Home
|
อาชญากรรม

บิ๊กเต่า พบ ข้อมูลวัดพระบาทน้ำพุผิดปกติ สอบพยานไปแล้ว 20 ปาก

Featured Image
บิ๊กเต่า เผยพบข้อมูลวัดพระบาทน้ำพุผิดปกติ แต่ขอเวลาตรวจสอบให้รอบด้าน จนกว่าข้อเท็จจริงจะปรากฎ เชื่อชัดเจนเร็วๆ นี้

 

วันนี้ (13 ส.ค 68) พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนอย่างเป็นทางการอีกครั้ง หลังได้ประชุมร่วม 3 หน่วยงาน ความคืบหน้า เกี่ยวข้องในคณะทำงานคดีหมอบี ทูตสื่อวิญญาณ และวัดพระบาทน้ำพุ

 

พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว เปิดเผยว่า วันนี้เป็นการประชุมถึงความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าว เพื่อเป็นการบูรณาการร่วมกันทุกฝ่าย ให้ข้อมูลมันรวดเร็วและชัดเจนขึ้น ซึ่งการประชุมข้อมูล ถือว่ามีความคืบหน้าไปบางส่วนแล้ว และบางส่วนยังไม่ชัดเจน โดยเฉพาะเรื่องของการตรวจสอบหลักฐานเพิ่มเติม ส่วนจะไม่ชัดเจนเรื่องอะไรนั้น ขอให้เจ้าหน้าที่ทำการสืบสวนและตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน เบื้องต้นก็สอบพยานไปแล้วประมาณ 10-20 ปาก

 

เมื่อถามว่ามีความจำเป็นต้องเชิญหลวงพ่ออลงกต เข้ามาสอบปากคำหรือไม่นั้น พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ตอบว่า “ขอหาหลักฐานเพิ่มเติมก่อน เพราะการที่จะไปพูดคุยกับใคร ก็ควรจะมีข้อมูลในมือ ตอนนี้เราเองก็เสพหน้าสื่อเหมือนกัน ซึ่งก็มีทั้งพูดจริงและไม่จริง แต่ข้อมูลในส่วนของเรา เป็นข้อมูลที่ชัดเจน สามารถที่จะไปพูดคุยและยืนยันได้ส่วนประเด็นข้อมูลเรื่องรายรับ-รายจ่ายของวัด ตอนนี้มีข้อมูลบางส่วนแล้ว แต่ยังต้องตรวจสอบเพิ่มเติมอยู่ และจากการตรวจสอบนั้น ยังไม่ถึงขั้นต้องเข้าไปตรวจสอบหรือค้นวัด เพราะยังต้องตรวจสอบในหลายมิติไปในคราวเดียวกัน

 

เมื่อถามอีกว่ามีรายงานข่าวว่าวัดอาจจะทุจริตมานานกว่า 20 ปีแล้ว แต่ทำไมเรื่องถึงเพิ่งจะแดงนั้น พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ บอกว่า “ต้องท้าวความไปถึงเมื่อ 30 ปีก่อน เมื่อช่วงโรคเอดส์กำลังดัง ช่วงนั้นเราก็มองว่าวัดพระบาทน้ำพุ เป็นที่พึ่ง เป็นที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่เดือดร้อนจริงๆ เพราะฉะนั้นเราจึงมองข้ามไปในหลายเรื่องที่มันเกิดขึ้น แต่ภายหลังพอมันเริ่มมียารักษา ค่ารักษามันก็น้อยลง แต่การบริจาคมันกลับเพิ่มขึ้น เพราะมีหลายมูลนิธิที่มีการเปิดรับบริจาคผ่านทางออนไลน์

 

พร้อมทั้งตั้งทุนทำในหลายๆ เรื่อง เราจึงมองว่ามันผิดปกติ ในการที่วัดต้องมาหารายได้ ซึ่งก็เข้ามามหาศาล และเป็นการที่เอาเงินมหาศาลไปฝากหลายคน การที่หลวงพ่อทำความดีเรื่องโรคเอดส์ ก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่ภายหลังพอมียอดเงินมหาศาลไหลไปหลายช่องทาง เราก็ต้องกลับไปทบทวนหาข้อเท็จจริงมาประกอบว่าในช่วง 10-20 ปีหลังมันเกิดอะไรขึ้นส่วนข้อมูลที่อดีตพยาบาลเคยเข้าไปทำงานภายในวัด ก่อนโดนขู่ให้ออกนั้น เรื่องนี้เจ้าหน้าที่ทำงานไปพอสมควรแล้ว รวมไปถึงผู้ถือครองที่ดินของวัดที่ไม่ใช่ชื่อวัด เราได้พูดคุยกันทั้งหมด ทุกเรื่องต่างๆ เชื่อว่าทางกองปราบเอง เขาดำเนินการไปได้เยอะ

 

เมื่อถามย้ำว่าการพูดคุยในวันนี้ วัดถือว่ามีความผิดปกติหรือไม่ พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ตอบว่า มีความผิดปกติ แต่เราต้องหาข้อมูล เราต้องมองทุกมิติ ขอให้พี่น้องประชาชนสบายใจได้ เราได้มาคุยแบ่งงานกันในวันนี้ และได้รายงานให้ผู้บัญชาการทราบแล้ว ว่าเรามีแนวทางการดำเนินการอย่างไร วันนี้จึงถือว่าเป็นการเริ่มทำงานร่วมกัน 2 หน่วย แค่เราต้องไปหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติม เชื่อว่าอีกไม่นานจะมีความชัดเจน

 

ขณะที่ในส่วนของหมอบีหรือเลขาฯ เราได้ข้อมูลมาพอสมควรแล้ว แต่ในส่วนที่เกี่ยวข้อง มันจะเชื่อมโยงกันหรือไม่ ก็ต้องขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ทำงานก่อน ยืนยันว่าเรื่องมีความขึ้นหน้าไปเยอะ แต่เราต้องดูทุกมิติ ขอให้ใจเย็นๆ สักนิด เพราะเรื่องมันเกิดต่อเนื่อง 20-30 ปี มันต้องมีอะไรที่เชื่อมโยง บางส่วนเราก็ทำไปเยอะแล้ว และยังมีบางส่วนที่เรามองข้ามไป วันนี้จึงเป็นการเสริมข้อมูลบางเรื่องเข้าไปในสำนวน ซึ่งเบื้องต้นในส่วนของคำให้การของหมอบีและเลขาฯ ก็ถือว่าเป็นประโยชน์ ส่วนจะพูดเรื่องความผิดปกติของวัดหรือไม่ ขอให้เป็นเรื่องในสำนวน

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube