Home
|
ข่าว

4 แม่ทัพ 3 ผบ.ทบ. รบกัมพูชา ปกป้องอธิปไตยไทย

 

4 แม่ทัพ 3 ผบ.ทบ. นำทัพสู้ศึกชายแดนกัมพูชา ต่อสู้ยืนหยัดปกป้องอธิปไตยไทย

 

นับตั้งแต่มี MOU 43 มาเป็นเวลา 25 ปี ไทยยึดมั่นปฏิบัติตามมาโดยตลอด แต่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงซ้ำแล้วซ้ำเล่า หลายร้อยครั้ง ตามที่ พล.ต.ณัฐ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาค 2 เคยชี้แจงไปแล้ว และมีหลายครั้งที่เกิดการปะทะ ต่อสู้ สูญเสียกันทั้ง 2 ฝ่าย ต้องชื่นชม แม่ทัพภาค 2 ในแต่ละยุค แต่ละสมัย ที่ต่อสู้รักษาอธิปไตย ผลักดันทหารเขมรออกไปจากแผ่นดินไทยได้ทุกครั้ง

 

แม่ทัพคนแรกในศึกกับเขมร หลังมี MOU 43 คือ พลโท วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล ที่รับตำแหน่งได้ 3 วัน โดยมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา เป็น ผู้บัญชาการทหารบก ก็เกิดเหตุปะทะกัมพูชา วันที่ 3 ต.ค. 2551 บริเวณภูมะเขือและช่องอานม้า ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ปะทะกันประมาณ 20 นาที ทหารกัมพูชาได้ล่าถอยไป โดยทั้ง 2 ฝ่ายต่างอ้างว่า อีกฝ่ายรุกล้ำเขตแดน ถัดมา วันที่ 15 ต.ค. 2551 ทหารกัมพูชา โจมตีทหารไทยด้วยอาวุธปืน และเครื่องยิงจรวด อีกครั้ง บริเวณใกล้ภูมะเขือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ

 

กองทัพภาค 2 ภายใต้ การนำของ พลโท วิบูลย์ศักดิ์ และมี พล.ต.กนก เนตระคเวสนะ ผู้บัญชาการ กองกำลังสุรนารี ก็ต่อสู้ปกป้องอธิปไตยไว้ได้เช่นเดิม และกระทรวงการต่างประเทศของไทย ได้เรียกอุปทุตกัมพูชาประจำประเทศไทยเข้าพบเพื่อประท้วงการกระทำดังกล่าว จากนั้น เดือน เม.ย.2552 ก่อน พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ จะพ้นจากตำแหน่ง 4 เดือน ก็ยังเกิดเหตุปะทะต่อสู้กับเขมรอีกครั้ง บริเวณภูมะเขือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ และสามารถผลักดันเขมรกลับไปได้เช่นเดิม

 

แม่ทัพ คนต่อมา ที่ต่อสู้กับกัมพูชา คือ พลโท วีร์วลิต จรสัมฤทธิ์ แม่ทัพภาค 2 ที่รับไม้ต่อจาก พลโทวิบูลศักดิ์ โดยที่ ผบ.ทบ.ยังคงเป็น”บิ๊กป็อก” เช่นเดิม เหตุเกิด วันที่ 24 ม.ค. 2553 ปะทะกันบริเวณหนองใหญ่ หัวเขื่อนห้วยขนุน ต.ภูผาหมอก อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ โดยกัมพูชาอ้างว่าฝ่ายไทยรุกล้ำอาณาเขตของกัมพูชา แต่ฝ่ายไทยโต้แย้งยืนยันว่าบริเวณดังกล่าวเป็นดินแดนของไทย และทหารไทยไปพบขบวนการ ลักลอบตัดไม้พะยูงที่ข้ามแดนเข้ามาตัดไม้ในฝั่งไทย จึงต่อสู้ผลักดันออกไป และเป็นการปะทะกันครั้งเดียวของ ในยุคของ พลโทร วีร์วลิต ก่อนส่งไม้ต่อให้คนใหม่

 

คนที่ 3 ที่นำทัพภาค 2 ต่อสู้กับกัมพูชา คือ พลโทธวัชชัย สมุทรสาคร โดยมีการต่อสู้กัน ในช่วงวันที่ 4 – 7 ก.พ. 2554 เป็นการปะทะครั้งรุนแรง ทหารกัมพูชาใช้ปืนใหญ่ โจมตีฐานทหารไทย บริเวณภูมะเขือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ยิงถล่มบริเวณปราสาทพระวิหาร และฐานทหารไทย ใกล้ผามออีแดง รวมถึงมีกระสุนปืนใหญ่ไปตกในหมู่บ้านภูมิซรอล จ.ศรีสะเกษ ซึ่งทหารไทยก็ตอบโต้ กดดันจนทหารกัมพูชา ต้องหยุดยิง และถอยร่นไป ก่อนที่ 2 เดือนถัดมา พลโทธวัชชัย ได้นำกองทัพภาค 2 ต่อสู้กับกัมพูชาผู้บุกรุกอีกครั้ง 22 เม.ย. – 3 พ.ค. 2554 มีการปะทะสู้รบกันอย่างรุนแรงอีก บริเวณปราสาทตาเมือนธม – ปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ และบริเวณ อ.บ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์

 

ในครั้งนั้น “ฮุน มาเนต” นายกฯกัมพูชาคนปัจจุบัน มาบัญชาการรบด้วยตัวเอง ส่วนฝั่งไทย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นผู้บัญชาการทหารบก สั่งแม่ทัพภาค 2 เพื่อนรัก พลโทธวัชชัย อย่าหยุดยิงปืนใหญ่จนกว่า กัมพูชา จะหยุดยิง สร้างความเสียหาย ให้กับทหารกัมพูชาเป็นอย่างมาก และหลังจากนั้น ทหารกัมพูชา ก็ไม่ปะทะกับทหารไทยอีกกว่า 10 ปี

 

กระทั่งถึงยุค พลโท บุญสิน พาดกลาง เป็นแม่ทัพภาค 2 ในปี 2568 และมี พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ เป็นผู้บัญชาการทหารบก ทหารกัมพูชายั่วยุ ด้วยการนำพลเรือนมาทำกิจกรรมร้องเพลงชาติ บริเวณปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ เกิดเหตุเพลิงไหม้ศาลาตรีมุข บริเวณสามเหลี่ยมมรกต ใกล้ช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ทหารกัมพูชา ขุดคูเลต รุกล้ำพื้นที่ จนเกิดการปะทะกัน เมื่อ 28 พ.ค. และทำให้สถานการณ์ชายแดน ไทยกัมพูชา ตลอดแนวกว่า 800 กม.ตึงเครียด มีการเสริมกำลังทหาร 2 ฝ่าย ตามแนวชายแดนขนอาวุธหนักมาประจำการ ควบคุมการเปิด-ปิด ด่านอย่างเข้มงวด มีการยั่วยุ ข่มขู่ กดดันผ่านโซเชียลมีเดีย

 

 

จาก “2 พ่อลูกตะกูลฮุน” ผู้นำกัมพูา อย่างต่อเนื่อง รวมถึงฟ้องศาลโลก ยึด 4 พื้นที่พิพาท โดยที่ยังไม่มีวีแวว ความตึงเดรียดชายแดน 2 ประเทศจะสิ้นสุดลงเมื่อใด แต่จุดยืนของไทยนั้นชัดเจนมาก ยึดสันติวิธี ปกป้องอธิปไตย ไม่ยอมเสียดินแดนอย่างเด็ดขาด

 

 


 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube