“ดนุชา”เผยกองทัพจัดรถรับผู้ป่วยติดค้างกว่า800คนแล้ว
“ดนุชา” เผย กองทัพจัดรถรับผู้ป่วยโควิดติดอยู่บ้านพักกว่า 800 คนแล้ว นายกฯสั่งสธ. รับผิดชอบตรวจคัดกรองส่วนของผู้ประกันตน
นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เผยหลังประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับนายกรัฐมนตรี ในเรื่องการบริหารจัดการผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 และการกระจายวัคซีน ว่าช่วงเสาร์และอาทิตย์ที่ผ่านมา กองทัพได้มีการจัดรถและทีมแพทย์ไปรับผู้ป่วยที่ติดค้างอยู่บ้านพักกว่า 1,400 คน ได้เข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลกว่า 800 คนแล้ว โดยนายกรัฐมนตรีได้สั่งให้กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงแรงงาน รับผิดชอบตรวจคัดกรอง โดยส่วนของผู้ประกันตน กระทรวงแรงงาน ก็ได้ดำเนินการอยู่แล้ว โดยผู้ป่วยที่รับมาจะนำไปคัดกรองที่อินดอร์สเตเดี้ยม หัวหมาก ถ้าเป็นผู้ป่วยที่ไม่มีอาการจะถูกนำส่งโรงพยาบาลสนามที่จัดเตรียมไว้ ส่วนผู้ติดเชื้อที่เป็นสีเหลือง จะถูกนำส่ง Hospitel และสีแดง จะนำส่งรักษาที่โรงพยาบาล
ขณะที่การจัดหาวัคซีน ที่จะมีการพูดคุยกับภาคเอกชนในวันที่ 28 เม.ย.นี้ ซึ่งล่าสุดวัคซีนโควิด-19 ที่มีอยู่และจะเข้ามาในอีก 3 เดือน รวม 26 ล้านโดส เพียงพอที่จะฉีดให้ประชาชน 26 ล้านคน รวมกับวัคซีนชิโนแวค ที่จะเข้ามาอีก กว่า 1 ล้านโดส ดังนั้นขอให้มั่นใจอย่างน้อยจะฉีดวัคซีนให้ได้ 30 ล้านคน บวกกับวัคซีนทางเลือกที่จะจัดหาเข้ามาเพิ่ม ทั้งจอห์นสันแอนด์จอห์น ไฟเซอร์ และสปุตนิกวี โดยในส่วนที่จะพูดคุยกับภาคเอกชน คือการจัดหาสถานที่ฉีดวัคซีน ซึ่ง 3 เดือนข้างหน้าตั้งเป้าจะได้ฉีดอย่างน้อย 3 แสนโดส จึงต้องจัดหาพื้นที่ฉีดวัคซีนเพิ่มเติม และนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้จัดหาวัคซีนให้ได้ 100 ล้านโดส ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งภายในสิ้นปีจะฉีดได้ 50 ล้านคน ซึ่งอาจจะมีทั้งผู้ที่ได้รับการฉีดเข็มแรก และฉีดครบทั้งสองเข็ม
ทั้งนี้นายดนุชา กล่าวอีกว่า นอกจากมี ศบค.ที่จะแก้สถานการณ์โควิดแล้ว แต่จะต้องมีคณะกรรมการบริหารจัดการวัคซีนด้วย โดยเรียกว่าซิงเกิ้ลคอมมาน ที่อยู่ภายใต้ ศบค.เพื่อให้การบริหารจัดการฉีดวัคซีนให้กับคนไทยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนที่จะให้ธนาคารกรุงไทย ที่จะเข้ามาช่วยเหลือในการลงทะเบียน จะเป็นการสำรวจความต้องการฉีดวัคซีน เพราะธนาคารกรุงไทยมีระบบฐานข้อมูล แต่แอพพลิเคชั่นหมอพร้อม จะมีแต่ข้อมูลที่อยู่ในสถานพยาบาล
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news





