Home
|
ข่าว

เดจาวู “บิ๊กเต่า” จะ(ไม่)ซ้ำรอย “บิ๊กโจ๊ก”

“บิ๊กเต่า” ลุกทวงความเป็นธรรมโยกย้ายตำรวจ เดจาวู “บิ๊กโจ๊ก” สะท้อนปัญหาโปร่งใสสีกากีไม่จบสิ้น

 

แวดวงสีกากีเวลานี้จับตามองไปที่ชื่อของ “บิ๊กเต่า” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว นายตำรวจมากฝีมือ ที่มีผลงานการจับกุมคดีสำคัญเป็นประจักษ์ และขณะนี้เขาออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องความเป็นธรรม ต่อการแต่งตั้งโยกย้ายตำแหน่ง ภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เสียงสะท้อนจากเจ้าตัวชี้ว่า ตนเองไม่ได้รับการพิจารณาตามผลงานที่แท้จริง และการขยับตัวครั้งนี้ ไม่ได้ต่างไปจากสิ่งที่เคยเกิดขึ้นกับ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล เมื่อหลายปีก่อน จนกลายเป็นมหากาพย์ “วิ่งเต้น – วัดบารมี – โยกเก้าอี้” ที่เป็นเหมือนรอยแผลฝังลึกในวงการตำรวจไทย

 

บิ๊กโจ๊ก กับ บทเรียนที่ไม่เคยจาง ย้อนไปในอดีต ชื่อของ บิ๊กโจ๊ก คือสัญลักษณ์แห่ง “นายตำรวจดาวรุ่ง” ที่ไต่เต้ามาจากการทำงานเชิงรุก ไล่ล่าขบวนการอาชญากรรมไซเบอร์ และต่างด้าวผิดกฎหมาย จนได้ใจสังคม แต่เมื่อกระแสบารมีพุ่งแรง ก็ย่อมท้าทายเครือข่ายอำนาจเก่า

 

การวิ่งเต้นเพื่อเลื่อนตำแหน่งของ บิ๊กโจ๊ก ในเวลานั้น จึงถูกตีความทั้งในเชิง “ฝีมือถึงเวลาแล้ว” และ “แรงส่งจากขั้วการเมือง” ความขัดแย้งทำให้เส้นทางจาก “ว่าที่ ผบ.ตร.” ต้องสะดุด ถูกเด้ง ถูกตรวจสอบ ถูกฟ้องร้อง แต่ในอีกด้านหนึ่งก็ทำให้ บิ๊กโจ๊ก กลายเป็น “นักต่อสู้เรียกร้องความเป็นธรรม” คนสำคัญที่ยังยืนอยู่ในพื้นที่การเมืองและสังคมไทยจนถึงทุกวันนี้

 

บิ๊กเต่า ก้าวย่างในรอยเงา สถานการณ์ของ บิ๊กเต่า พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว จึงถูกหยิบมา เปรียบเทียบอย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะการออกมาเปิดหน้าเรียกร้องต่อระบบแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ สะท้อนความไม่พอใจในโครงสร้างการพิจารณา ที่หลายครั้งไม่ได้ยึดโยงกับผลงานภาคสนามจริง แต่กลับผูกพันกับเครือข่าย การวิ่งเต้น หรือแรงหนุนจากผู้มีอำนาจ

 

สิ่งที่คล้ายกับ บิ๊กโจ๊ก คือ การลุกขึ้นสู้ด้วยการเปิดเผย ไม่เก็บงำปัญหาไว้ในวงการ แต่เลือกส่งเสียง ให้สังคมรับรู้ ยอมเสี่ยงต่อแรงกระแทกจากองค์กร แต่ก็หวังสร้างแรงกดดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลง

 

อย่างไรก็ตาม ความต่างที่เห็นชัดคือ บิ๊กเต่าไม่ได้มีภาพลักษณ์เป็นขวัญใจประชาชน แบบที่บิ๊กโจ๊ก เคยมี การเดินเกมจึงไม่อาศัยแรงหนุนจากมวลชนเท่าเดิม แต่เน้นไปที่ การชี้ให้เห็นปัญหาเชิงระบบ ของวงการตำรวจมากกว่า

 

เมื่อเปรียบเทียบความเหมือน และ ความต่าง ของสถานการณ์ของ บิ๊กเต่า กับ บิ๊กโจ๊ก ในมุมของความเหมือนกัน คือทั้งคู่ต่างเชื่อว่าตนเองถูก “กลั่นแกล้ง – กีดกัน” ในการแต่งตั้ง / การเลือกเดินหน้า “เปิดเผย” เรื่องราว แทนที่จะยอมเงียบหาย / จุดชนวนให้สังคมตั้งคำถามถึงความ โปร่งใสของการโยกย้ายตำรวจ

 

ในส่วนของความแตกต่าง บิ๊กโจ๊ก มีภาพจำเป็น “ตำรวจมือปราบ – ฮีโร่ของประชาชน” จึงได้แรงหนุนจาก สังคมวงกว้าง ขณะที่ บิ๊กเต่า ยังถูกมองว่าเป็น “ข้าราชการในระบบ” ที่เพิ่งเริ่มส่งเสียง / เรื่องของบิ๊กโจ๊ก พัวพันกับการเมืองระดับชาติและเกมอำนาจใหญ่ ส่วนบิ๊กเต่าอาจยังจำกัดอยู่ในระดับโครงสร้างภาย ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และบิ๊กโจ๊ก มีคดีความถูกให้ออกจากราชการ ถูกฟ้อง และต้องหา ช่องทางใหม่ในสนามการเมือง ขณะที่บิ๊กเต่า ยังอยู่ในเส้นทาง “ต่อรองภายใน” และยังไม่ชัดเจน
ว่าจะถูกผลักออกนอกวงโคจรไปในอนาคตหรือไม่

 

ซึ่งหลายคนมองว่า นี่คือ เดจาวู…หรือบทใหม่ เพราะปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกับบิ๊กเต่า จึงไม่ต่างจาก “เดจาวู” ของวงการตำรวจไทย ที่ปัญหาการแต่งตั้งโยกย้ายยังคงหมุนซ้ำไม่รู้จบ คำถามสำคัญคือ บิ๊กเต่า จะซ้ำรอย บิ๊กโจ๊ก หรือไม่? แต่ เรื่องนี้ คำตอบอาจขึ้นอยู่กับว่า เขาจะเลือกยืนหยัดต่อสู้แบบเปิดหน้า จนกลายเป็นสัญลักษณ์ใหม่ของการเรียกร้องความเป็นธรรม หรือจะค่อยๆ จางหายไปในระบบที่ใหญ่และแข็งแรงเกินกว่าจะท้าทาย

 

แต่ที่แน่ๆ เรื่องนี้ตอกย้ำว่า “ความไม่โปร่งใส” ของการแต่งตั้งตำรวจ ยังคงเป็นปัญหาที่ไม่เคยหายไปและยังคงรอวันถูกคลี่คลายอย่างจริงจัง

 

 


 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube