ศบ.ทก. ฉะเขมรทำลายบรรยากาศ GBC แต่งนิยายปล่อยข่าวใส่ร้ายไทย
ศบ.ทก.ฉะเขมร ทำลายบรรยากาศGBC แต่งนิยายปล่อยข่าวใส่ร้ายไทย จ่อนำผลประชุม เข้า สมช.ร่วม ครม.นัดพิเศษเย็นวันนี้ เคาะข้อตกลงก่อนส่ง “บิ๊กเล็ก” บินลงนามพรุ่งนี้ พร้อมเตรียมปลดล็อคโดรนเกษตร บินได้หลัง 15 ส.ค.นี้ แต่ต้องลงทะเบียน
ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยพล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ โฆษก ศบ.ทก.ด้านความมั่นคง ระบุว่า ช่วงเวลาที่ผ่านมาสถานการณ์ในพื้นที่ปกติมี การเสริมที่มั่นทางทหารในบางส่วน
แต่ทั้งนี้ไม่มีการเสริมกำลังทหารแต่อย่างใดช่วงเวลาที่ผ่านมา มีการตรวจพบการใช้โดรนเพิ่มมากขึ้น ในสถานการณ์ที่ไทยประกาศไม่ให้มีการบินโดรนทุกชนิดทั่วประเทศ ทางฝ่ายความมั่นคง ยังคงความเข้มงวดการสกัดการและตรวจตราตรวจสอบ รวมทั้งดำเนินการตามกฏหมายอย่างต่อเนื่อง จะมีผลบังคับใช้ถึงวันที่ 15 สิงหาคม
โดยตามที่ปรากฏเป็นข่าวบริเวณช่องอานม้า ปรากฏกัมพูชาพยามตัดลวดหนามบริเวณที่ไทยได้วางไว้ตามขอบเขตอธิปไตยของไทย ซึ่งปัจจุบันกำลังของทั้ง 2 ฝ่าย มีการพูดคุยเจรจาไม่มีการกระทบกระทั่งกัน สถานการณ์อยู่ในภาวะปกติ ซึ่งฝ่ายไทยได้ดำเนินการวางลวดหนามชุดใหม่ทดแทนชุดเดิมที่ถูกตัดไปเรียบร้อยแล้ว
ส่วนการดำเนินการต่อบุคคลที่ถูกจับกุมและเป็นคนต่างด้าว ขอยืนยันให้ประชาชนได้เชื่อมั่นและมั่นใจว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีความเข้มงวดในการตรวจตราและจับกุมต่อบุคคลต่างด้าวที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมาเห็นการจับกุม ที่ดำเนินการและดำเนินคดีไปบ้างแล้ว โดยหลักการปฎิบัติคือทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้มีการปฏิบัติการเชิงรุก ตรวจค้นขยายผลโดยการสืบสวนสอบสวนเกี่ยวกับผู้ที่มีพฤติกรรมน่าสงสัยหรือคนต่างด้าวที่แฝงตัวเข้ามาเพื่อเก็บข้อมูลด้านความมั่นคง และได้ประสานหน่วยงานด้านความมั่นคงต่างๆ
โดยแจ้งเบาะแสและรายละเอียดต่างๆ ให้หน่วยงานความมั่นคงได้รับทราบเช่นเดียวกัน ซึ่งเป็นการแชร์ข้อมูลเพื่อเป็นการป้องกันและป้องปรามการรายงานข่าวที่อาจจะบิดเบือนและมีผลทางด้านความมั่นคง ซึ่งหากมีการตรวจสอบแล้วฝ่ายความมั่นคงพิสูจน์ทราบว่าไม่มีประเด็นใดที่น่าเป็นห่วงบุคคลต้องสงสัยจะถูกผลักดันออกนอกประเทศและขึ้นทะเบียนไว้ตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง 2522 และหากตรวจพบว่านอกจากมีความผิดจากการเข้าเมืองผิดกฎหมาย
และพบว่ามีการทำผิดกฎหมายอื่นๆ จะทำตามและดำเนินคดีตามข้อกฎหมายอื่นๆ เพิ่มเติม
ทั้งนี้การใช้โดรนในห้วงเวลาที่ผ่านมา ที่ตรวจพบมากขึ้น ขอเน้นย้ำว่าประเทศไทยยังไม่อนุญาตให้มีการบินทุกชนิดทุกประเภททั่วประเทศ จนถึงวันที่ 15 สิงหา 2568 ตามประกาศของสำนักงาน การบินพลเรือนแห่งประเทศ ไทยลงวันที่ 30 กรกฎาคม 2568 และในวันนี้ในที่ประชุมศบ.ทก. ได้มีการพูดคุยเรื่องการผ่อนปรนการบินโรนเกษตร ภายหลังวันที่ 15 สิงหาคม บางพื้นที่
โดยเห็นพ้องว่าพี่น้องเกษตรกรมีมีความจำเป็นและเดือดร้อนที่ต้องใช้เพื่อการเกษตร ซึ่งประเด็นสำคัญในการหารือการบินโดรนเกษตรที่จะทำการบินจะต้องผ่านการขึ้นทะเบียนของผู้บังคับ ผู้ควบคุมอากาศยาน มีการลงทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฏหมายผ่านระบบของสำนักงานการบินพลเรือน โดยจะบินได้เฉพาะเวลากลางวัน 06:00 – 18:00 น. โดยการลงทะเบียนของ สำนักการบินพลเรือนโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ตามข้อกฎหมายผู้ซื้อโดรนมีหน้าที่ต้องลงทะเบียนที่จุดขาย เช่นเดียวกับการซื้อซิมโทรศัพท์มือถือซึ่งเป็นมาตรการที่เรายังคงดำเนินการต่อเนื่อง
และสุดท้ายการประชุม GBC คณะเลขานุการของทั้งสองฝ่ายได้ประชุมเจรจาจนถึงเวลา 00.15 น. เนื่องจากกัมพูชาไม่สามารถตัดสินใจตกลงได้ในบางหัวข้อจึงต้องมีการส่งเรื่องต่างๆ ไปให้พนมเปญได้พิจารณา จนทำให้เกิดความล่าช้าในการตกลงใจ แต่เมื่อเช้านี้ทั้ง 2 ฝ่ายสามารถสรุปข้อตกลงกันได้ และปัจจุบันอยู่ระหว่างการเตรียมเอกสารให้ประธานของทั้งสองฝ่ายพิจารณา
ซึ่งเน้นย้ำว่าเป็นข้อตกลงระหว่างฝ่ายเลขาร่วม ยังไม่ถือเป็นข้อตกลงสุดท้ายของการประชุม GBC โดยฝ่ายไทยจะนำเรื่องที่ได้สรุปข้อตกลงกับฝ่ายเลขาทั้ง 2 ประเทศนำมาส่งให้ทางประธานพิจารณาต่อ
และนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมของสภาความมั่นคงแห่งชาติ ในช่วง 16:00 น. ของวันนี้ ซึ่งจะจัดประชุมร่วมกับคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ เพื่อให้ความเห็นชอบต่อไปก่อนที่ประธานฝ่ายไทยจะมีการเดินทาง ไปประชุม GBC ที่ประเทศมาเลเซียในวันพรุ่งนี้ ซึ่งทำให้เห็นถึงระบบการทำงานและการตัดสินใจการตกลงใจจะต้องผ่านขั้นตอนที่ถูกต้องตามกฏหมาย
อย่างไรก็ตาม ช่วงที่ผ่านมารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้มีการติดต่อโดยตรงไปยังเลขานุการ GBC ฝ่ายไทย เพื่อติดตามความคืบหน้าการเจรจาและส่งกำลังใจ และชื่นชมในการทำงานอย่างหนักจนถึงวินาทีสุดท้ายของทีมไทยแลนด์ ขอให้ประสบความสำเร็จในการเจรจา เพื่อบรรลุและปกป้องผลประโยชน์ของไทยซึ่งเรื่องนี้ทางทีมโฆษกของศบ.ทก. จะเดินทางไปยังมาเลเซีย เพื่อร่วมประชุมและรายงานให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบต่อไป
ด้านนางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ระบุถึงการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมเชลยศึกของผู้แทนคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC)
ซึ่งกองทัพบกและกระทรวงการต่างประเทศ ได้นำคณะ ICRC เข้าเยี่ยมเชลยศึกชาวกัมพูชาที่อยู่ระหว่างการถูกควบคุมตัว 18 นาย โดยขอย้ำว่า เป็นข้อริเริ่มของฝ่ายไทยเองเพื่อแสดงถึงความโปร่งใส ในการดำเนินการและการปฏิบัติตามหลักมนุษยธรรมและหลักปฎิบัติของคณะชาติระหว่างประเทศของฝ่ายไทยอย่างครบถ้วนและเคร่งครัด
สำหรับขั้นตอนการดำเนินการต่อไป กระทรวงการต่างประเทศ ทั้งที่กรุงเทพฯ และผู้แทนถาวรไทยถาวรประจำนครเจนีวาจะดำเนินการเชิงรุกเพื่อประสานงานกับสำนักงานภูมิภาคประจำประเทศไทย และสำนักงานใหญ่เพื่อให้ความร่วมมือชี้แจงต่อไปในการดำเนินการของฝ่ายไทย
นอกจากนี้ ในเรื่องการจัดการประชุมออนไลน์กับเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ของไทยทั่วโลกในวันพรุ่งนี้ (7ส.ค.68) เพื่อย้ำการดำเนินการเชิงรุกของทีมประเทศไทยในการเดินหน้าชี้แจงข้อเท็จจริง ที่เป็นหลักฐานเชิงประจักษ์และพิสูจน์ได้เพื่อป้องกันไม่ให้รัฐบาลและสื่อมวลชนต่างประเทศตลอดจนประชาคมโลกเข้าใจผิดจากการเผยแพร่ข้อมูลเท็จและบิดเบือนจากฝ่ายกัมพูชา ซึ่งมีออกมา อย่างแพร่หลาย
ซึ่งเป็นการดำเนินการอย่างต่อเนื่องในการชี้แจงข้อเท็จจริงของสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และยืนยันจุดยืนไทยให้ประชาคมโลก และนานาประเทศได้รับทราบต่อเนื่อง จากการเข้าร่วมกิจกรรมเสวนาสมาคมผู้สื่อข่าวในประเทศไทยและการการบรรยายแก่คณะทูตและองค์การระหว่างประเทศประจำประเทศไทยเมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา
สำหรับทุกการติดตามสถานการณ์อาจรู้สึกว่าการเผยแพร่ข่าวปลอมและข่าวบิดเบือนจากกัมพูชาและการใส่ร้ายฝ่ายไทย ซึ่งถึงขั้นมีการแต่งนิยายมีความถี่มากขึ้นซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ทีมไทยแลนด์
มีการเจรจาในกรอบ GBC ซึ่งฝ่ายไทยเชื่อมั่นว่า การรักษาบรรยากาศที่ดีโดยไม่ใส่ร้ายอีกฝ่ายหนึ่งจะเป็นส่วนสำคัญที่จะลดความตึงเครียดระหว่างกันของทั้งสองประเทศ เพื่อประโยชน์ ของประชาชนของทั้งสองฝ่าย ไม่ใช่ประโยชน์ของฝ่ายรัฐบาลอย่างเดียว
ซึ่งบรรยากาศที่จะเอื้อต่อการเจรจาในกรอบการประชุมจีพีซีถือว่ามีความสำคัญซึ่งจะยกระดับการประชุม เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ขอให้ทุกคนทั้งอยู่มาเลเซียและทีมงานที่ไปพร้อมกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมของไทยประสบความสำเร็จในภารกิจนี้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
