กษ.จับขาไก่เถื่อนกว่า 346 ตัน ลอบนำเข้าเก็บห้องเย็นสมุทรสาคร
กษ.จับขาไก่เถื่อนกว่า 346 ตัน ลอบนำเข้าเก็บห้องเย็นสมุทรสาคร เตรียมขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการ
นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการพิเศษพญาไท ด่านกักกันสัตว์เพชรบุรี ด่านกักกันสัตว์ชลบุรี ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) เข้าตรวจสอบห้องเย็นของบริษัทแห่งหนึ่งในพื้นที่หมู่ที่ 4 ตำบลนาดี อำเภอเมืองสมุทรสาครหลังได้รับข้อร้องเรียนว่า มีการลักลอบนำเข้าซากสัตว์ปีกชนิดขาไก่จากต่างประเทศ โดยไม่ได้รับอนุญาต

จากการสืบสวนในทางลับ พบว่าขาไก่ส่วนหนึ่?งมีต้นทางจากประเทศบราซิล ซึ่งยังพบการระบาดของโรคไข้หวัดนก และเมื่อเข้าตรวจสอบภายในห้องเย็น พบซากขาไก่จำนวนมากบรรจุในถุงและกล่อง ระบุแหล่งผลิตจากบราซิล ชิลี ตุรกี และเยอรมนี

เมื่อตรวจสอบข้อมูลบัญชีรับฝากของห้องเย็น พบว่ามีซากขาไก่รับฝากรวมทั้งสิ้น 346,390 กิโลกรัม หรือประมาณ 346.39 ตัน ซึ่งเข้าข่ายการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 มาตรา 22 และมาตรา 31
กรมปศุสัตว์จึงดำเนินการอายัดซากขาไก่ทั้งหมด พร้อมแจ้งความดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด และเตรียมประสานกรมศุลกากรเพื่อดำเนินการตามพระราชบัญญัติศุลกากรในความผิดที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งจะร่วมกับตำรวจสอบสวนกลางสืบสวนขยายผลหาผู้บงการและเครือข่ายการลักลอบนำเข้า
สำหรับซากขาไก่ของกลาง เจ้าหน้าที่ได้สุ่มเก็บตัวอย่างส่งห้องปฏิบัติการกรมปศุสัตว์ เพื่อตรวจหาเชื้อโรคอันตราย โดยเฉพาะเชื้อไข้หวัดนก เพื่อประเมินความเสี่ยงต่อสุขภาพสัตว์และความปลอดภัยของผู้บริโภค
ทั้งนี้ ปฏิบัติการดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของศาสตราจารย์ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายอิทธิ ศิริลัทยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่กำกับดูแลกรมปศุสัตว์ ให้เร่งปราบปรามการลักลอบนำเข้าสินค้าปศุสัตว์ผิดกฎหมาย เพื่อป้องกันโรคระบาดจากต่างประเทศ คุ้มครองผู้บริโภคในประเทศ และรักษาเสถียรภาพตลาดปศุสัตว์ไทยให้เป็นธรรมต่อเกษตรกร
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





