ศบ.ทก.ยันยึดมั่นคำมั่นสัญญา ซัดอีกกัมพูชาละเมิดหยุดยิง

ศบ.ทก. ยืนยัน ไทยปฏิบัติตามเงื่อนไขข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด โดยยึดมั่นคำมั่นสัญญาที่รัฐบาลทั้งสองฝ่ายได้ให้ไว้ร่วมกัน ขณะที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลง และใช้โบราณสถานเป็นโล่กำบัง ละเมิดทางพันธะกรณีคุ้มครองทางวัฒนธรรมสหประชาชาติ

พลเรือตรีสุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม และโฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) แถลงว่า ตามที่ได้มีการตกลงว่าจะหยุดจริงตั้งแต่เวลา 24.00 น. ที่ผ่านมา ไทยยืนยันว่าได้ปฏิบัติตามเงื่อนไข ข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด โดยยึดมั่นในคำมั่นสัญญาที่รัฐบาลทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันให้ไว้

 

อย่างไรก็ตามในช่วงเวลาที่ผ่านมาหลังจากเลยกำหนดหยุดยิงไปแล้ว ได้พิสูจน์ทราบว่าฝ่ายกัมพูชายังคงใช้อาวุธยิงเข้ามาในเขตแดนของประเทศไทยอย่างต่อเนื่องในหลายจุด ถือเป็นการกระทำที่จงใจละเมิดข้อตกลง และทำลายความเชื่อมั่น ต่อกันในฐานะประเทศเพื่อนบ้าน การกระทำของฝ่ายกัมพูชาดังกล่าว ทำให้ฝ่ายไทยมีความจำเป็นต้องใช้มาตรการตอบโต้กลับ ภายใต้สิทธิการป้องกันตนเองตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ โดยฝ่ายไทยไม่ได้ใช้กำลังเพื่อรุกราน แต่ใช้เพื่อ ปกป้องอธิปไตยของชาติ และความปลอดภัยของประชาชน

 

นอกจากนี้ยังได้ปรากฏทราบว่าฝ่ายกัมพูชา ได้ใช้โบราณสถานเป็นโล่ห์กำบัง ซึ่งเป็นการละเมิดทางพันธะกรณีในการคุ้มครองทางวัฒนธรรมของสหประชาชาติเรื่องอนุสัญญาภายใต้ยูเนสโกอีกด้วย จึงขอประมาณการกระทำต่างๆ ของกัมพูชาในครั้งนี้

สำหรับสถานการณ์การปะทะระหว่างไทยและกัมพูชาในพื้นที่ตั้งแต่เวลา 06.00 น. ของวันนี้ พื้นที่ที่ไทยสามารถควบคุมได้ 11 พื้นที่ ได้แก่ ภูมะเขือ ช่องอานม้า ประสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย แนวเขตแดนช่องบก โดนตวน สัตตะโสม ช่องจอม ช่องสายตะกู บ้านกรวด พระวิหาร พรานยาว ซึ่งฝ่ายไทยสามารถควบคุมพื้นที่ได้ในเวลา 24.00 น.

ส่วนยอดรวมผู้อพยพในทั้งสิ้น 188,729 คน โดยที่ผ่านมาสถานการณ์ผู้ได้รับผลกระทบที่เป็นพลเรือนมียอดเสียชีวิต 15 คน บาดเจ็บสาหัส 12 คน บาดเจ็บปานกลาง 13 คน และบาดเจ็บเล็กน้อย 13 คนรวมยอดทั้งสิ้น 53 คน เพิ่มขึ้น 1 ราย ในจังหวัดสุรินทร์ ปัจจุบันยอดผู้บาดเจ็บยังรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล 14 ราย สถานพยาบาลที่ได้รับผลกระทบ 20 แห่ง ปิดบริการ 13 แห่ง ปิดบางส่วน 7 แห่ง ส่วนโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ได้รับผลกระทบ 175 แห่ง

สำหรับข้อตกลงหยุดยิงที่ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงกันไว้ที่ประเทศมาเลเซียเมื่อวานนี้ เมื่อเช้าวันนี้ ทั้งสองฝ่ายได้มีการหารือในระดับผู้บังคับบัญชาในพื้นที่ ได้แก่แม่ทัพภาค และผู้บัญชาการกองกำลังต่างๆ ย้ำไม่ใช่การประชุม RBC แต่เป็นการหารือระหว่างผู้บังคับบัญชาในพื้นที่ของทั้งสองประเทศเท่านั้น ซึ่งเป็นกรอบแนวทางปฏิบัติหลังจากมีการหยุดยิงแล้ว โดยกรอกแนวทางที่ทั้งสองฝ่ายหารือกัน ประกอบด้วย การหยุดยิง ห้ามยิงประชาชนผู้บริสุทธิ์ หยุดการเพิ่มเติมกำลัง ห้ามเคลื่อนย้ายกำลัง กำลังที่อยู่ในพื้นที่ใดขอให้อยู่ในพื้นที่นั้น แนวทางการส่งกลับผู้ป่วย ผู้บาดเจ็บ ผู้เสียชีวิต ตลอดจนผู้ถูกควบคุม จะกำหนดแนวทางอย่างไรก็เป็นเรื่องของทั้งสองฝ่ายต้องตกลงหารือและนำไปสู่ข้อยุติและข้อตกลงร่วมกัน

พลเรือตรี สุรสันต์ ฝากถึงการโจมตีทางไซเบอร์ เป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่ามีการโจมตีทางไซเบอร์ ผ่านเว็บไซต์ และทางออนไลน์ต่างๆ มีการใช้ AI ข่าวปลอมต่างๆ จึงอยากให้ประชาชน ใช้วิจารณญาณในการติดตามแชร์ข้อมูลข่าวสาร รวมถึงการรายงานให้เจ้าหน้าที่ต่างๆที่เกี่ยวข้อง หากตรวจพบในการละเมิดทางไซเบอร์ กระทรวงดิจอทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จะคอยติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด

 

ด้านนางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศและรองโฆษกกระทรวงการต่าง แถลงว่า การละเมิดหยุดยิงของกัมพูชาทำให้ไทย เรียกร้องฝ่ายกัมพูชา ให้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด พร้อมกล่าวว่าการหยุดยิงเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของการดำเนินการที่เกี่ยวข้องต่อไป เพื่อนำไปสู่สถานการณ์ ลดความตึงเครียดระหว่าง 2 ประเทศ ย้ำ ไทยส่งทีมไปมาเลเซีย ตั้งใจแสดงจุดยืนเกี่ยวกับบริเวณชายแดนไทยกัมพูชา และรัฐบาลไทยเน้นย้ำสิ่งที่เกิดขึ้นตลอดช่วงที่ผ่านมา คือเรื่องการรุกล้ำอธิปไตย ความสูญเสียในชีวิตและพลเรือนความเดือดร้อนของประชาชนตามแนวชายแดนต้องไม่เกิดขึ้นอีกและขอให้ฝ่ายกัมพูชาดูแลคนไทยในกัมพูชาเช่นเดียวกับประเทศไทยจะดูแลชาวกัมพูชาเช่นกัน

 

ขณะเดียวกันไทยยังมีความพร้อมและจริงใจหาทางออกร่วมกันโดยข้อตกลงหยุดยิงที่เห็นชอบร่วมกันทั้งสองฝ่ายถือเป็นความสำเร็จในขั้นต้นและเป็นก้าวแรก ที่สำคัญที่จะนำมา ซึ่งความสงบและปลอดภัยตามแนวชายแดน

 

สำหรับกระทรวงการต่างประเทศได้ย้ำจุดสำคัญ ในเรื่องของการตกลงหยุดยิงเป็นเรื่องของการรื้อฟื้น ให้ทั้งสองฝ่ายกลับคืนสู่โต๊ะเจรจาทวิภาคี และเมื่อเช้าที่ผ่านมาได้มีการเจรจา อย่างไม่เป็นทางการเกิดขึ้นแล้วระหว่างแม่ทัพภาคของทั้งสองฝ่ายและในอนาคตจะมีการประชุม JBC ในเดือนกันยายน และหวังว่าในกรอบของ GBC จะเกิดขึ้นในวันที่ 4 สิงหาคมนี้ และที่สำคัญ ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว จะได้กลับบ้านในเร็วๆนี้ แต่ ขอให้รอความชัดเจนเรื่องความปลอดภัยเนื่องจากสถานการณ์ยังเปราะบางอยู่

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews