“ภูมิธรรม” ยันเขมรต้องปรับกำลัง ถอนทหารก่อนเปิดด่าน
“ภูมิธรรม” รับ มทภ.2 ชงปิดปราสาทตาเมือนธม เสนอ สมช.หากสถานการณ์ไม่สู้ดี เผย สั่งมท.ดูหลุมหลบภัยรับอาวุธหนัก ยันจุดยืนปรับกำลังก่อน เปิดด่านต้องพร้อมกัน
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชา ขึ้นมาเที่ยวปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ มากผิดปกติจนเป็นนัยสำคัญ ว่า อำนาจการพิจารณาปิดจุดท่องเที่ยวตาเมือนธม อยู่ที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. ในขณะที่รัฐบาลก็กำกับดูแล เมื่อมีอะไรเกิดขึ้นรัฐบาลรับรู้ทั้งหมด ซึ่งทางนายกรัฐมนตรีในฐานะประธานสมช.มอบอำนาจให้กองทัพ ในการพิจารณา มาตรการเปิด – ปิดด่านใน 4 ขั้นตอน เพราะมองว่าทหารอยู่ด่านหน้า สามารถพิจารณาสถานการณ์ได้ว่ามีความรุนแรงมากน้อยแค่ไหน
เมื่อถามว่าอำนาจในการตัดสินใจ ที่จะไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปบนปราสาทตาเมือนธม เป็นของทหารในพื้นที่ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า เป็นไปตามปกติ เรายังไม่ได้มีการห้ามหรือไม่ห้าม และประสาทตาเมือนธมที่ผ่านมาขึ้นมาได้ทั้งสองฝ่าย ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่กำหนดไว้ และขณะนี้ยังไม่ได้มีเงื่อนไขอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ยกเว้นแต่มีคำสั่ง แม่ทัพภาคที่ 2 จะต้องเป็นผู้ตัดสินใจ
และเชื่อว่าทางทหารจะสามารถดูแลสถานการณ์ในพื้นที่ได้ แม้ปัจจุบันจะมีชาวกัมพูชา และไทย ขึ้นไปเที่ยวบนปราสาทตาเมือนธม เพราะเมื่อครบกำหนดเวลาเขาก็กลับไปตามปกติ แต่ทั้งนี้กองทัพภาคที่ 2 จะต้องพิจารณาตามสถานการณ์ความเป็นจริงว่าควรจะปิดการท่องเที่ยวปิดการท่องเที่ยวไปก่อนหรือไม่ พร้อมทั้งทำเรื่องผ่านกองทัพบก มาอย่างรัฐบาลเพื่อที่จะนำเข้าที่ประชุมสมช.
เมื่อถามว่าสุดท้ายจะต้องให้สมช.และรัฐบาลเป็นผู้อนุมัติใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม ย้ำว่า เป็นไปตามขั้นตอน อำนาจอยู่ตรงนี้ก็ให้ไปดู หากจะทำเลยก็สามารถทำได้
เมื่อถามว่าได้มีการประเมินสถานการณ์หรือไม่ ไปหลังมีการยกระดับมาตรการผ่านด่านเข้มข้นขึ้น และสถานการณ์ในพื้นที่มีความตึงเครียดมากน้อยเพียงใด นายภูมิธรรม ระบุว่า ประชาชนตามแนวชายแดน ไม่ถึงขนาดตึงเครียดจนหน้ากังวลใจ ซึ่งทางกระทรวงมหาดไทยได้ไปสำรวจหลุมหลบภัย ไว้เรียบร้อยหมดแล้ว? แต่สามารถกันอาวุธได้บางส่วน ไม่แน่ใจว่าหากเป็นอาวุธหนัก จะสามารถป้องกันได้หรือไม่
จึงได้เร่งให้ทางมหาดไทยไปจัดการ เพื่อเสริมความแข็งแรงของหลุมหลบภัยให้มากยิ่งขึ้น
ส่วนกรณีที่ทหารกัมพูชา มีการเพิ่มเติมกำลังและอาวุธหนักเข้าประชิดพื้นที่ชายแดนมีนัยอะไรหรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า สำหรับในส่วนของกองทัพ เราเตรียมความพร้อมไว้ทุกเรื่องแล้ว
และเชื่อว่ากำลังที่มีอยู่เพียงพอที่จะรับสถานการณ์
เมื่อถามถึงกรณีที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ออกมาระบุว่า นายภูมิธรรม เซ็นรับรองให้ทหารกัมพูชา เข้ามาอยู่ในปราสาทตาเหมือนธม ในการประชุม คณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ GBC ครั้งล่าสุด นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนยังไม่ได้ไปเซ็นอะไร ทุกอย่างทำตาม MOU 43 ซึ่งขณะนี้ยังมีขั้นตอน การประชุมคณะกรรมการส่วนภูมิภาค ไทย-กัมพูชา (RBC) ซึ่งทางกัมพูชา รอสมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชาอนุมัติ พร้อมกับขอนายสมชัย อย่าพูดอะไรบนพื้นฐานที่ไม่ได้อยู่บนข้อเท็จจริง
เมื่อถามถึงกรณีที่นายฮุนมาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เสนอให้ไทยเปิดด่านชายแดนก่อน แล้วกัมพูชาจะเปิดตามใน 5 ชั่วโมง แล้วค่อยหารือเรื่องการปรับกำลัง นายภูมิธรรม ระบุว่า เรามีเงื่อนไข
และข้อเสนอที่วางไว้ คือลดการเผชิญหน้า ตลอดแนวชายแดน ให้มีการปรับกำลังทั้งสองฝ่าย รวมถึงการเปิดด่านชายแดนทั้งหมด เพื่อให้เข้าสู่สภาวะปกติ ซึ่งการดำเนินการเหล่านี้จะต้องทำไปพร้อมกัน ทั้ง 2 ประเทศ
โดยการกำหนดวัน-เวลา ซึ่งทางฝั่งกัมพูชาบอกว่าอำนาจทุกอย่างอยู่ที่สมเด็จฮุนเซนเพียงคนเดียว ซึ่งก็ยอมรับว่าได้มีการเสนอเงื่อนไขตามนั้นจริง? ซึ่งในส่วนของเรา บอกว่าเป็นไปไม่ได้
จุดยืนของเราต้องดำเนินการคือให้มีการปรับกำลังก่อน แล้วค่อยเปิดด่านพร้อมกัน จะมาบอกว่าคุณเปิดก่อนเราเปิดก่อนคงไม่ได้ เพราะตอนนี้มันมั่วไปหมดแล้ว ก็ควรจะทำให้พร้อมกัน
นายภูมิธรรม ย้ำว่า การที่ไทยจะทำอะไรนั้น ต้องคำนึงถึงสายตานานาประเทศด้วย เพราะเราเป็นประเทศที่ใหญ่กว่า เพื่อป้องกันข้อครหาว่าเรารุกรานเขา ในขณะเดียวกันเราก็ยังยืนอยู่ ในการประชุม RBC ที่จะเกิดขึ้น
เมื่อถามว่าเป็นหน้าที่ของรัฐบาล ที่จะต้องไปพูดคุยกับสมเด็จฮุนเซน เพื่อให้ได้ข้อยุติ ในเรื่องการเปิดด่านพร้อมกันใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็ไม่ถูกเสียทีเดียว การจะเปิดด่าน เป็นเรื่องของที่ประชุม RBC ส่วนที่กัมพูชาปิดประตูตายจะไม่ประชุมนั้น มองว่ามันสามารถพูดคุยกันได้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





