ศรัทธา”อิ๊งค์”ลดฮวบ สู้ศึกเขมร
ศรัทธา “อิ๊งค์” สะเทือน! คะแนนนิยมลดฮวบ ปมรับมือศึกเขมรประชิดชายแดน
อุณหภูมิการเมืองไทยร้อนแรงขึ้นอย่างมาก ทั้งจากประเด็นการปรับคณะรัฐมนตรี เชื่อมโยงกับเสถียรภาพของรัฐบาล รวมถึงประเด็นชั้น 14 ของอดีตนายกรัฐมนตรี “ทักษิณ ชินวัตร” และล่าสุดกับบทบาทท่าทีของนายกรัฐมนตรี “แพทองธาร ชินวัตร” ที่ดูจะขัดใจประชาชน กับการดำเนินการอย่างไม่เด็ดขาดและไม่แข็งกร้าวต่อกัมพูชา
ทั้งนี้ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ได้คุยกับ “รศ.สุขุม นวลสกุล” อดีตอธิการบดี มหาวิทยาลัยรามคำแหง ในประเด็นดังกล่าว โดย “รศ.สุขุม” กล่าวว่า วันนี้รัฐบาล “แพทองธาร” ขาดเอกภาพ ทำให้ประชาชนไม่ศรัทธาในตัวรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี ยกตัวอย่างเช่น การดำเนินการกับกัมพูชานั้น ประชาชนฟังกองทัพมากกว่า
“รัฐบาลมันขาดเอกภาพ แล้วก็รัฐบาลคล้ายๆกับคนไม่ศรัทธาเท่าไหร่ เพราะฉะนั้น อย่างเรื่องเขมร คนเค้าฟังกองทัพมากกว่าซะอีก ตรงนี้ผมว่ารัฐบาลถ้าไม่ตัดสินใจทำอะไรสักอย่าง ทั้งเสถียรภาพและเอกภาพ คนไม่เชื่อว่ามี”
“รศ.สุขุม” กล่าวอีกว่า วันนี้ กัมพูชาพลิกเกมเก่ง และเล่นบทได้เหนือกว่าไทย ดังนั้นหากรัฐบาลและกองทัพไม่เป็นเอกภาพ ก็กระทบกับความเชื่อมั่นของประชาชนได้
“แต่ว่าที่แน่ๆ ก็คือตามเขมรอยู่ตลอด เค้าพลิกเกมเก่งทางเขมร พูดกันตรงๆว่า เกมเค้า เค้าเล่นได้เหนือกว่า ตัวอย่างเช่นเราบอกว่า เราจะปิดด่าน ยังไม่ทันได้ปิด เค้าปิดก่อน เราเป็นฝ่ายแก้เกมตลอด ทีนี้การแก้เกมมันไม่เป็นเอกภาพ มันก็แก้ยาก นายกฯ พูดอย่าง กองทัพไปอีกทาง อะไรอย่างนี้ แล้วทีนี้ความไม่เชื่อถือของผู้คน ต่อความสัมพันธ์ระหว่างสองสกุลนี้ ในก็มีอยู่ มันก็เลยทำให้ยิ่งหนักเข้าไปอีก”
นอกจากนี้ “รศ.สุขุม” ยังได้กล่าวถึงศรัทธาของประชาชนที่มีต่อนายกรัฐมนตรี “แพทองธาร” ด้วยว่า มีแต่ลดลง และวันนี้ เวลาคนมองนายกรัฐมนตรี เค้าก็มองไปที่พ่อนายกฯมากกว่า ที่มีอำนาจในการตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ
“ตัวนายกฯ คนไปมองที่พ่อนายกฯ ว่ามีอำนาจที่แท้จริงอยู่ตรงโน้น เพราะฉะนั้นนายกฯนำเสนออะไร มันก็ไม่มีน้ำหนัก ยกตัวอย่างเช่น นายกฯพูดเหมือนไม่อยากปรับครม. แต่ว่าพ่อนายกฯอยากปรับ แล้วก็พูดไปแล้วด้วย คนก็เชื่อว่า ที่มันช้าไป ช้ามา ก็เพราะว่าตัวรัฐบาลเองไม่กล้า”
ขณะที่ ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส ระบุในบทวิเคราะห์ไว้อย่างน่าสนใจต่อประเด็นการเมืองไทย เชื่อมโยงกับความเชื่อมั่นในตลาดหุ้น โดยระบุว่า ตลอดระยะเวลา 1 เดือน ความไม่แน่นอน เรื่องการเมืองไทย เป็นส่วนสำคัญกดดันให้มูลค่าซื้อขายหุ้นไทยเบาบางในช่วงนี้เหลือ 2- 3 หมื่นล้านบาทต่อวันพร้อมกับฉุดให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงต่ำสุดในโลก 6.8% กดดันให้ปีนี้ SET INDEX ลบ 19.4%YTD ต่ำสุดเป็นอันดับ 2 ของโลก
ดังนั้นประเด็นในประเทศที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง และตลาดหุ้นไทยก็มีความอ่อนไหวต่อข่าวการเมืองอยู่แล้ว ตามสถิติในอดีต อาจทำให้เกิดความผันผวนระยะสั้น จากการขาดความเชื่อมั่นของนักลงทุน กดดันมูลค่าการซื้อขายหายไปอย่างมีนัยสำคัญ และอาจกินระยะเวลาหากมีการชุมนุมหรือความเคลื่อนไหวทางการเมืองนอกสภาตามมา
จากนี้ต่อไปจะต้องจับตาประเด็นการเมืองไทยรอบด้านอย่างใกล้ชิด นั่นเพราะหากไม่มีเสถียรภาพทางการเมือง ในช่วงถัดไป ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นทางด้านนโยบายเศรษฐกิจ รวมถึงพรบ.งบประมาณปี 2569 ที่อาจจะมีความล่าช้ามากขึ้นนั่นเอง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





