มทภ.2 รับมอบเงิน 4 ล้าน ช่วยผู้ประสบภัยชายแดนไทยกัมพูชา

แม่ทัพภาค 2 รับมอบเงิน 4 ล้านช่วยผู้ประสบภัยชายแดนไทย-กัมพูชา มีคำสั่งรับมือโดรน เตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อเฟคนิวส์

 

พล.ท. บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 รับมอบเงินบริจาคจำนวน 4 ล้านบาท จากพระเทพภาวนาวชิรคุณ วิ. เจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร ผ่าน พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา
เพื่อนำไปช่วยเหลือประชาชนใน 4 จังหวัดชายแดนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ได้แก่ สุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

 

 

 

พล.อ.เกรียงไกร เปิดเผยว่า เงินนี้เป็นพุทธบูชาจากประชาชนที่ถวายวัด ซึ่งเจ้าอาวาสมีความห่วงใยสถานการณ์ชายแดน จึงขอให้ส่งต่อเพื่อบรรเทาทุกข์ผู้ที่ได้รับผลกระทบ

 

ด้าน พล.ท. บุญสิน ระบุว่า งบประมาณนี้ จะถูกส่งต่อให้ผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อใช้เยียวยาทั้งเรื่องชีวิต ทรัพย์สิน ที่อยู่อาศัย และศูนย์อพยพ พร้อมให้คำมั่นว่า จะรายงานความคืบหน้ากลับไปยังวัดและวุฒิสภา

 

 

 

 

พล.ท. บุญสิน ยังกล่าวถึงการประชุม GBC (General Border Committee) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 7 ส.ค. ว่า ทั้งสองฝ่ายต่างหยุดยิง และไทยได้อำนวยความสะดวกให้กัมพูชานำตัวผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตกลับ โดยย้ำว่า ไทยปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด ไม่ล้ำเขต ไม่รุกนอกประเทศ และดำเนินการภายใต้เส้นปฏิบัติการที่ชัดเจน

 

สำหรับกรณีที่กัมพูชาอ้างว่าไทยละเมิดข้อตกลง แม่ทัพภาค 2 ยืนยันว่า “เหตุปะทะเกิดก่อนมีข้อตกลง” และตั้งแต่มีข้อตกลงก็ไม่มีการยิงตอบโต้เพิ่มเติม พร้อมชี้ว่ามีบางฝ่ายล้ำแดนเข้ามาในฝั่งไทยก่อนหน้านี้

 

ส่วนกรณีที่มีคำสั่งงดบินโดรน พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า ในส่วน 20 จังหวัดตนได้มีการประชุมกับผู้ว่าฯในฐานะเป็นผู้อำนวยการ รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(ผอ.รมน.) รวมกับผู้การตำรวจภูธรทั้งสองภาค ให้ไปดำเนินการแก้ไข และค้นหาบุคคลที่ขัดคำสั่งของ สมช. ที่ห้ามบินโดรนเด็ดขาด ซึ่งปัจจุบันก็จับได้หลายคนอยู่ในระหว่างการสอบสวนทางลึกว่าเป็นใครมาจากไหน

 

ตนได้ขอให้ตำรวจดำเนินการตามกฏหมายถึง ที่สุดอย่าเพิ่งเชื่อที่เขาพูด พร้อมย้ำว่า หน่วยราชการทุกระดับในพื้นที่ เช่น ศาลากลาง โรงไฟฟ้า สถานีตำรวจ และค่ายทหาร ต้องเข้มงวด ดูแลความปลอดภัยทุกจุด และขอให้ประชาชนร่วมเป็นหูเป็นตา ไม่อยู่เฉย

 

ในช่วงท้าย แม่ทัพภาค 2 ยืนยันว่า ข่าวที่ระบุว่า “ทหารกัมพูชาขอให้ไทยช่วยเก็บกู้ระเบิดบริเวณปราสาทตาควาย” เป็น ข่าวปลอม หรือ เฟคนิวส์ โดยขอให้ประชาชนรับข่าวสารจาก สื่อหลักของกองทัพหรือรัฐบาลเท่านั้น เช่น กระทรวงกลาโหม กองทัพบก และกองทัพภาคที่ 2 ส่วนหน้า พร้อมยอมรับว่า การทำหน้าที่ครั้งนี้มีแรงกดดันสูง แต่จะขอปฏิบัติหน้าที่อย่างดีที่สุด และรายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับ

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews