“กรวีร์” จี้ผู้ว่าฯชายแดน แจงงบช่วยปชช.วิกฤตไทยกัมพูชา
“กรวีร์” จี้ผู้ว่าฯชายแดน แจงงบช่วยประชาชนช่วงวิกฤตไทยกัมพูชา ชี้ของรัฐมีแต่ตัวเลข แต่หน้างานประชาชนต้องพึ่งของบริจาค แซะ”โป๊กเกอร์”ส่งด่วน ได้ใบอนุญาตเร็วเว่อร์ แนะรัฐควรช่วยชายแดนเร็วเท่านี้บ้าง
นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการปกครอง สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยก่อนประชุม กมธ. ว่า วันนี้ ได้เชิญผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี รวมถึงกระทรวงมหาดไทย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และกรมบัญชีกลาง เข้าชี้แจงประเด็นการเบิกจ่ายงบประมาณฉุกเฉิน 100 ล้านบาท/จังหวัด ที่ ครม.อนุมัติไว้ เพื่อดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบ จากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา
ทั้งนี้ แม้รัฐบาลจะยืนยันว่า เบิกจ่ายงบได้จริง แต่ในทางปฏิบัติยังมีความล่าช้าและติดขัด บางพื้นที่ยังไม่สามารถเบิกงบออกมาใช้งานได้ ทำให้ของที่นำไปดูแลผู้ประสบภัยส่วนใหญ่เป็นสิ่งของบริจาคจากประชาชนกันเอง มากกว่างบของรัฐ พร้อมตั้งคำถามต่อรัฐบาลว่า งบอำเภอละ 5 แสนบาทที่เริ่มจัดสรรนั้น เพียงพอกับค่าใช้จ่ายหรือไม่ เพราะในบางพื้นที่งบจำนวนนี้หมดลงในเวลาเพียงไม่กี่วัน
นายกรวีร์ ย้ำว่า รัฐบาลควรให้ความสำคัญกับการจัดสรรงบฉุกเฉินอย่างมีประสิทธิภาพ และตรงตามความจำเป็น ไม่ใช่ปล่อยให้ประชาชนในพื้นที่ต้องพึ่งพาของบริจาคหรือรอความช่วยเหลือแบบไม่เป็นระบบ พร้อมขอให้ กระทรวงมหาดไทยเร่งหาทางแก้ไขข้อจำกัดเรื่องการเบิกจ่ายโดยเร็ว
โดยการประชุม กมธ.ครั้งนี้ยังได้เชิญ ส.ส.ในพื้นที่เข้าร่วมรับฟังและสะท้อนปัญหาหน้างาน เพื่อส่งต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หวังให้การช่วยเหลือประชาชนชายแดนเป็นรูปธรรมมากขึ้นในช่วงสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างไทย-กัมพูชา
ขณะเดียวกัน นายกรวีร์ ยังแสดงความสงสัยต่อกรณีการแข่งขัน “โป๊กเกอร์” ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา ว่า ได้รับอนุญาตอย่างรวดเร็วผิดปกติ ทั้งที่ก่อนหน้านั้น ยังไม่ได้รับใบอนุญาต และมีหลักฐานชัดเจนว่าการพนัน จึงอยากเรียกร้องรัฐบาลให้ช่วยประชาชนชายแดนได้เร็วแบบนี้บ้าง ไม่ใช่แค่เรื่องพนันเท่านั้นที่ทำได้ไว
นายกรวีร์ ยังฝากถึงนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ให้ตรวจสอบเรื่องนี้อย่างจริงจัง พร้อมเรียกร้องให้กระทรวงมหาดไทยแสดงท่าทีให้ชัดเจนว่า จะควบคุมการพนัน ในประเทศอย่างไร หากยังเปิดช่องให้ใช้รูปแบบ “กีฬา” มาบังหน้าในลักษณะเช่นนี้ พร้อมย้ำว่า กมธ.มีเอกสารหลักฐานพร้อม และจะติดตามความชัดเจนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
