Home
|
ข่าว

ถึงเวลา “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ พลิกเกมการเมือง

 

 

หลังจากศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งให้ “แพทองธาร ชินวัตร” หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ระหว่างรอคำตัดสิน กรณีคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา อาจเข้าข่ายขัดต่อรัฐธรรมนูญ เมื่อ 2 วันก่อน ก็เหมือนตกเป็นรองในเกมการเมือง

 

 

ตำแหน่งรักษาการนายกฯ ตกเป็นของ “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” รองนายกฯลำดับ 2 ไปก่อน 2 วัน เพราะ “ภูมิธรรม เวชยชัย” รองลำดับ 1 ยังไม่ได้เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณตนก่อนรับหน้าที่ และเมื่อ “สุริยะ” นำคณะรัฐมนตรี ชุดใหม่ เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณตน ต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวันนี้ 3 กรกฎาคม 2568 “ภูมิธรรม” ก็จะกลายเป็น รักษาการนายกฯ ทันที ตามข้อกฏหมาย พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 มาตรา 41 ที่บัญญัติว่า “ในกรณีที่นายกรัฐมนตรีไม่อาจปฏิบัติราชการได้ให้รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รักษาราชการแทน ถ้ามีรองนายกรัฐมนตรีหลายคน ให้คณะรัฐมนตรี มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีคนใดคนหนึ่งเป็นผู้รักษาราชการแทน”

 

 

โดยในการประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งล่าสุด ก่อน “แพทองธาร” ถูกศาลสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ได้มีมติเลือกให้ “ภูมิธรรม” ซึ่งจะดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี และมีอำนาจเต็มตาม มาตรา 11 (2) ของพระราชบัญญัติ ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ซึ่งอาจพลิกเกมทางการเมืองได้ รวมถึงมีอำนาจในการยุบสภาด้วย

 

 

สำหรับกราฟชีวิตของ “ภูมิธรรม” หรือชื่อเดิม “ธวัชชัย” เกิดเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2496 มีชื่อเล่นว่า “อ้วน” สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนทวีธาภิเศก ปริญญาตรีรัฐศาสตรบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อปี พ.ศ. 2518,
เคยหนีเข้าป่าสมัยเดือนตุลาคม 2519 มีชื่อว่า “สหงายใหญ่” จบปริญญาโท รัฐศาสตรมหาบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในปี พ.ศ. 2527 จบหลักสูตรป้องกันราชอาณาจักร จากวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) ในปี พ.ศ. 2547 เริ่มต้นทำงาน เป็นรองผู้อำนวยการโครงการอาสาสมัคร สถาบันวิจัยสังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2522

 

 

ต่อมาเขาได้หันเห มาทำงานบริษัทเอกชน และเป็นผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการประจำสำนักประธานบริหาร กลุ่มบริษัทในเครือชินวัตร ระหว่างปี พ.ศ. 2540 – 2541

 

 

เริ่มเข้าสู่งานการเมืองด้วยการเป็นที่ปรึกษาคณะทำงาน สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (กทบ.) ในปี พ.ศ. 2544 และเป็นเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” และเป็นรองเลขาธิการพรรคไทยรักไทย, ปี พ.ศ. 2548 ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ก่อนถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี คดียุบพรรคไทยรักไทย พ.ศ. 2549 ก่อนพ้นโทษ ในปี พ.ศ. 2555 สมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย และได้รับเลือกเป็นเลขาธิการพรรค ช่วงปลายปี 2555 ต่อมา และเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญในการ แสดงจุดยืนต่อต้าน คสช. เมื่อครั้งยึดอำนาจรัฐบาลเพื่อไทยสมัย “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”

 

 

กระทั่งเลือกตั้ง ทั่วไป พ.ศ. 2562 สมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 4 แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง เนื่องจากเพื่อไทยมี สส. มากกว่าจำนวน สส.พึงมี ตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ และถอยจากตำแหน่งเลขาธิการพรรค ต่อมาหลังเลือกตั้ง พ.ศ. 2566 เพื่อไทย รั้งอันดับ 2 “ภูมิธรรม” ถือเป็นคีย์แมนสำคัญ ในการเจรจาพลิกขั้ว จัดตั้งรัฐบาลส่ง “เศรษฐา ทวีสิน” เป็นนายกรัฐมนตรีและตนเองเป็น รองนายกฯ ควบรัฐมนตรีพาณิชย์ ต่อมา “เศรษฐา” พ้นตำแหน่ง “ภูมิธรรม” เคยรักษาการแทนนายกฯ มาแล้ว 2 วัน ก่อนที่กระบวนการเลือก “แพทองธาร”โดยสภาจะเสร็จสิ้นและ “ภูมิธรรม” ก็ยังได้รับความไว้วางใจ นั่งรองนายกฯ ควบ รัฐมนตรีกลาโหม ก่อนปรับ ครม.ล่าสุด โยกไปเป็นรองนายกฯ ควบรัฐมนตรีมหาดไทย และจะกลายเป็น “รักษาการนายกฯ”อีกครั้ง หลังเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณตนในวันนี้

 

 

 

 

 

 


 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube