนไปดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี
ซึ่งในเรื่องมี มีประชาชน ออกมาให้ความให้แตกต่างกันมากมาย อาทิ “สนับสนุนพรรคประชาชนค่ะ เข้าใจและสนับสนุนเหมือนเดิม จะยุบสภาเลือกตั้งใหม่ก็เลือกพรรคประชาชนค่ะ”
“ใน 4 เดือนก่อนที่คิดจะยุบสภา มีพรรคไหนที่คิดจะแก้ไขปัญหาที่มันกำลังวิกฤต ณ ขณะนี้ ของคนในชาติบ้างมั้ย ทั้งเรื่องชายแดนไทยกัมพูชาและเรื่องเศรษฐกิจ ตอนนี้มองไปแต่ล่ะพรรคการเมือง มีแต่หาผลประโยชน์ให้ตัวเองทั้งสิ้น ในสมการนี้การแก้ปัญหาของประชาชนอยู่ตรงไหน โคตรเบื่อการเมืองของไทยเลย” เป็นต้น
ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นว่า แม้ข้อตกลงทางการเมืองจะถูกกำหนดขึ้นเพื่อหาทางออก แต่เสียงของประชาชนที่แตกต่างกันยังคงเป็นปัจจัยสำคัญ ทิศทางอนาคตการเมืองไทยจะเป็นอย่างไร
ก็ต้องติดตามกันต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





