Home
|
ข่าว

ไทย ยื่นคำขาด ยุติการละเมิด MOU43 หยุดเสริมกำลังทหาร

Featured Image
“รัฐบาล-กองทัพ” แถลงร่วมกัน ยื่นคำขาด ยุติการละเมิด MOU43 หยุดเสริมกำลังทหาร ย้ำไม่ใช้กำลังก่อน แต่พร้อมตอบโต้เป็นขั้นบันได ยึดใช้มาตรการ ‘ควบคุม-ปิดด่าน’ โดยเฉพาะจุดใกล้บ่อนการพนัน

 

นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ, พ.อ.หญิงดังใจ สุวรรณกิตติ โฆษกกระทรวงกลาโหม และ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ร่วมกันแถลงข่าวสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งยังคงตึงเครียดอย่างต่อเนื่อง

 

นายนิกรเดช เปิดเผยว่า หลังเหตุการณ์เมื่อ 28 พ.ค. 2568 ฝ่ายไทยได้ใช้ความอดทนอย่างที่สุด และแสดงความจริงใจต่อกัมพูชา ด้วยการผลักดันให้ใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ โดยเฉพาะ JBC เพื่อควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ในวงจำกัด หลีกเลี่ยงการลุกลามที่กระทบประชาชน โดยเน้นสันติวิธีเป็นหลัก

 

วันที่ 5 มิ.ย. รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ทั้งสองประเทศได้หารือที่ จ.สระแก้ว ฝ่ายไทยเสนอให้ “ถอนกำลังกลับสู่ระดับปกติ” และ “เคารพแนวปฏิบัติร่วม” เพื่อป้องกันปะทะที่ไม่จำเป็น แต่ข้อเสนอกลับถูกฝ่ายกัมพูชาปฏิเสธทันที และมีการเสริมกำลังเพิ่มขึ้น รวมถึงการไม่ปฏิบัติตามบันทึกความเข้าใจ MOU43 ซึ่งเป็นหลักสำคัญของกลไกสันติภาพ ฝ่ายไทยจึงเห็นว่า จำเป็นต้องยื่นคำขาด และเดินหน้ามาตรการตอบโต้เป็นขั้นบันได โดยเริ่มจากการ “ควบคุม–ปิดจุดผ่านแดน” อย่างรอบคอบ

 

ตามมติสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เมื่อ 6 มิ.ย. 2568 รัฐบาลได้มอบหมายให้กองทัพบกเป็นแกนนำดำเนินการ โดยคำนึงถึงความมั่นคง ความปลอดภัย และผลกระทบต่อประชาชนทั้งสองประเทศ ฝ่ายไทยยืนยันจะ หลีกเลี่ยงการใช้กำลังทหาร แต่หากมีการละเมิดอธิปไตยหรือการกระทำที่ทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง ไทยจะดำเนินมาตรการอย่างเป็นระบบ และค่อยเป็นค่อยไป การควบคุม–ปิดด่าน มี 4 ขั้นตอน โดยเฉพาะ “การปิดจุดผ่านแดนที่ใกล้กับบ่อนการพนัน” ถือเป็นมาตรการสำคัญในระยะเร่งด่วน

 

ด้าน พล.ต.วินธัย ชี้แจงว่า กองทัพภาคที่ 1 และ 2, หน่วยบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ได้รับอำนาจดำเนินการร่วมกับหน่วยปกครองและตำรวจ โดยมีขั้นตอนดังนี้:

1. จำกัดบุคคลเข้า-ออก
– กลุ่มเป้าหมายคือผู้มีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น ผู้เดินทางไปเล่นการพนันข้ามแดน หรือเกี่ยวข้องกับกิจกรรมผิดกฎหมาย พร้อมกับเปิดทางให้กลุ่มจำเป็น เช่น นักเรียน ผู้ป่วย ผู้สูงอายุ เดินทางได้ตามปกติ

2. จำกัดเวลา
– ปรับเวลาการเปิด–ปิดด่านให้สั้นลง ตามความเหมาะสมในแต่ละพื้นที่

3. ปิดจุดที่ไม่จำเป็น
– โดยเฉพาะจุดที่ตั้งอยู่ใกล้ บ่อนการพนันผิดกฎหมายฝั่งกัมพูชา หรือมีประวัติการลักลอบผิดกฎหมายซ้ำซาก จะถูกพิจารณาปิดก่อนเป็นอันดับแรก

4. ปิดตลอดแนวชายแดน (ในกรณีจำเป็น)
– หากสถานการณ์ลุกลามโดยไม่มีความร่วมมือใด ๆ มาตรการสุดท้ายคือการปิดด่านทั้งหมด ซึ่งต้องผ่านการประเมินร่วมในทุกระดับ โดยยึดหลัก “ความปลอดภัยของประชาชนและกำลังพล” เป็นอันดับหนึ่ง

 

ล่าสุด ด่านอรัญประเทศ จ.สระแก้ว ได้เริ่มทดลองปิดเร็วขึ้นเป็นเวลา 16.30 น. ซึ่งถือเป็นมาตรการนำร่อง พล.ต.วินธัย ย้ำว่า การปิด-เปิดด่านแต่ละแห่ง จะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของทหาร ปกครอง และตำรวจในพื้นที่ โดยเน้นความยืดหยุ่นและสอดคล้องกับข้อเท็จจริงเฉพาะจุด

 

โฆษกกลาโหม กล่าวเสริมว่า ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ได้ให้แนวทางชัดเจนตั้งแต่ต้นว่า ไม่ต้องการใช้กำลัง ไม่ต้องการให้เกิดความรุนแรง แต่เมื่อฝ่ายตรงข้ามไม่มีความจริงใจ จึงต้องเริ่มดำเนินมาตรการตอบโต้ โดยให้กองทัพบกนำแผนไปสู่การปฏิบัติ

 

ในช่วงท้าย นายนิกรเดช ตอบคำถามผู้สื่อข่าวว่า ไทยยังคงยืนยันจะใช้กลไกทวิภาคีอย่าง JBC ซึ่งมีกำหนดประชุมในวันที่ 14 มิ.ย.นี้ และหวังว่าจะยังสามารถจัดการประชุมได้ตามกำหนด เพื่อหาทางออกที่ยั่งยืน ลดความตึงเครียดในพื้นที่ และรักษาความสัมพันธ์ในภาพรวมระหว่างสองประเทศ

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube