Home
|
ข่าว

รายแรก! เกษตรกร รับวงเงินสินเชื่อ นำต้นไม้ค้ำประกัน

Featured Image
รายแรก! เกษตรกร รับวงเงินสินเชื่อนำไม้ยืนต้นมาเป็นหลักประกันทางธุรกิจเปิดประตูให้เกษตรกร-SMEs เข้าถึงแหล่งทุนได้ง่ายและสะดวกขึ้น

 

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้ลงพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ณ ธนาคารต้นไม้บ้านทุ่งจูด อ.ถ้ำพรรณรา เพื่อร่วมกันมอบวงเงินจดทะเบียนไม้ยืนต้นเป็นหลักประกันทางธุรกิจให้แก่ นายสุมิตร ศรีวิสุทธิ์ เกษตรกรอำเภอถ้ำพรรณรา ที่ได้รับวงเงินสินเชื่อ 50,000 บาท (ราคาประเมิน 103,735 บาท) จากการนำไม้ยืนต้นที่ปลูกบนที่ดินของตนเอง จำนวน 137 ต้น ได้แก่ ต้นสักทอง 100 ต้น ต้นตะเคียนทอง 21 ต้น ต้นแดง 9 ต้น ต้นพะยูง 6 ต้น และ ต้นมะขาม 1 ต้น มาเป็นหลักประกันทางธุรกิจ

 

โดยนายสุมิตรฯ ถือเป็นเกษตรกรรายแรกใน จ.นครศรีธรรมราช ที่ได้นำไม้ยืนต้นมาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันการขอสินเชื่อจาก ธ.ก.ส. ภายใต้กฎหมายหลักประกันทางธุรกิจ และได้รับ การอนุมัติสินเชื่อในเวลาไม่นาน เป็นการเปิดประตูให้เกษตรกรและผู้ประกอบการ SME ในพื้นที่จ.นครศรีธรรมราช ได้เห็นคุณค่าของไม้ยืนต้นที่สามารถนำมาแปรเปลี่ยนเป็นเงิน

 

เพื่อนำไปต่อยอดลงทุนหรือใช้สอยในชีวิตประจำวัน โดยไม่ต้องตัดต้นไม้ และเมื่อเวลาผ่านไปก็สามารถนำไม้ยืนต้นที่มีการเจริญเติบโตมาขอสินเชื่อเพิ่มเติมได้ตามมูลค่าต้นไม้ที่เพิ่มสูงขึ้น ด้วยเช่นกัน ซึ่งเป็นไปตามเจตนารมย์ของกฎหมายหลักประกันทางธุรกิจที่ต้องการให้เกษตรกรและผู้ประกอบการ SME สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น

 

โดยล่าสุด มีเกษตรกร และ SME ทั่วประเทศนำไม้ยืนต้นมาเป็นหลักประกันทางธุรกิจแล้ว 170,026 ต้น (312 สัญญา) วงเงินรวมกว่า 186 ล้านบาท

 

นางอรมน กล่าวต่อว่า นอกจากการมอบวงเงินสินเชื่อแล้ว กรมฯ ยังได้จัดกิจกรรมให้ความรู้ ส่งเสริมไม้ยืนต้นเป็นหลักประกันทางธุรกิจ แก่เกษตรกรใน อ.ถ้ำพรรณรา จำนวน 100 ราย เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจและส่งเสริมให้ปลูกไม้ยืนต้นบนที่ดินของตนเอง

 

ซึ่งโครงการส่งเสริมไม้ยืนต้นเป็นหลักประกันทางธุรกิจ ถือเป็น 1 ในโครงการเรือธงที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าให้ความสำคัญเป็นลำดับต้น โดยปี 2568 กรมฯ ได้ลงพื้นที่เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับการนำไม้ยืนต้นมาเป็นหลักประกันทางธุรกิจแก่เกษตรกรใน 4 นคร 4 ภูมิภาค ภายใต้ชื่อ ‘4 นคร ส่งเสริมไม้ยืนต้นเป็นหลักประกันทางธุรกิจ’ ประกอบด้วย ภาคเหนือ จ.นครสวรรค์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.นครพนม ภาคกลาง จ.นครนายก และ ภาคใต้ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นที่น่ายินดีที่เกษตรกรทั้ง 4 จังหวัด รวมกว่า 800 ราย ได้รับความรู้และเข้าใจถึงความสำคัญ ของการปลูกไม้ยืนต้น และพร้อมนำมาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันการขอสินเชื่อกับสถาบันการเงิน ยามต้องการเงินลงทุนหรือนำไปใช้สอยในชีวิตประจำวัน และที่สำคัญเกษตรกรพร้อมปลูกไม้ยืนต้น บนที่ดินของตนเองเพิ่มขึ้นเพื่อเป็นมรดกแก่ลูกหลานและเป็นแหล่งออกซิเจนที่สำคัญของโลก หรือหากต้องการนำมาเป็นหลักประกันในอนาคตก็สามารถนำไม้ยืนต้นมาแปรเป็นเงินทุนได้ทันที

 

ทั้งนี้ กรมฯ ได้แถลงปิดทริป ‘4 นคร ส่งเสริมไม้ยืนต้นเป็นหลักประกันทางธุรกิจ’ ณ จ.นครศรีธรรมราช พร้อมร่วมเปิดศักราชใหม่แก่เกษตรกรชาวนครศรีธรรมราชที่ได้รับวงเงินสินเชื่อจากการนำไม้ยืนต้น มาเป็นหลักประกันทางธุรกิจรายแรกของจังหวัด นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่จะมีเกษตรกรรายอื่นๆ นำไม้ยืนต้นมาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันการขอสินเชื่อภายใต้กฎหมายหลักประกันทางธุรกิจในอนาคต ซึ่งจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรและ SME ในจ.นครศรีธรรมราชให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้โดยสะดวกและรวดเร็วมากขึ้น ช่วยเสริมสภาพคล่อง และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในธุรกิจการเกษตร โดยทรัพย์สินนั้นยังคงอยู่กับตนเองเช่นเดิม

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube