ปภ. เตรียมพร้อมรับมือ “พายุวิภา” เตือน 17 จังหวัดเสี่ยงดินถล่ม

ปภ. ติดตามรับมือพายุวิภา เตรียมพร้อมเชิงรุกเต็มกำลัง ตั้งวอร์รูมประสานข้อมูลใกล้ชิด 24 ชม. แจ้งเตือน Cell Broadcast 17 จังหวัด 89 อำเภอเสี่ยงดินถล่มเตรียมพร้อมอพยพหากสถานการณ์รุนแรง
วันนี้(22 ก.ค.68) ที่ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC 1) สำนักงานชลประทานที่ 1 เชียงใหม่ นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นประธานการประชุมกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (ส่วนหน้า) เพื่อติดตามสถานการณ์อุทกภัยและดินถล่มและการให้ความช่วยเหลือพื้นที่เสี่ยงได้รับผลกระทบจากพายุวิภา
นายภาสกร กล่าวว่า จากการติดตามพายุโซนร้อนวิภาเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมามีศูนย์กลางอยู่บริเวณใกล้ชายฝั่งประเทศจีนตอนใต้ คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามในวันนี้และอ่อนกำลังลงเป็นดีเปรสชั่นและหย่อมความกดอากาศต่ำ ซึ่งอิทธิพลของพายุวิภาและมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ จะส่งผลทำให้บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคกลาง จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่กับมีลมแรง ช่วงวันที่ 22-24 กรกฎาคม 2568
ซึ่งจากรายงานทราบว่าบางพื้นที่เริ่มมีฝนตกเล็กน้อยถึงปานกลางและคาดว่าอาจจะมีฝนตกเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปจนถึงช่วงค่ำ จึงได้กำชับให้ห้องปฏิบัติการวอร์รูม ปภ. ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติได้ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง
นายภาสกร กล่าวต่ออีกว่า ปภ. และทุกจังหวัดได้เตรียมพร้อมเชิงรุกตามข้อสั่งการเร่งด่วนในการรับมือพายุวิภาของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และแผนเผชิญเหตุจังหวัดอย่างเต็มกำลังขณะที่จังหวัดต่างๆ ได้จัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัด
ร่วมเฝ้าติดตามสถานการณ์พายุและประเมินความเสี่ยงภัยอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงมีการแจ้งเตือนภัยแก่ประชาชนผ่านระบบ Cell Broadcast และหอเตือนภัยในพื้นที่ทันทีที่ประเมินวิเคราะห์พบสถานการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อประชาชน
ได้มีการเตรียมทีมเจ้าหน้าที่เผชิญเหตุและเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย โดยขณะนี้เครื่องจักรกลสาธารณภัยของ ปภ.จากศูนย์ ปภ.เขต ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ศูนย์ ปภ. เขต 2 สุพรรณบุรี และศูนย์ ปภ. เขต 16 ชัยนาท เช่น รถปฏิบัติการบรรเทาอุทกภัยพร้อมเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ เครื่องสูบส่งระยะไกล รถปฏิบัติการเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย เรือพร้อมเครื่องยนต์ เรือท้องแบน ได้เข้าประจำพื้นที่จุดเสี่ยงจุดเปราะบางเรียบร้อยแล้วและพร้อมเดินเครื่องทำงาน โดยมีศูนย์ ปภ.เขต 9 พิษณุโลก เป็นจุดระดมทรัพยากรเครื่องจักรกลสาธารณภัย (Staging Area)
สามารถส่งกำลังสนับสนุนการเผชิญเหตุและช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัยภาคเหนือได้ทันที ขณะเดียวกันได้นำเฮลิคอปเตอร์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย KA-32 ขึ้นมาประจำที่ฐานจังหวัดเชียงใหม่ เตรียมพร้อมออกปฏิบัติการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือ โดยเฉพาะพื้นที่ที่เข้าถึงยาก
อย่างไรก็ตาม นอกจากการเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ฝนตกหนักและน้ำท่วมแล้ว ยังต้องติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ดินโคลนถล่มที่อาจจะเกิดขึ้นด้วย เนื่องจากหลายพื้นที่มีปริมาณฝนสะสมมาตั้งแต่ช่วงก่อนหน้านี้ โดยห้องปฏิบัติการวอร์รูม ปภ.ได้วิเคราะห์ประเมินสถานการณ์ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด เมื่อวานนี้ (21 ก.ค.68) ได้แจ้งเตือนดินถล่มผ่านระบบ Cell Broadcast รูปแบบ Information Alert ไปยังจังหวัดที่มีความเสี่ยงในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ รวม 9 ครั้ง ในพื้นที่ 17 จังหวัด 89 อำเภอ
ได้แก่ กาญจนบุรี น่าน ตาก แพร่ แม่ฮ่องสอน พะเยา เชียงราย เลย หนองคาย อุดรธานี หนองบัวลำภู ชัยภูมิ เชียงใหม่ จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา เพื่อแจ้งข้อมูลความเสี่ยงภัยให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบและเตรียมพร้อมรับมือไว้ล่วงหน้า รวมถึงได้กำชับจังหวัดเสี่ยงอุทกภัยและดินถล่ม ให้เตรียมความพร้อมในส่วนของศูนย์พักพิงชั่วคราวหรือจุดอพยพที่ปลอดภัย และพิจารณาอพยพกลุ่มเปราะบางที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงดินถล่มมายังจุดปลอดภัยไว้ล่วงหน้าทันที เพื่อความปลอดภัยกรณีเกิดสถานการณ์รุนแรง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews