ชาวกัมพูชาแห่กลับประเทศ ด่านช่องสะงำ-ฝั่งเขมรปิดไล่กลับ
ด่านชายแดนถาวร ช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ วุ่นวายแต่เช้า หลังชาวกัมพูชาจำนวนมากรอข้ามกลับประเทศ แต่กลับเจอด่านฝั่งกัมพูชาปิดประตูเงียบ ไล่ให้ไปข้ามที่ช่องจอมแทน สร้างความไม่พอใจประชาชนที่ตกค้างในฝั่งไทย
บรรยากาศที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ ตำบลไพรพัฒนา อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ ว่า ได้เกิดเหตุวุ่นวายขึ้น หลังจากมีชาวกัมพูชาจำนวนมากเดินทางมารอข้ามแดนกลับบ้านที่ประเทศกัมพูชา แต่ทางฝั่งกัมพูชายังไม่เปิดด่าน โดยให้รอคำสั่งจากผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรมีชัย ประเทศกัมพูชาเท่านั้น หลายรายเป็นผู้ป่วยที่เพิ่งรักษาตัวจากโรงพยาบาลในไทย และคนขับรถบรรทุกสินค้าที่ลำเลียงพริกสด เข้าฝั่งไทยและต้องการกลับประเทศ แต่ไม่สามารถเดินทางกลับได้
ด่านฝั่งไทย ได้มีการเปิดประตูด่านในเวลา 08.20 น. ซึ่งล่าช้ากว่ากำหนดเดิมที่ประกาศไว้คือ 08.00 น. โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยชี้แจงว่า การเปิดล่าช้านั้น เนื่องจากต้องรอการยืนยันจากหน่วยทหารในพื้นที่ว่า จะมีประกาศ เปลี่ยนแปลงการเปิด-ปิดด่านหรือไม่ ก่อนจะได้รับยืนยันว่าไม่มีคำสั่งเปลี่ยนแปลง จึงดำเนินการเปิดด่านตามปกติ
อย่างไรก็ตาม เมื่อเปิดด่านฝั่งไทยแล้ว ชาวกัมพูชากลับไม่สามารถข้ามแดนได้ เนื่องจากด่านฝั่งประเทศ กัมพูชายังคงปิดประตู และไม่มีการอนุญาตให้บุคคลผ่านเข้าออก โดยอ้างว่าต้องรอคำสั่งจากผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา
“สะรีรอด” ชาวกัมพูชาจากจังหวัดเสียมเรียบ เปิดเผยว่า ตนพาพี่สาวมารักษาตัวที่โรงพยาบาลฝั่งไทยได้ 3–4 วัน และตั้งใจจะเดินทางกลับประเทศในวันนี้ แม้จะทราบว่าด่านฝั่งกัมพูชาปิด แต่ก็ยังมีความหวังว่าจะมีการเจรจา ระหว่างเจ้าหน้าที่ทั้งสองประเทศเพื่อให้สามารถเดินทางกลับได้ หากไม่สามารถข้ามกลับได้จริง ๆ ก็อาจต้องอยู่ที่ประเทศไทยต่อไปอีกระยะหนึ่ง
“เปา จูมจันทร์ที” ชาวกัมพูชาอีกคน กล่าวว่า เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ตนได้เดินทางไปหาหมอที่จังหวัดสุรินทร์ และตั้งใจจะเดินทางกลับบ้านวันนี้ เนื่องจากได้รับข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ฝั่งกัมพูชาว่าจะเปิดด่านในวันจันทร์ จึงเดินทางมารอที่ช่องสะงำ แต่พบว่าด่านฝั่งกัมพูชายังปิดอยู่ จึงไม่สามารถข้ามกลับไป
“ถ้าด่านยังปิดแบบนี้ ประชาชนที่ทำมาค้าขายข้ามแดนจะลำบากมาก เพราะแต่ละคนเคยใช้เส้นทางนี้ในการค้าขาย แลกเปลี่ยนสินค้าเป็นประจำ” คุณเปากล่าว พร้อมทั้งแสดงความกังวลว่า หากสถานการณ์ชายแดนตึงเครียดมากกว่านี้ อาจเกิดเหตุอพยพประชาชน ซึ่งจะสร้างความเดือดร้อนอย่างยิ่ง
ขณะเดียวกัน ยังมีรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ 22 ล้อ สัญชาติกัมพูชาจำนวน 6 คัน จอดรออยู่ที่หน้าด่าน เพื่อรอข้ามกลับประเทศ หลังจากขนส่งพริกสดจากกัมพูชามาส่งที่จังหวัดอุบลราชธานี
และเตรียมเดินทางกลับ
เวลา 09.10 น. เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยได้เข้าพูดคุยเจรจากับเจ้าหน้าที่ด่านฝั่งกัมพูชาเพื่อขอเปิดทางให้ประชาชนกลับบ้าน แต่ทางฝั่งกัมพูชาให้คำตอบว่า ยังไม่สามารถเปิดได้จนกว่าจะได้รับคำสั่ง
อย่างเป็นทางการจากผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา
ต่อมาเวลา 09.45 น. กลุ่มชาวกัมพูชาที่อยู่ในฝั่งไทยได้เดินทางเข้าไปเจรจากับเจ้าหน้าที่กัมพูชาโดยตรง แต่กลับถูกปฏิเสธอย่างไม่สุภาพ และถูกสั่งให้เดินทางไปข้ามที่ด่านช่องจอม จังหวัดสุรินทร์แทน บางรายยังถูกต่อว่าด้วยถ้อยคำรุนแรง สร้างความไม่พอใจให้กับประชาชนและนักข่าวที่อยู่ในพื้นที่
สถานการณ์ล่าสุดยังไม่มีคำสั่งเปิดด่านจากฝั่งกัมพูชา ทำให้ชาวกัมพูชาจำนวนมากยังคงตกค้างอยู่ฝั่งไทย บางส่วนหาทางเดินทางไปยังช่องจอมแทน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





