“ภูมิธรรม” เผย เขมรถอยความสำเร็จการเจรจา “ฮุนเซน-ฮุนมาเนต”
“ภูมิธรรม” เผย เขมรยอมถอยเป็นความสำเร็จการเจรจา”ฮุนเซน-ฮุนมาเนต” โยนกองทัพพิจารณามาตรการปิดด่าน เชื่อสถานการณ์จะค่อยๆคลี่คลาย ย้ำถกJBCยึดกรอบเดิม ไม่มีคุย 3ปราสาท หวังความชัดเจนเส้นเขตแดน
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังกัมพูชายอมถอนกำลังออกจากจุดประทะ และกลับไปอยู่ ในจุดที่เคยอยู่เมื่อปี 2567 ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมาจากหลายปัจจัย และเป็นขบวนการที่พยายามพูดคุยกันทุกระดับ ตั้งแต่ระดับนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี จนไปถึงระดับกองทัพ โดยมีทูตทหารของไทยในกัมพูชาเป็นผู้ประสานงาน
ซึ่งการพูดคุยมีมาอย่างต่อเนื่อง จนมาถึงเมื่อวาน เวลาประมาณ 11.00 น. ซึ่งสมเด็จฯ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภา และอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ก็เห็นตรงกันว่าอยากหาข้อยุติ ที่เป็นสันติด้วยกัน เพราะการทำสงคราม มันไม่มีประโยชน์ ซึ่งตนได้แจ้งว่า ในฐานะที่เป็นรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมที่เป็นผู้รับผิดชอบการสั่งให้รบกันมันง่าย แต่ความสูญเสียจะเกิดขึ้นทั้งสองฝ่าย
ดังนั้น สิ่งสำคัญคือจะทำอย่างไรให้ทุกอย่างยุติโดยไม่เกิดความสูญเสีย สิ่งสำคัญคือ เราอยากลดการเผชิญหน้า ซึ่งจากการพูดคุยพบว่ามี มีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนทั้งสองฝ่าย จึงเหมือนว่าการคุยกันยังไม่ยุติจึงต้องพูดคุยกันใหม่ และตนได้แสดงจุดยืนของไทย เนื่องจากทางการกัมพูชามีการออกเอกสารชี้แจงมาก่อน
จากนั้นกองทัพกัมพูชาได้มีการประสานผ่านทางทูตทหารไทยว่าต้องการลงไปสำรวจพื่นที่ร่วมกัน ไทยจึงได้ส่งรองแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีความคุ้นเคยกับพื้นที่ และมีความสัมพันธ์ในระดับอันดีระหว่างกองทัพ เป็นตัวแทนไปพูดคุย ซึ่งฝั่งกัมพูชายอมตามข้อเสนอที่ต้องการให้มีการลงไปสำรวจพื้นที่พร้อมกัน และกลบคูเลตที่ได้ขุดไว้ รวมถึงขอให้ปรับกำลังไปอยู่ในจุดที่เคยอยู่ในปี 2567
ในขณะที่ไทยก็อยู่ในจุดเดิม ครั้งนี้ถือว่าเราประสบความสำเร็จ ในการยุติการเผชิญหน้า ซึ่งเป็นข้อแรกสุด ที่เราอยากได้เพื่อให้สถานการณ์ค่อยๆคลี่คลายลง ซึ่งตอนนี้ถือว่ายุติเรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้คือการเจรจา JBC ในวันที่ 14 มิ.ย.68 ซึ่งวาระการพูดคุยยังคงเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ซึ่งไทยอยากให้เคลียร์เรื่องเส้นแดนให้ชัดเจน
และจะประคองกันอย่างไรไปจนกว่าจะมีข้อตัดสินหรือจะใช้เงื่อนไขอะไรในการตัดสินใจ โดยเชื่อว่า หลังจากนี้บรรยากาศจะค่อยๆคลี่คลาย
ส่วนกรณีปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด และประสาทตาควาย นายภูมิธรรม กล่าวว่า คงจะไม่มีการนำไปพูดคุยในการเจรจา JBC แต่หากกัมพูชาหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมาเราก็พร้อมรับฟัง
ส่วนมาตรการปิดด่าน นายภูมิธรรม กล่าวว่าได้มีการพูดคุยกับแม่ทัพภาคที่ 1 แม่ทัพภาคที่ 2 และกองกำลังจันทบุรี ว่าจะใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก เพราะเราไม่ต้องการให้เสียเลือดเนื้อแม้แต่หยดเดียว ชีวิตประชาชนชายแดนทั้งสองฝั่ง และทหารของเรา เป็นสิ่งสำคัญเราอยากแก้ปัญหา แต่ไม่อยากใช้ความรุนแรงที่เกิดความเสียหาย จึงต้องขอบคุณกองทัพที่อดทนอดกลั้น และมีความเข้าใจมาโดยตลอด พร้อมให้ความร่วมมือประสานงานจนสำเร็จ
ซึ่งในส่วนของกระทรวงกลาโหม ได้มอบหมายให้พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นผู้ประสานงาน กับเหล่าทัพในทุกส่วน ในฐานะที่มีความผูกพันกัน ส่วนตนจะพูดเฉพาะเรื่องที่มีความสำคัญ หากเรื่องใดที่เป็นปัญหาก็ให้ตัดสินใจแล้วแจ้งมา ว่าจะแก้ไขอย่างไร ทั้งนี้ ต้องขอบคุณทุกภาคส่วนประชาชนทั้งสองประเทศ ที่ใช้ความอดทนอดกลั้นแม้จะมีอารมณ์ไปบ้าง แต่ทุกอย่างก็จบลงด้วยดี
นายภูมิธรรม ยังกล่าวถึงมาตรการปิดต่างชายแดน ว่าจะต้องการพิจารณาตามสถานการณ์ซึ่งตอนนี้ยังไม่ถือว่าปิดด่าน แต่แค่จำกัดเวลา และจำกัดคน ยังไม่กระทบต่อการค้าขาย โดยตั้งแต่ เมื่อวานจนถึงเมื่อคืนมีการรายงานสถานการณ์ให้นายกรัฐมนตรี ได้ทราบตลอด
เมื่อถามว่าความสำเร็จที่เกิดขึ้นเมื่อวานเกิดจากมาตรการปิดด่านหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า น่าจะมาจากหลายมาตรการ ไม่ใช่การปิดด่าน แต่สิ่งสำคัญ คือ การได้พูดคุยกันกับ สมเด็จฯ ฮุนมาเนต นายกรัฐมนตรี และสมเด็จฯ ฮุน เซน เมื่อมีความเข้าใจกันแล้ว จึงทำให้การประสานงานในระดับกองทัพเกิดขึ้น
เมื่อถามว่าการตรึงกำลังทหารบริเวณชายแดน ของกัมพูชา 10,000 คน จะมีการปรับลดลงหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ต้องรอดู แต่เชื่อว่ามันจะค่อยๆ คลี่คลาย แต่จะให้ปลดทันทีก็คงไม่ถูกในวิสัย ซึ่งแม้ว่าจะมีการตรึงกำลังจริง แต่ไม่มีสัญญาณของการปะทะ ก็คงมีแถวช่องบกกับ สามเหลี่ยมมรกต ที่ตอนนี้คลี่คลายลงแล้ว
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





