ไทยปิดดีลลงนามซื้อ “กริพเพน”ฝูงใหม่แล้ว-เสริมเขี้ยวเล็บ
ไทยปิดดีลซื้อ “กริพเพน” E/F ระยะที่ 1 จำนวน 4 ลำ วงเงิน 19,500 ล้าน ทดแทน F-16 ที่ประจำการกว่า 37 ปี พร้อม Offset Policy “มาริษ” ชี้ เสริมเขี้ยวเล็บ-ต่อยอดอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ
ที่กรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามจัดซื้อเครื่องบินขับไล่โจมตีกริพเพน E/F ระยะที่ 1 จำนวน 4 ลำ มูลค่า 19,500 ล้านบาท โดยมี พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) เป็นผู้ลงนามฝ่ายไทย ขณะที่ฝ่ายสวีเดนมี นาย Mikael Granholm ผู้อำนวยการใหญ่สำนักงานยุทโธปกรณ์สวีเดน (FMV) ลงนาม พร้อมมี Dr. Pal Jonson รมว.กลาโหมสวีเดน ร่วมเป็นสักขีพยาน
นอกจากนี้ ยังมีการลงนามอีก 2 ฉบับ ได้แก่ 1.ความตกลงการมอบอำนาจดำเนินการของรัฐบาลสวีเดนแก่หน่วยงานและบริษัท Saab AB และ 2.ความตกลงนโยบายชดเชยการนำเข้ายุทโธปกรณ์ (Offset policy) ระหว่างกองทัพอากาศไทยกับ Saab AB
โดยการจัดซื้อครั้งนี้เป็นระยะที่ 1 ของโครงการทั้งหมด 12 ลำ (1 ฝูงบิน) เพื่อทดแทนเครื่องบินขับไล่ F-16 ที่ประจำการมากว่า 37 ปี โดยสวีเดนจะทยอยส่งมอบให้ไทยตั้งแต่ปี 2572 ปีละ 2 ลำ จนครบทั้งฝูงบิน
จากนั้น นายมาริษ เปิดเผยภายหลังร่วมเป็นสักขีพยานพิธีลงนามจัดซื้อเครื่องบินขับไล่ “กริพเพน E/F” (Grippen E/F) พร้อมข้อตกลงนโยบายชดเชยทางเศรษฐกิจ (Offset Policy) โดยย้ำว่า ข้อตกลงนี้ ไม่เพียงเสริมศักยภาพ “เขี้ยวเล็บ” ให้กองทัพไทย แต่ยังเป็นก้าวสำคัญในการผลักดันอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของไทยในระยะยาว
นายมาริษ ระบุว่า รัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับนโยบายดังกล่าวอย่างต่อเนื่องตั้งแต่สมัยนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน จนถึงปัจจุบันที่มีนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร โดยมุ่งหมายให้ไทยก้าวสู่ประเทศลำดับต้น ๆ ในภูมิภาค ด้านการป้องกันประเทศ ขณะที่กองทัพอากาศมีบุคลากรพร้อมรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาขีดความสามารถของชาติ
“เป้าหมายของเราชัดเจน คือรัฐทำหน้าที่อำนวยความสะดวก ส่วนภาคเอกชนและผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมป้องกันประเทศจะเป็นผู้เล่นหลักในการรับถ่ายทอดเทคโนโลยี เพื่อเสริมสร้างศักยภาพการป้องกันประเทศ”
รมว.ต่างประเทศ ยังชี้ว่า การลงนามครั้งนี้ เป็นการสร้างความเชื่อมั่นต่อสวีเดนและประชาคมโลก หลังสถานการณ์ปะทะบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา โดยปฏิบัติการของกองทัพไทยได้แสดงให้เห็น ถึงความแม่นยำและการปฏิบัติตามกฎหมายสากลอย่างเคร่งครัด แตกต่างจากการใช้อาวุธของกัมพูชาที่ส่งผลกระทบต่อพลเรือน
นายมาริษ ย้ำอีกว่า ไทยเป็นประเทศที่รักสันติ แต่จำเป็นต้องมีศักยภาพในการป้องกันตนเอง การจัดซื้อเครื่องบินกริพเพนครั้งนี้จึงไม่ใช่เพียงการเพิ่มขีดความสามารถทางทหาร แต่ยังเป็นการวางรากฐานความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศกับประเทศคู่ค้าในยุโรป เพื่อยกระดับความน่าเชื่อถือของไทยบนเวทีโลก
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





