Home
|
ข่าว

ตรวจยึดกากโลหะหนักกว่า 7 แสนกก. ลักลอบเข้าไทย

Featured Image
รัฐเข้ม! ตรวจยึดกากโลหะหนักกว่า 7 แสนกก. ลักลอบเข้าไทย พร้อมผลักดันออกนอกประเทศ ปกป้องสิ่งแวดล้อมและสุขภาพประชาชน

 

นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามนโยบายของรัฐบาลและข้อสั่งการของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำการป้องกัน และปราบปรามการนำเข้าของเสียอันตราย เพื่อความปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมและประชาชน โดยได้สั่งการให้กรมศุลกากรเฝ้าระวังการลักลอบนำเข้าสินค้าที่เข้าข่ายของเสียอันตรายภายใต้ อนุสัญญาบาเซล ส่งผลให้เกิดความร่วมมือระหว่างกรมศุลกากร โดยกรมโรงงานอุตสาหกรรม กรมสอบสวนคดีพิเศษ และการท่าเรือแห่งประเทศไทย ได้ควบคุมการนำเข้าสินค้าของเสีย อันตรายภายใต้อนุสัญญาบาเซล

 

โดยได้มีการตรวจสอบตู้สินค้าตกค้างระบุในใบตราส่งสินค้าเป็น ZINC CONCENTRATE จำนวน 36 ตู้คอนเทนเนอร์ น้ำหนัก 736,425 กิโลกรัม ประเทศต้นทางโมร็อกโก ซึ่งจากตรวจสอบโดยเครื่อง X-ray fluorescence หรือ XRF พบปริมาณธาตุโลหะหลักเป็นสังกะสี 32.2% เหล็ก 13.5% และมีการปนเปื้อนของโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว 1.24% แคดเมียม 890 ppm และพลวง 540 ppm ซึ่งเข้าข่ายเป็นของเสียอันตรายตามอนุสัญญาระหว่างประเทศที่ควบคุมการเคลื่อนย้ายของเสียอันตรายข้ามแดน

 

ทั้งนี้ กรมศุลกากรได้ดำเนินการผลักดันสินค้าดังกล่าวออกนอกประเทศ โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการป้องกันไม่ให้สินค้าอันตรายเข้ามาในประเทศ ตามอนุสัญญา ระหว่างประเทศที่ควบคุมการเคลื่อนย้ายของเสียอันตรายข้ามแดน เพื่อป้องกันการถ่ายโอนของเสียอันตรายจากประเทศพัฒนาแล้วไปยังประเทศกำลังพัฒนา

 

ทั้งนี้ สถิติการจับกุมการนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษพลาสติก สังกะสีออกไซด์ ในปีงบประมาณ 2568 (1 ตุลาคม 2567 – 9 มิถุนายน 2568) แบ่งเป็น ขยะอิเล็กทรอนิกส์ จับกุมได้ 37 ราย จำนวน 505,073 กิโลกรัม เศษพลาสติก จับกุมได้ 13 ราย จำนวน 445,122 กิโลกรัม สังกะสีออกไซด์ จับกุมได้ 2 ราย จำนวน 499,649 กิโลกรัม รวมปริมาณเกือบ 1.5 ล้านกิโลกรัม

 

“รัฐบาลมุ่งมั่นในการปกป้องชีวิต สุขภาพ และสิ่งแวดล้อมของพี่น้องประชาชนอย่างถึงที่สุด การลักลอบนำเข้าของเสียอันตรายไม่เพียงแต่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังส่งผลระยะยาว ต่อสุขภาพของคนไทยทุกคน รัฐบาลจะไม่ยอมให้ประเทศไทยกลายเป็นแหล่งทิ้งของเสียจากต่างประเทศ”

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube