“ชินวัตร” ลุ้นศาล อนาคตรัฐบาลสั่นคลอน?
ศาลยกฟ้อง “ทักษิณ” คดี ม.112 แต่ยังลุ้น 29 ส.ค. ชี้ชะตา “แพทองธาร” ปมคลิปเสียงฮุนเซน นักวิชาการชี้เสี่ยงถึงขั้นเปลี่ยนนายกฯ–ยุบสภา
“ตระกูลชินวัตร” โล่งใจไปเปราะหนึ่ง หลังศาลอาญามีคำสั่งยกฟ้องอดีตนายกรัฐมนตรี “ทักษิณ ชินวัตร” ในคดี ม.112 แต่ก็ยังมีอีก 2 คดีที่ยังต้องลุ้น คือ วันที่ 29 สิงหาคม 2568 ศาลรัฐธรรมนูญนัดลงมติ คดีปมคลิปเสียงนายกฯ “แพทองธาร” กับ “ฮุน เซน” และถัดมาวันที่ 9 กันยายน 2568 ศาลฏีกา นัดฟังคำสั่งคดีทักษิณรักษาตัวชั้น 14
ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส มองว่า ปลายเดือนสิงหาคมนี้ถือเป็น “โค้งชี้ชะตาทางการเมือง และคดีความ” ของทั้งพ่อ-ลูกตระกูลชินวัตร และอาจเห็นความเสี่ยงการยุบพรรค-ยุบสภา จะทำให้กระบวนการทางการเมืองชัดเจนขึ้น
เช่นเดียวกับ นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย คดีคลิปเสียงนายกฯเป็นลบ โดยกรณีนายกฯพ้นจากตำแหน่งและทำรัฐมนตรีต้องพ้นด้วยทั้งคณะ อาจจะทำให้เกิดสุญญากาศทางการเมือง แต่หากผลออกมาและไม่ได้กระทบต่อเสถียพภาพของรัฐบาล ก็มองเป็นค่อนไปในทางบวกและกลับมาหนุนดัชนีตลาดหุ้นไทยได้อีกครั้ง
ขณะที่ “รองศาสตราจารย์ ดร.ยุทธพร อิสรชัย” อาจารย์ประจำสาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ให้ความเห็นกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ถึงคดีการเมืองที่เกิดขึ้น โดย “รองศาสตราจารย์ ดร.ยุทธพร” มอง 50/50 สำหรับคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ที่มีต่อคดีคลิปเสียงของนายกฯ “แพทองธาร” กับ “ฮุน เซน” แต่อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 คดี ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 29 สิงหาคม และ 9 กันยายนนั้น ย่อมส่งผลต่อเสถียรภาพรัฐบาลอย่างแน่นอน
รองศาสตราจารย์ ดร.ยุทธพร กล่าวว่า “มีผลแน่นอน เพราะ ณ วันนี้ มี 3 สัญญาณใหญ่ที่เราต้องดู คือ สัญญาณทางคดี สัญญาณทางการเมือง และสัญญาณทางเศรษฐกิจ ซึ่งในส่วนของสัญญาณทางคดี วันนี้ก็ไปแล้ว 2 เรื่องก็ยังเหลือในเรื่องของคดีคุณอุ๊งอิ๊ง กับเรื่องชั้น 14 ถ้าเป็นผลออกมาในเชิงบวก ก็อาจจะทำให้เกิดความเชื่อมั่นในเรื่องต่างๆกลับมาสู่รัฐบาล แต่ถ้าผลออกมาในเชิงลบ ก็อาจจะต้องไปถึงขั้นของการเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีเลยก็เป็นไปได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเรื่องนี้ เป็นเพียง 1 ใน 3 ปัจจัยใหญ่เท่านั้น ยังมีปัจจัยทางเศรษฐกิจและปัจจัยการเมืองอีก”
ทั้งนี้ ยังเตือนว่า รัฐบาลเสียงปริมน้ำ สภาร่ม และความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศ ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของรัฐบาล ไม่ว่านายกฯแพทองธารจะอยู่ หรือ มีนายกฯคนใหม่เข้ามา เรื่องเหล่านี้ก็ยังเป็นเรื่องที่ต้องเผชิญ
“ปัจจัยทางการเมืองในประเทศ ก็คือเรื่องของเสถียรภาพรัฐบาล ณ วันนี้ก็มีการทำให้เกิดภาวะเสียงปริมน้ำ และก็สภาร่ม แล้วก็ต้องปิดประชุมบ่อยครั้ง ก็ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นด้วย และขณะเดียวกันวันนี้มีคนเริ่มพูดถึงมาตรา 5 มีคนพูด ถึงเรื่องของมาตรา 144 จะเซ็ตซีโร่ สส.ทั้งสภาอะไรต่างๆเหล่านี้ ซึ่งก็เป็นสิ่งที่น่ากังวล และขณะเดียวกันสถานการณ์การเมืองระหว่างประเทศไทยกับกัมพูชาจะปะทุขึ้นมาอีกเมื่อไร นี่ก็เป็นโจทย์ยิ่งท้าทายไม่ว่าจะคุณอุ๊งอิ๊งอยู่ต่อ หรือจะเป็นนายกฯคนใหม่ก็ดี และอีกประการหนึ่ง ก็คือสัญญาณทางเศรษฐกิจ การขับเคลื่อนเศรษฐกิจ นโยบาย งบประมาณปี 69 จะพื้นฟูเศรษฐกิจให้พี่น้องประชาชนอะไรยังไง อันนี้ก็เป็นโจทย์ใหญ่ เมื่อคุณอุ๊งอิ๊งจะได้ไปต่อ หรือว่าจะต้องเปลี่ยนนายกฯคนใหม่ก็ต้องเจอกับโจทย์นี้เช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นอันนี้ผมว่าก็ยังมีอะไรหลายๆอย่างที่รออยู่ข้างหน้า”
จากนี้ต่อไปจะต้องติดตามพัฒนาการการเมืองไทยอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การพิจารณาของศาลเกี่ยวกับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ “น.ส.แพทองธาร ชินวัตร” ว่าจะหลุดหรือไม่ หากหลุดจากตำแหน่ง ก็จำเป็นจะต้องหาคนใหม่ นักวิเคราะห์ ก็ยังไม่แน่ชัดว่าจะเป็นใคร และนโยบายต่าง ๆ จะเปลี่ยนแปลงหรือไม่ ดังนั้นทุกจังหวะ ทุกย่างก้าว การเมืองไทยน่าติดตามเป็นอย่างยิ่ง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





