บุกค้นแฟลตตํารวจ จับหมอสาวคนดัง จําหน่าย “ยาเสียสาว”
สธ. ร่วม ตํารวจ และ อย. ตรวจค้นแฟลตตำรวจ จับกุมแพทย์หญิงสังกัดโรงพยาบาลตำรวจ สั่งซื้อยาเสียสาว ขายนอกระบบตั้งแต่ปี 65 อ้างชื่อ 11 คลินิก เงินหมุนเวียนกว่า 80 ล้านบาท เร่งขยายผลต่องเนื่อง
วันนี้(10 มิ.ย. 68) นายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายวิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองประธานคณะทำงานปราบปรามยาเสพติด กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจค้นภายในอาคารที่พักข้าราชการตํารวจแห่งหนึ่ง ย่านอารีย์ เขตพญาไท กรุงเทพฯ หลังพบความผิดปกติในการสั่งซื้อยา “อัลปราโซแลม“ หรือยานอนหลับที่รู้จักกันในชื่อ “ยาเสียสาว”
โดยแนวทางการสืบสวนสอบสวน พบว่า หมอคนดังซึ่งมียศ ”พันตํารวจเอกหญิง“ สังกัดโรงพยาบาลตํารวจ ได้สั่งซื้อยาจาก อย. ตั้งแต่ปี 2565-2568 จำนวน 15 ล้านบาท ต่อมาทาง อย. เห็นความผิดปกติ จึงมีการพูดคุยกับทางตำรวจและตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบมีการแอบอ้าง 11 คลินิกในการสั่งซื้อยาพบเงินหมุนเวียนสูงถึง 80 ล้านบาท โดยแพทย์หญิงคนดังกล่าวเป็นคนสั่งซื้อและจ่ายเงินเพียงคนเดียว
สําหรับในจุดนี้ทีมีการตรวจค้นพบว่าเป็นอาคารที่พักของราชการตำรวจ ภายในห้องพักมีการเก็บยาของกลางไว้จำนวนมาก พบผู้ดูแล 1 คน เป็นบุคคลธรรมดา จึงมีการควบคุมตัวไว้สอบปากคำ ส่วนแพทย์หญิงเจ้าของห้อง สามารถจับกุมได้ที่บ้านพักคุมตัวไว้สอบปากคำแล้วเช่นกัน โดยยาที่พบในห้องเป็นวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 และประเภท 4 ที่กำกับดูแลโดย อย. หากใช้ผิดวิธีจะเป็นอันตรายต่อสังคม
ด้าน พล.ต.อ.สุชาติ ระบุว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการรวบรวมพยานหลักฐาน จนทราบว่า มีการซื้อขายนอกระบบ โดยให้บุคคลภายนอกเข้ามาพักอาศัยภายในอาคารที่พักราชการและจำหน่ายยา นอกจากนี้ยังมีพยานทางนิติวิทยาศาสตร์ทั้ง DNA ของบุคคลที่สัมผัสกับอุปกรณ์ยา และข้อมูลยาที่สั่งซื้อจาก อย. สามารถเช็คได้ตั้งแต่การสั่งซื้อ การจ่ายเงิน และการส่งยา ซึ่งมั่นใจว่าหลักฐานแน่นสามารถเอาผิดได้
เบื้องต้นมีความผิดทั้งทางวินัยและอาญา ในการให้สิทธิ์ที่พักอาศัยแก่บุคคลภายนอก ,ความผิดตามมาตรา 157 , ร่วมกันครอบครองและจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 และ 4 ซึ่งมีโทษแบบเดียวกันกับคดียาเสพติด และเข้าข่ายความผิดมูลฐานฟอกเงินซึ่งจะมีการติดตามยึดทรัพย์สินต่อไป ในส่วนของใบประกอบวิชาชีพจะมีการยื่นให้ทางแพทยสภาในการพิจารณาลงโทษ
อย่างไรก็ตามเบื้องต้นทั้ง 11 คลินิกดัวกล่าวมีเจ้าของหลายคน ซึ่งต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งว่ามีหมอหรือพยาบาลคนใดมีส่วนร่วมวนการกระทําความผิดด้วยอีกหรือไม่ โดยในพรุ่งนี้จะมีการค้นคลินิกทั้ง 11 แห่ง และจะมีการแถลงข่าวความชัดเจนอีกครั้งที่กองบังญชาการตํารวจปราบปรามยาเสพติด
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ ระบุว่า เบื้องต้นการกระทําความผิดของแพทย์หญิงรายดังกล่าวนั้นไม่เกี่ยวข้องกับต้นสังกัดแต่อย่างใด
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





